สารบัญ ลายสัก รอยสัก

ประเภทรอยสัก ที่คุณต้องรู้ไว้ก่อนจะเริ่มสัก

I Have Diabetes. Can I Get a Tattoo? – Cleveland Clinic

ในปัจจุบันนี้รอยสักนั้นถือได้ว่าเป็นอีกช่องทางของศิลปะ และ เป็นการแสดงตัวตนรวมถึงความหมายแฝงบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์ของเราออกสู่สายตาคนภายนอก จึงทำให้ในปัจจุบันนี้มีทั้งผู้ชาย และ ผู้หญิง หลาย ๆ คนนิยมที่จะมีรอยสักอยู่บนร่างกายกันเพิ่มมากขึ้น แต่การที่จะเลือกสักอะไรสักลายหนึ่งนั้น ผู้ที่สักเองก็ต้องระลึกเอาไว้เสมอว่ารอยสักแต่ละรอยนั้นมันจะติดอยู่บนร่างกายของเราไปตลอดกาล ดังนั้นคุณจึงต้องทำความเข้าใจ และ เลือกรอยสักนั้นให้ดีก่อนที่เริ่มต้นไปให้ช่างลงน้ำหมึกบนร่างกาย แต่สำหรับคนที่จะเริ่มสักเราก็เข้าใจแหละว่า หลาย ๆ คนอาจจะงง ๆ เคว้ง ๆ เพราะไม่รู้ว่าจะไปเริ่มต้นจากไหน ดังนั้นก่อนที่คุณจะเริ่มมีรอยสักในร่างกาย เราจะขอพาทุก ๆ ไปรู้กันว่า ในโลกใบนี้นั้นมีรอยสักประเภทไหนกันบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้เราเคยได้แนะนำเอาไว้ส่วนหนึ่งแล้ว คุณสามารถที่จะย้อนกลับไปอ่านประเภทรอยสักต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ได้ ส่วนสำหรับใครที่เคยอ่านกันมาแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาดูรอยสักประเภทอื่น ๆ กันต่อ

รอยสักประเภทที่ 1

ที่เราจะขอแนะนำกันต่อในบทความนี้นั่นก็คือ รอยสักที่ถูกเรียกว่า Irezumi หรือถ้าจะให้พูดแบบเข้าใจง่าย ๆ เลยนั่นก็คือ รอยสักแบบญี่ปุ่นนั่นเอง ซึ่งรอยสักแบบนี้เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นชิ้นกันดีกับหนังแนวยากูซ่า หรือ หนังที่มีพวกนักเลงญี่ปุ่นต่าง ๆ นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่ลวดลายที่เรามักจะพบเห็นในการสักแบบ Irezumi นั้นก็มักจะเนพวกปลาคาร์ฟ , สายน้ำ , ดอกซากุรุ , ซามูไร , หน้ากา รวมไปถึงภูตผีต่าง ๆ ซึ่งรอยสักนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรอยสักเชิงศิลปะ ที่มีคุณค่าทางจิตวิญญาณได้ค่อนข้างมากทีเดียว แต่ถึงแบบนั้นแล้วภาพลักษณ์ของรอยสักญีปุ่นหรือ Irezumi นั้นแม้ว่าจะมีความสวยงาม และ ความซับซ้อนค่อนข้างมาก แต่ทว่าในทางกลับกลับทางรัฐาบาลของญี่ปุ่นเองกลับไม่ค่อยสนับสนุนด้านนี้สักเท่าไหร่นักเนื่องจากในอดีตนั้นรอยสักนี้มันเคยเป็นสัญลักษณ์ของการลงโทษ เหล่าอาชญากรในญี่ปุ่นนั่นเองรอยสักญี่ปุ่น Irezumi วัฒนธรรมและความหมายอันลึกซึ้ง –  รอยสักสื่อความหมายแสดงออกถึงความเป็นตัวคุณ

โดยเทคนิคของรอยสักญี่ปุ่นนั้นจะคล้ายกับเทคนิคการทำภาพพิมพ์ของญี่ปุ่น ที่จะใข้อุปกรณ์แกะสลัก กับเหมือนที่เรียกว่า Nara Ink ซึ่งจะสามารถเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอมเขียวได้เมื่อยู่ใต้ผิวหนัง แต่ทว่ากระบวนการสร้างรอยสักแบบญี่ปุ่นในฉบับดั่งเดิมจะมีความเจ็บปวดค่อนข้างมาก แถมยังใช้เวลาในการสักนานเป็นปี ๆ รวมถึงยังใช้เงินมากสุดอีกด้วย

