ร่างกายของมนุษย์นั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่บรรดาเหล่านักวิทยาศาสตร์มักจะถึงอยู่เสมอเนื่องจากร่างกายส่วนต่าง ๆ นั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้ใช้งานได้อย่างสารพัดประโยชน์รวมถึงมันยังมีส่วนต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องส่วนที่บอบบางกว่าอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นเปลือกตาที่มันมีหน้าที่เพื่อปกป้องดวงตาของเรา แถมเจ้าเปลือกตานี้มันยังเป็นอีกส่วนหนึ่งของร่างกายที่ทำงานในแบบกลไกลอัตโนมัติ เพราะมันจะปิดลงทันทีเพื่อป้องกันอันตราย และ เศษต่าง ๆที่พุ่งเข้ามากระทบดวงตา
นอกจากเวลาที่มันปิดตัวลงมันยังสามารถที่จะช่วยให้ดวงตาของเรากลับมาชุ่มชื่นได้เหมือนเดิมอีกด้วย ซึ่งเพราะความสำคัญของมันนี่เองที่ทำให้หลาย ๆ คนแทบจะนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าคุณขาดสิ่งที่เรียกว่าเปลือกตาไปจะเป็นยังไง
ซึ่งแม้ว่าเปลือกตานั้นจะหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมในการป้องกันดวงตา แต่ทว่าแท้จริงแล้วผิวหนังของเปลือกตานั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ค่อนข้างบางเป็นอย่างมาก และมันยังนับได้ว่าเป็นส่วนที่บางที่สุดของร่างกายเลยอีกด้วย ดังนั้นการที่คุณเลือกที่จะสักบริเวณเปลือกตานั้น สิ่งแรกที่คุณต้องนึกถึงเลยนั่นก็คือ การเจอกัน 2 สิ่งนี้ โดยเปลือกตาของเราก็เปรียบเสมือนกับกระดาษและเครื่องสักก็เปรียบเสมือนกับปากกา ดังนั้นการสักเปลือกตามันจึงไม่สามารถทำได้เหมือนลักษณะเดียวกันกับการสักฝ่ามือ
สาเหตุที่ทำให้การสักเปลือกตานั้นมีความแตกต่างจากการสักฝ่ามือนั้นเนื่อง
มาจากความละเอียดอ่อนของเปลือกตานั้นแตกต่างจากฝ่ามืออยู่มากเนื่องจากฝ่ามือนั้นเป็นส่วนที่มีความหนาที่สุดของร่างกาย มันจึงทำให้การสักฝ่ามือนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้แรงกดมากกว่าเดิน แต่ในขณะเดียวกันการสักเปลือกตานั้นมันไม่จำเป็นที่จะต้องอาศัยแรงกดขนาดเท่ากับการสักฝ่ามือเลยแม้แต่น้อย แต่สิ่งที่ต้องมีมันกลับเป็นความประณีตและความอ่อนโยนแทน ดังนั้นเปลือกตาเลยกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายที่ต้องอาศัยความชำนาญอย่างมากในการสัก
โดย Indy Voet นั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปินจากบรัสเซลส์ที่ค่อนข้างมีความชำนาญในการสักเปลือกตาเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วเขามักจะใช้มือในการสัมผัสร่างกายของผู้ที่มาสักก่อน เพราะมันจะช่วยทำให้เขาสามารถที่จะควบคุมน้ำหนัก และความละเอียดอ่อนได้ในขณะที่เขาสักจุดอันบอบบางเหล่านี้ได้ ซึ่งตัวของ Indy Voet นั้นบอกว่าจริง ๆ แล้วการสักเปลือกตานั้นก็มีลักษณะคล้ายกับจุดอื่น ๆ นั่นแหละ เพียงแต่ว่ากรรมวิธีในการสักนั้นไม่ใช่สิ่งที่ง่ายที่สุดในการสัก
