การไม่มีโรคนั้นถือว่าเป็นลาภอันประเสริฐ เราเชื่อว่าคำคำนี้น่าจะเป็นคำที่หลาย ๆ คนน่าจะได้ยิน และ ถูกพูดถึงอยู่เสมอ ๆ แน่นอนแหละว่าคงไม่มีมนุษย์คนไหนหรอกที่อยากจะป่วย และ ต้องนอนซมอยู่บนเตียง และนั่นเองจึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์อย่างยารักษาโรคชนิดต่าง ๆ ขึ้นมาอย่างมากมาย แต่ทว่ายาเหล่านั้นก็เป็นเพียงหนทางแก้ปลายเหตุหลังจากที่เราเกิดอาการป่วยเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงอาการป่วยให้ดีที่สุดนั่นก็คือ การพยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ให้ได้มากที่สุด โดยไม่นำสิ่งแปลกปลอม หรือ อะไรผิดปกติเข้าสู่ร่างกาย และนั่นเองมันจึงได้กลายเป็นคำถามต่อมาที่บรรดาเหล่าคนที่ชื่นชอบรอยสักหลาย ๆ คนชอบถามว่า แล้วแบบนี้รอยสักบนร่างกายจะทำให้คุณมีปัญหาสุขภาพใช่หรือไม่
ซึ่งสำหรับใครที่เพิ่งเข้ามาอ่านบทความนี้เป็นครั้งแรก เราได้ตอบคำถามที่คุณกำลังสงสัยไปบางส่วนแล้วใน Part 1 ของบทความนี้ ซึ่งใครที่ยังไม่เคยอ่าน เราขอแนะนำให้คุณไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับบทความเก่าของเราเพื่อทำความเข้าใจเนื้อหากันเสียก่อน แต่สำหรับใครที่เคยอ่านในส่วนก่อนหน้านี้กันไปแล้ว ตอนนี้ถึงเวลาแล้วละที่เราจะมาดูเรื่องราวของปัญหาสุขภาพที่เกิดจากรอยสักกันต่อ ซึ่งมันจะส่งผลอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่า เราไปชมกันเลยดีกว่า
ซึ่งเราน่าจะเคยได้ยินเรื่องราวของรอยสักที่มักจะถูกบรรดาเหล่านักสุขภาพหลาย ๆ
ออกมาวิจารณ์ถึงความปลอดภัย แต่ทว่าหากคนที่อยู่ในวงการสักอยู่แล้วก็น่าจะพอเข้าใจกันดีว่าจริง ๆ แล้วในวงการนี้เรื่องความสะอาดนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ ของร้านเลยทีเดียว เพราะว่าประเทศส่วนใหญ่นั้นบรรดาเหล่าศิลปิน หรือ ช่างสักจะต้องมีใบอนุญาตในการประกอบการเพื่อเป็นการการันตีถึงความปลอดภัยให้แก่ตัวลูกค้า แต่ถึงภายในร้านสักจะมีความสะอาดปลอดภัยมากขนาดไหนก็ตาม แต่สิ่งที่คนกลัวส่วนใหญ่มักจะเป็นสิ่งอย่าง หมึก หรือ เข็มสัก
เรื่องแรกที่เราว่าหลาย ๆ น่าจะกังวลใจมากที่สุดนั่นก็คือ หมึกสัก ซึ่งแน่นอนว่าหมึกสักนั้นถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญอันดับต้น เพราะว่ามันคือสิ่งที่จะติด และ คงอยู่กับเรานับตั้งแต่ที่เราก้าวเท้าเข้าสู่ร้านสัก โดยทางที่ดีที่สุดที่คุณจะรู้ว่ามันเป็นอันตรายต่อร่างกายของคุณหรือไม่ นั่นก็คือ การหาส่วนผสมของหมึกสักเหล่านั้นที่ช่างใช้กับคุณอ่านดู ซึ่งส่วนใหญ่แล้วสารเคมีที่จะเป็นต้นเหตุของสารพิษนั้นจะอยู่ในกลุ่มโลหะหนัก และบางเฉดสีก็อาจจะมีสารอันตรายอย่างอื่นประกอบด้วยเช่น สีน้ำเงิน หรือ สีเขียว อาจจะมีสารเคมีอย่างโคบอลต์ และ พทาโลไซยานีน หรือสีอย่างสีแดงก็ได้ชื่อว่าเป็นสีที่ส่งผลต่อปัญหาของผิวมากที่สุด นอกจากนั้นแล้วในหมึกเหล่านั้นยังมีส่วนผสมของ ตะกั่ว ไททาเนียมไดออกไซด์ สังกะสี และทองแดง
