สไตล์ของการสักในปัจจุบันนี้ถือได้ว่าเป็นอะไรที่ค่อนข้างหลากหลายเนื่องจากในปัจจุบันเทคโนโลยีต่าง ๆ ค่อนข้างเอื้ออำนวยต่อการสักเป็นอย่างมาก และหนึ่งในสิ่งที่วงการสักได้ผลลัพธ์มาจากเทคโนโลยีเหล่านั้นก็คือ เครื่องสัก
โดยเจ้าเครื่องสักนี้สามารถทำให้ช่างสักหลากหลายคนสามารถเนรมิตรอยสักสวย ๆ ได้อย่างมากมาย
แต่ก็ใช่ว่าสิ่งที่เครื่องสักในปัจจุบันนี้จะเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการ เพราะถ้าหากเราย้อนไปดูกันจริง ๆ รูปแบบของการสักนั้นจะเกิดมาจากวิธีการใช้อุปกรณ์แหลมจุ่มน้ำหมึก แล้วใช้มือเป็นการควบคุมจังหวะในการลงน้ำหนักเข็มเหล่านั้น ซึ่งเรามักจะเรียกการสักแบบนี้ว่าการสักแบบมือ หรือชื่อภาษาอังกฤษก็คือ Hand Poke ซึ่งในปัจจุบันนี้ก็ยังมีช่างสักหลาย ๆ คนที่ยังคงใช้สไตล์การสักแบบนี้อยู่ จึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ งานสไตล์ Hand Poke กับตัวตนของ 2 ช่างสักสาว กัน ซึ่งเรื่องราวของงานสไตล์นี้ และ ตัวตนของช่างสักสาวทั้ง 2 จะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่า เราไปเริ่มต้นเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า
ทำความรู้จักกับงาน Hand Poke
ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วงานสไตล์ Hand Poke นั้นอยู่คู่กับวงการรอยสักมาอย่างยาวนานมาก โดยถ้าจะให้พูดถึงสิ่งที่ใกล้ตัวและคุณสามารถเห็นภาพได้มากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้น การสักของประเทศไทยที่สามารถเห็นได้แต่สมัยสุโขทัย จากบรรดาเหล่าทหารมักจะนิยมสักเพื่อความเชื่อของความคงกระพันหนังเหนียวในยามออกรบ หรือ บางรอยสักเองก็มีความเชื่อเกี่ยวกับภูตผี หรือ วิญญาณ โดยสิ่งเหล่านั้นจะถูกสะท้อนออกมาผ่านรูปแบบของการสักยันต์นั่นเอง
นอกจากนั้นแล้วงาน Hand Poke นั้นยังถูกนำมาใช้ในการแบ่งแยกบุคคลในสมัยก่อน ยกตัวอย่างเช่นประเทศญี่ปุ่นที่มักจะใช้รอยสักในการแบ่งแยกพวกยากูซ่า นักฆ่า หรือ อาชญากร และนั่นเองก็คือต้นเหตุที่ทำให้หลาย ๆ คนมองว่าคนที่มีรอยสักมักจะเป็นคนไม่ดีของสังคม จนทำให้สถานที่สาธารณะบางสถานที่งดให้บริการคนที่มีรอยสัก
แต่อย่างที่เราได้กล่าวเอาไว้ในหลาย ๆ บทความแล้วว่าเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป มุมมองของรอยสักเองก็เองก็ถูกเปลี่ยนตาม จึงทำให้เส้นทางของรอยสักในปัจจุบันนี้หลอมรวมเข้าไปกับงานด้านแฟชั่นมากขึ้น และแน่นอนว่าบางครั้งแฟชั่นก็โหยหาเรื่องราวในอดีต มันจึงทำให้ในปัจจุบันแม้ว่าวิธีการสักด้วยมือ หรือ Hand Poke จะเป็นอะไรที่เก่าไปแล้ว
แต่มันก็ยังคงความคลาสสิกเอาไว้ได้เสมอ