และเมื่อมันเป็นส่วนที่บอบบางสิ่งที่ตามมานั่นก็คือความเจ็บปวด ซึ่งเรื่องการอดทนต่ออาการเจ็บปวดของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน ดังนั้นเราจึงไม่สามารถที่จะสามารถฟันธงได้ว่าการสักเปลือกตานี้มันเจ็บปวดขนาดไหน แต่ถ้าจะให้เราพูดในแง่มุมของทางวิทยาศาสตร์แล้วละก็ เปลือกตา นั้นถือได้ว่าเป็นส่วนของร่างกายที่สร้างความเจ็บปวดได้มากที่สุดในเวลาที่มีการสัก เนื่องจากบริเวณเปลือกตานั้นจะมีเส้นประสาทจากสมองทั้งสามเส้นที่ควบคุมอยู่ นอกจากนั้นแล้วยังมีอีก 6 เส้นประสาทที่ควบคุมลูกตาอยู่ ซึ่งเส้นประสาทที่ชื่อว่า trigeminal จะมีส่วนในการช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสที่เปลือกตา และเจ้าเส้นนี้นี่เองแหละที่มีส่วนทำให้เกิดความเจ็บปวดเป็นอย่างมากเมื่อถูกเข็มฝังลงไป นอกจากนั้นแล้วใต้ชั้นผิวหนังของเปลือกตายังเป็นกระจกตาที่ค่อนข้างเปราะบาง และมันยังเป็นเนื้อเยื่อที่ฝังแน่นที่สุดในร่างกายของมนุษย์ จึงทำให้การสักบริเวณเปลือกตานั้นเป็นการสักอีกอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ไม่เคยมีใครคนไหนมาให้คะแนนว่าการสักเปลือกตานั้นสร้างความเจ็บปวดขนาดไหน แต่ถึงแบบนั้นแล้วตัวของ Voet เองก็สามารถที่จะเห็นปฏิกิริยาของลูกค้าของเขาที่ตอบสนองแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็นคนที่เกือบหลับ ไปจนถึงคนที่เจ็บปวดจนทนแทบไม่ไหว ซึ่งถ้าคุณยังนึกภาพเหล่านี้ไม่ออกเราขอแนะนำให้คุณไปลองค้นหา YouTube การสักเปลือกตาดูก่อน ซึ่งคุณน่าจะเดาความเจ็บปวดของพวกเขาได้จากคลิปเหล่านั้น
ส่วนเรื่องความเสี่ยงในการสักบริเวณเปลือกตานั้นถือได้ว่ามีความเสี่ยงในระดับหนึ่ง
ซึ่งถ้าให้พูดจริง ๆ แล้วการสักในทุก ๆ ส่วนล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยง และ เกี่ยวข้องกับอันตรายทั้งนั้น แต่ทว่าการสักเปลือกตานั้นถือได้ว่าเป็นการสักที่อันตรายที่สุด เนื่องจากมีมันมีโอกาสที่จะทำให้เข็มพลาดแทงเข้าไปในเรตินาดวงตาของคุณโดยไม่ตั้งใจ และนั่นเองจึงทำให้ช่างสักจำเป็นที่จะต้องมีความชำนาญเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจะพาคุณไปดูกันก่อนว่าการสักเปลือกตานั้นมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
มีการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการแต่งเปลือกตาแบบถาวรออกมาว่าการทำแบบนั้นจะทำให้กระจกดวงตาของคุณเกิดอาการสึกกร่อนได้ อย่างไรก็ตามการสักเปลือกตานั้นความเสี่ยงอาจจะเพิ่มขึ้นตามประสบการณ์ของระดับทักษะ และ ประสบการณ์ของช่างสักที่คุณเลือก โดยความเสี่ยงหลัก ๆ ของการสักเปลือกตานั้นมันอาจจะทำให้หมึกในรอยสักหลุดออกมาแล้วเข้าไปผสมกับเปลือกตาจนกลายเป็นสีของหมึกแบบถาวร ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะไม่ได้ทำให้คุณถึงชีวิต แต่มันอาจจะสร้างความเสียหายทางจิตใจได้มากพอสมควร มันจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้คุณต้องระวังให้มาก ๆ หากจะต้องการจะสักบริเวณเปลือกตา
อีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นจากการสักเปลือกตานั่นก็คือ การติดเชื้อ เนื่องจากบริเวณเปลือกตานั้นถือได้ว่าเป็นส่วนที่มีโอกาสติดเชื้อค่อนข้างสูง เนื่องจากตาแต่ละข้างนั้นมีต่อมน้ำมันค่อนข้างมาก และ ในกรณีที่ต่อมเหล่านี้ติดเชื้อรุนแรง แบคทีเรียที่เกิดจากการติดเชื้ออาจจะทำให้คุณสูญเสียการมองเห็นได้
และเมื่อมันมีอันตรายแบบนี้มันจึงทำให้การดูแลเปลือกตาหลักจากการสักนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญ ดังนั้นคุณควรที่จะใช้สบู่ที่ปราศจากน้ำหอม รวมถึงน้ำอุ่น ลูบบริเวณรอยสักนั้นให้แห้ง ก่อนที่จะลงมอยส์เจอไรเซอร์ที่ปราศจากน้ำหอม และ แอลกอฮอล์ เพื่อบำรุง และไม่ควรที่จะทาครีมกันแดด แต่งหน้า หรือ ไปสัมผัสที่รอยสักบริเวณเปลือกตาบ่อย ๆ นอกจากนั้นแล้ว คุณควรที่จะทำให้เปลือกตามีความชุ่มชื้นเล็กน้อยอยู่ตลอด
อีกหนึ่งปัญหาที่หลาย ๆ คนน่าจะกังวลหลังจากที่เริ่มมีการสักเปลือกตานั่นก็คือหากคุณไม่ชอบและอยากจะลบมัน มันจะวุ่นวายกว่าเดิมหรือไม่ เพราะว่าวิธีการเอารอยสักออกที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้กันดีนั่นก็คือการใช้เลเซอร์ ดังนั้นเมื่อนำเลเซอร์มาฉายที่บริเวณเปลือกตานั้นมันจะทำให้เกิดอันตรายต่อดวงตาของคุณหรือไม่ ซึ่งคำถามนี้เราสามารถตอบได้เลยว่า ไม่ เพราะว่าขั้นตอนในการเลเซอร์เอารอยสักบริเวณเปลือกตาออกนั้น ขั้นแรกบริเวณเปลือกตาของคุณจะถูกทาด้วยยาชาก่อนเพื่อให้เกิดอาการชา และหลังจากนั้น จะมีการเอาสเตนเลส รวมถึงพลาสติกที่เป็นหูจับครอบทับหรือสอดใส่ไว้ใต้เปลือกตาเอาไว้
โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยป้องกันกระจกตาจากเลเซอร์ได้ นอกจากนั้นแล้วเลเซอร์ที่ใช้สำหรับลบการสักนั้นยังถือได้ว่ามีความอ่อนโยน และ มีความร้อนน้อยมาก ๆ เพราะมันจะถูกปรับให้เหมาะสมกับส่วนที่จะลบรอยสัก แต่เพราะความร้อนที่ต้องอ่อนลงทำให้บางทีรอยสักนั้นอาจจะไม่หายไป และ แน่นอนว่าถ้าหากมีการปรับความร้อนของเลเซอร์ให้มากขึ้นมันก็อาจจะเกิดอันตรายมากขึ้นได้
และนี่ก็คือเรื่องราวของอีกหนึ่งตำแหน่งของรอยสักอย่างการสักเปลือกตาที่เราได้นำมาฝากทุก ๆ คน ซึ่งเราหวังว่าบทความนี้น่าจะเป็นบทความที่มีประโยชน์อีกบทความหนึ่งที่ใครกำลังคิดที่จะสักอยู่ได้มาลองศึกษากัน