ซึ่งจริง ๆ แล้วสารพวกนี้มันเป็นสิ่งที่ประกอบอยู่ในสีน้ำมันที่บรรดาเหล่าศิลปินระดับก้องโลก
มากมายใช้เนรมิตภาพอันงดงามลงไปบนผืนผ้าใบมานานหลายศตวรรษ แต่ทว่าทั้งหมดนั้นคือผืนผ้าใบ และ มันยังไม่เคยได้ศึกษาอย่างมากพอที่จะใช้บนร่างกายมนุษย์ ซึ่งแม้ว่าหมึกสำหรับรอยสักของหลาย ๆ ยี่ห้อจะเครมเอาไว้ว่าหมึกของตัวเองปลอดภัย และ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ก็ตามที แต่ทว่าจากผลการศึกษาจากประเทศฝรั่งได้พบว่ามีงานวิจัยหนึ่งบอกเอาไว้ว่า จริง ๆ แล้วหมึกเหล่านั้นต่างซ่อนสร้างเคมีสำคัญหลาย ๆ อย่างเอาไว้ และสารเหล่านั้นอาจส่งผลให้ก่อเกิดมะเร็งได้อีกด้วย และนั่นเองจึงทำให้หน่วยงานเกี่ยวกับอนามัยต้องออกมาวางกรอบ และ กฎระเบียบต่าง ๆ เกี่ยวกับหมึกสัก
โดยผลิตภัณฑ์มากถึง 75% ที่ถูกทำการทดสอบนั้น ได้พบว่าในนั้นมีอัตราของสารเคมีอยู่เยอะกว่ากฎ แถมที่น่าตกใจยิ่งกว่าก็คือใน 75% นั้นยังมีหมึกยี่ห้อดัง ๆ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายอีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีก่อนที่คุณจะเริ่มสักเราขอให้คุณลองตรวจสอบกับช่างสักของคุณให้ดีเสียก่อนว่า ช่างคนนั้นของคุณกำลังจะสร้างรอยสักให้คุณด้วยหมึกอะไร และคุณต้องไปตรวจสอบต่อว่าส่วนผสมของหมึกเหล่านั้นมันมีส่วนผสมที่จะส่งผลต่อร่างกายคุณมากน้อยแค่ไหน
อีกหนึ่งปัญหาที่สุขภาพที่มักจะเกิดกับรอยสักนั่นก็คือ รอยสักนูน หรือ เป็นหลุมเป็นบ่อนั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วปัญหานี้มักจะเกิดจากการที่รอยสักของเราโดดแดดโดยตรง และมันอาจจะตามมาด้วยอาการระคายเคืองจนคัน นอกจากนั้นแล้วผู้ที่มีผิวบอบบางควรระมัดระวังในการสักให้มาก และ ควรที่จะแจ้งให้ช่างสักของคุณได้ทราบถึงปัญหานี้ทุก ๆ ครั้ง เพราะช่างสักจะไม่ได้ทำงานกับผิวหนังของคุณนานเกินไป และ เขาอาจจะเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวมากกว่าที่ใช้อยู่ปัจจุบันเพื่อคุณโดยเฉพาะ
อีกหนึ่งอย่างของผู้ที่จะไปสักนั่นก็คือ คุณควรสังเกตอาการของตัวเองว่าตัวของคุณนั้นมี โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือแพ้สารอย่างฮีสตามีน และ ฮีโมฟีเลีย หรือไม่ เพราะว่าปัญหาเหล่านี้บางทีเองก็ไม่ได้มาจากหมึกสัก แต่มันอาจจะมาจากการกระบวนการทางร่างกายคุณที่ต่อต้านหมึกสักพวกนั้นเอง
โดยอาการดังกล่าวได้มีการวิจัยเอาไว้ว่าในขณะที่คุณกำลังสักอยู่นั้นร่างกายของคุณจะหลั่งคอร์ติซอล
ออกมา ซึ่งนั่นคือปฏิกิริยาตามธรรมชาติเนื่องจากเมื่อร่างกายของคุณเจอภาวะติดเครียดและความเจ็บปวดจากการสัก แต่ทว่าไอ้เจ้าสารคอร์ติซอลนี้มันยังมีอีกหนึ่งหน้าที่นั่นก็คือการเป็นสารกดภูมิคุ้นกัน และอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย และ อาจจะทำให้คุณเป็นหวัดง่ายขึ้น