รอยสักประเภททต่อมานั้นก็ไม่ต้องไปมองหาที่ไหนไกล เพราะมันคือรอยสักของไทยเรานั่นเอง โดยแม้ว่าจะไม่ใช่รอยสักที่มีความวิจิตร หรือ มีความหมายแฝงมากมาย เหมือนกับรอยสักอื่น ๆ แต่ว่าการสักยันต์ของไทยนั้นถือได้ว่าเป็นเป็นอีกหนึ่งรายสักที่มีมาตั้งแต่โบราณ โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชายไทยในสมัยก่อนจะนิยมสักยันต์ด้วยเหตุผลทางความเชื่อเกี่ยวกับเวทมนต์ คาถา หรือเพิ่มความแข็งแกร่งทางจิตใจ เช่นความอยู่ยงคงกระพัน แต่ทว่าถ้าจะให้เรียกกันเต็ม ๆ ปากว่า มันเป็นรอยสักของไทยก็ไม่น่าจะซะได้ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว การสักยันต์แบบนี้นั้นมีต้นกำเนิดมาจากประเทศกัมพูชา โดยอ้างอิงจากภาษาที่ถูกสักลงไปในรอยสักนั้นจะเป็นภาษาขอมนั่นเอง ส่วนรายสักที่เรามักจะเห็นกันบ่อย ๆ ในสังคมทั่วไปของบ้านเราเลยก็คงจะหนีไม่พ้น Visit gallery | Thai Tattoo Café portfolio — Thai Tattoo Café

ยันต์เก้ายอด ยันต์ห้าแถว 

25 Geometric Tattoo Designs That Will Make You Stand Out

รอยสักประเภททต่อมา

ก็คือรายสักที่ถูกเรียกว่า Geometric โดยลวดลายนั้นจะมีลักษณะที่เป็นรูปทรงซึ่งดูพลิ้วไหว ซึ่งจริง ๆ แล้วลายสักแบบนี้ถูกพัฒนาต่อยอดมากจารอยสักแบบมินิมอลที่เราได้เคยนำเสนอกันไปแล้วนั่นเอง ซึ่งจุดเด่นของรอยสักแบบนี้นั่นก็คือ ความเรียบง่าย และจะใช้หมึกสีดำเป็นหลักในการสัก และ อีกหนึ่งจุดเด่นที่ค่อนข้างเด่นชัดที่สุดของรอยสักแบบ

Geometric นั้นก็คือ การสักประเภทนี้จะใช้รูปทรงเรขาคณิต ขีด จุด และลายเส้นแบบต่าง ๆ เข้ามาประกอกบันจนกลายเป็นลวดลายที่สวยงาม และ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนั่นเอง

รอยสักประเภททต่อมาก็คือ Quote  ซึ่งแน่นอนแหละว่าในปัจจุบันนี้เราต้องยอมรับกันเลยจริง ๆ ว่า เดี๋ยวนี้ก็ใคร ๆ ก็คิดแต่จะพูดคำคมเท่ ๆ กันทั้งนั้น แถมในปัจจุบันพอมีสื่อโซเชี่ยลมีเดียเข้ามามันจึงทำให้คนเหล่านั้นได้แสดงตัวตนและส่งคำคมสุดเท่ 

สุดเก๋ แสนเฟี้ยวออกมาให้เราได้เห็นทั้งใน IG , Facebook ซึ่งเพราะคำที่มันเท่ และ โดนใจนี้เองจึงทำให้บรรดาเหล่าสาวกที่ต้องการเน้นการสักแบบ มินิมอล นั้นรู้สึกโดนใจ และเลือกเอารอยสักแบบนี้มาใช้ เนื่องจากรอยสักประเภทนี้มันสามารถที่จะบ่งบอกความเป็นตัวเองออกมาได้ง่าย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องตีความอะไรให้มันมากมายนั่นเอง 

ซึ่งคนที่เลือรอยสักประเภทนี้มาสักบนร่างกายนั้นมักจะเลือกเอาประโยคที่สามารถบ่งบอกตัวตนได้แบบสั้น ๆ และจุดเด่นของรอยสักแบบนี้นั่นก็คือ มันดูสะอาดตา และ ยังเป็นจุดเด่นสำคัญบนร่างกายแม้จะขนาดเล็กก็ตาม แถมเรายังสามารถที่จะเลือกฟ้อนท์ หรือ การจัดวางได้ง่าย ๆ รวมถึงบางคนเองก็อาจที่จะเลือกใส่รูปภาพเล็ก ๆ น้อย ๆ เสริมเข้าไปเพิ่มให้มีความสวยงามมากยิ่งขึ้น

Tattoo by Kamil Czapiga | Post 12298 | Geometric tattoo, Hexagon tattoo, Pattern  tattoo

รอยสักประเภททต่อมาก็คือ รายสักที่ถูกเรียกว่า Pattern  โดยถ้าจะนิยามรอยสักแบบนี้ว่าคืออะไร คำตอบง่าย ๆ มันก็คือลาย

Henna แบบของประเทศอินเดียวนั่นเอง ซึ่งรอยสักแบบ Pattern นี้จะมีความสมมาตรมากกว่าลายสักแบบอื่น ๆ แถมยังมีความสวยงามดูอ่อนช้อยเป็นอย่างมาก แต่ที่กลายเป็นจุดเด่นจริง ๆ ของรอยสักลาย Pattern นั่นก็คือ มันสามารถที่จะเติมลายสักไปได้เรื่อย ๆ จนกว่าเราจะรู้สึกพอใจนั่นเอง 

Blackout Tattoos

รอยสักประเภททต่อมาก็คือ Blackout โดยรอยสักประเภทนี้จะเน้นไปที่การถมสีดำลงบนพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น หัวไหล่ , แขน , อก หรือแผ่นหลัง ซึ่งบางคนเองก็อาจที่จะใช้รูปทรงอันหลากหลายเข้ามาผสมผสานไปกับการถมดำแล้วแต่ทีผู้สักชื่นชอบ เช่นบางคนเองก็เลือกที่จะถมดำลงไปบนร่างกายแบบเพียว ๆ เลยเหมือนกับที่เราเห็นกันในหลาย ๆ คน หรือบางคนก็เลือกที่จะสักแบบ Band รอบแขน หรือ รอบขาขึ้นมา นอกจากนั้นแล้วบางคนก็ยังมีการผสมลวดลายแบบ Geometric เข้าไปกับการถมดำ จนเกิดออกมาเป็นลายที่ดูเด่น และ สวยไม่ใช่เล่นเลยก็มี

รอยสักประเภททต่อมาก็คือ Watercolor  ซึ่งจริง ๆ แล้วรอยสักประเภทนี้ถือได้ว่าเป็นการสักที่เกิดขึ้นมาได้ไม่นานักแต่ทว่ามันก็ถือได้ว่าเป็นเทรนด์ใหม่ที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็จับตามมองมาเลยทีเดียว โดยรอยสักประเภทนี้ได้รับแรงบันดาลใจมากการการกระจายตัวของสีน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่การสักประเภทนี้จะเลือกใช้สีสันที่ค่อนข้างสดสใส เพื่อให้ดูเข้ากับสีสันของรอยสักนั่นเอง11 Amazing Watercolor Tattoos For Folks Who Want To Make Their Bods Even  More Beautiful

แต่ทว่าเห็นแบบนี้การสักแบบนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะว่าช่างสักที่จะสักแบบนี้ได้จำเป็นที่จะต้องมีชั่วโมงบิน และ ฝีมือมากอยู่พอสมควร เพราะคุณลองคิดดูสิว่าธรรมดาแค่การใช้พู่กันลงสีน้ำให้สวยงามนั้นว่ายากแล้ว แต่การต้องใช้เข็มที่ไม่ได้มีคุณสมบัติเหมือนพู่กันเพื่อสร้างสีสันการกระจายตัวให้สมจริงนั้นมันยากกว่ากันขนาดไหน

What Is Body Branding? Everything You Need to Know About This "Extreme"  Form of Body Modification | Allure

ส่วนอันสุดท้ายที่เราจะพูดถึงนั้นจริง ๆ มันก็เชิงว่าเป็นรอยสักหรอกเพราะว่ามันไม่ใช้น้ำหมึกในการทำลวดลายบนผิวหนัง โดยวิธีการนั้นก็คือ  African หรือเรียกอีกอย่างว่า Scarification ซึ่งรอยสักแบบ African นั้นจะเป็นศิปละการสร้างลวดลายนูนต่ำลงผิวหนังของเราโดยปราศจาการใช้สี ซึ่งค่านิยามนี้มันสามารถบ่งบอกถึงความอดทน และ สถานะทางชนเผ่าของตัวเองได้อย่างดี 

โดยวิธีการสร้างรอยสักประเภทนี้จะเป็นการใช้วัตถุปลายแหลมกรีดผิวหนังออกไปเพื่อให้เกิดเป็นคีลอย์ โดยในทางชนเผ่านั้นการทำแบบนี้จะนิยมทำเพื่อเป็นการบ่งบอกว่า เด็กชายคนนั้นได้เข้าสู่การเป็นชายหนุ่มโดยสมบูรณ์แล้วนั่นเอง

และนี่ก็คือเรื่องราวของรอยสักประเภทต่าง ๆ ที่เรานำมาเสนอให้กับทุกคนได้รู้กัน ซึ่งหลังจากอ่านบทความนี้จบ เราก็ว่าคุณน่าจะได้รับแรงบันดาลใจในการสักไม่มากก็น้อยจากบทความนี้ของเรา

ลายสัก HOT

บทความลายสักล่าสุด

หมวดหมู่ลายสัก

สารบัญ ลายสัก รอยสัก