นอกจากนั้นแล้วยังมีเหล่านักวิจัยอีกกลุ่มหนึ่งมองว่าอนุภาคนาโนที่ถูกปล่อยออกมาจากรอยสักนั้น มันจะพบในหมึกพิมพ์ และมันอาจจะส่งผลต่ออวัยวะภายในของร่างกายอย่างเช่น ตับ ซึ่งเป็นอวัยวะที่มีหน้าที่ในการกรองของเสีย
ส่วนเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณต้องการจะจะลบรอยสักออก มันก็อาจส่งผลไปถึงระบบน้ำเหลือง และ สารพิษจากหมึกสักเองก็ยังถือได้ว่าเป็นสารที่อาจจะส่งผลให้เกิดมะเร็งผิวหนัง ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะพอทราบกันดีกว่า ผิวหนังถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ใหญ่สุดของร่างกาย และ ร่างกายของเราก็มีระบบต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน ซึ่งเมื่อลายสักของคุณมันทำให้ระบบผิวหนังของคุณมีปัญหาแล้ว มันก็อาจจะทำให้ร่างกายของคุณทรุดไปทั้งระบบก็เป็นได้ และเพราะปัญหาของหมึกสักที่เต็มไปด้วยโลหะหนักนี้เอง จึงทำให้เกิดหมึกสักชนิดใหม่ขึ้นมา โดยหมึกนั้นก็หมึกสักมังสวิรัติ ซึ่งหมึกสักเหล่านั้นจะใช้ส่วนผสมที่ส่วนใหญ่นั้นเป็นพืช สมุนไพร หรือ ผลไม่ต่าง ๆ แต่ถ้าถามว่าหมึกสักแบบมังสวิรัตินั้นจะช่วยให้คุณห่างไกล และ ปลอดภัยหรือไม่ เราก็บอกว่ามันก็ยังไม่ได้ปลอดภัยแบบ 100%
เมื่อทราบถึงข้อมูลแบบนี้แล้ว เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเริ่มคิดหนักแล้วใช่ไหมล่ะว่า คุณควรที่จะมีลวดลายเหล่านี้อยู่บนร่างกายดีหรือไม่ เราขอให้คุณลองพิจารณาเป็นข้อ ๆ เลยว่า อันดับแรก คุณคิดว่าร่างกายของคุณอ่อนไหวต่อหมึกสัก หรือ แพ้อะไรง่ายหรือไม่ ส่วนอันดับที่ 2 นั่นก็คือ ร้านที่คุณจะไปสักนั้น สะอาด และ ช่างสักของคุณมีความเป็นมืออาชีพมากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าคุณสามารถตอบคำถามทั้ง 2 ข้อนี้ได้อย่างชัดเจนแล้วละก็ เราเชื่อว่าคุณจะได้คำตอบเองว่า คุณนั้นควรที่จะมีพวกมันอยู่บนร่างกายหรือไม่
และหลังจากที่คุณสามารถหาคำตอบได้แล้ว ถ้าคำตอบของคุณคือยังไงคุณก็จะมีลายสักให้ได้ สิ่งที่คุณต้องทำต่อไปนั่นก็คือการหาช่างสักที่สามารถสร้างสไตล์ที่เข้ากับตัวคุณได้ และพูดคุยทุกอย่างให้เคลียร์เพื่อให้คุณรู้สึกสบายใจในวันที่ไปสัก
และอย่าลืมว่าคุณต้องถามช่างสักทุกครั้งว่าใช้หมึกสักของอะไร และ มีวิธีการดูแลหลังจากเสร็จใหม่ ๆ อย่างไรบ้าง ซึ่งถ้าคุณทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ที่เราได้บอกเอาไว้แล้ว รับรองว่าคุณจะหมดคำถามว่า รรอยสักบนร่างกายจะทำให้คุณมีปัญหาสุขภาพใช่หรือไม่และลวดลายที่อยู่บนร่างกายของคุณเหล่านั้นจะต้องกลายเป็นสิ่งที่ประทับใจคุณไม่รู้ลืมอย่างแน่นอน