นิยามของงาน Hand Poke กับช่างสักสาว Mutita Suwannarit
โดยจุดประสงค์หลักการประดิษฐ์เครื่องสักมานั้นก็คือ การลดระยะเวลาในการสักให้น้อยลง และนั่นเองจึงทำให้เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดจะสักลายแบบ Hand Poke สิ่งที่คุณเผชิญนั่นก็คงจะหนีไม่พ้นงานที่ใช้ระยะเวลามากกว่าเดิม แถมในบางครั้งมันยังให้ความเจ็บกว่าเครื่องเป็นอีกเท่าตัว แต่ผลที่ได้รับกลับมานั่นก็คือ บาดแผลจากการสักจะหายรวดเร็วกว่า และหนึ่งในช่างสักสาวของเมืองไทยที่นิยมงานสักสไตล์นี้นั่นก็คือ ช่างทาย หรือ Mutita Suwannarit จาก XYLEM Tattoo Studio
ซึ่งร้านนี้ถือได้ว่าเป็นร้านแรกที่เปิดให้บริการสักแบบ Hand Poke ซึ่งนอกจากความคลาสสิกของสไตล์การสักด้วยมือนี้ตัวของช่างทายยังเพิ่มความสวยงามให้ลวดลายต่าง ๆ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย แถมบางรอยสักเธอยังตั้งใจสร้างขึ้นมาให้กับผู้หญิงโดยเฉพาะ
โดยจุดเริ่มต้นในการสักของเธอนั่นก็เริ่มมาแฟนของเธอเป็นช่างสัก และหลังจากนั้นเธอก็เริ่มฝึกการสักกับแฟนของเธอมาเรื่อย ๆ ซึ่งแม้ว่าในตอนแรกเธอจะเริ่มต้นด้วยการถือเครื่องสักเหมือนกับคนปกติ แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้ไปเห็นจากต่างประเทศว่ามันมีวิธีการสักที่เรียกว่า Hand Poke อยู่จึงทำให้เธอสนใจ จากนั้นเธอก็เริ่มเรียนรู้และฝึกงานสักสไตล์นี้ด้วยตัวเอง
ซึ่งตัวของช่างทายมองว่าการสักแบบ Hand Poke นั้นแตกต่างกับการสักยันต์ในสมัยก่อนค่อนข้างมากพอสมควร
ไม่ว่าจะเป็นลักษณะท่าทางของการจับเข็ม โดยการสักสไตล์นี้จะมีลักษณะในการจับเข็มคล้าย ๆ กับจับปากกา แถมเข็มที่ใช้ในการสักก็ยังสามารถที่จะเลือกขนาดเข็มได้ว่าจะใช้เข็มไซซ์ไหน ส่วนการสักยันต์นั้นมักจะเป็นเข็มรุ่นเก่าที่มีขนาดเดียว
และถ้าจะถามว่างานสักสไตล์ Hand Poke กับการใช้เครื่องสักนั้นแตกต่างกันไหม ตัวของช่างทายนั้นบอกว่าจริง ๆ แล้วเธอคิดว่าการสักด้วยมือนั้นจะให้ความเจ็บน้อยกว่าการใช้เครื่องด้วยซ้ำ แต่ถึงแบบนั้นแล้วสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยนั่นก็คือมันใช้เวลานานกว่าเครื่องสักค่อนข้างมาก แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับพื้นผิวบริเวณนั้นด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่ตัวของช่างทายมองว่ามันเป็นจุดเด่นของการสักแบบ Hand Poke นั่นก็คือ การสักแบบนี้มันไม่มีข้อจำกัดเหมือนกับการใช้เครื่อง และนั่นก็ทำให้เธอมองว่ามันเป็นเหมือนกับงานฝีมือแบบหนึ่ง
นิยามของงาน Hand Poke กับช่างสักสาว KASSANDRA BRAIN (แคสซี่)
ส่วนสำหรับตัวของ แคสซี่ เองก็เป็นอีกหนึ่งช่างสักที่หลงใหลในมนต์เสน่ห์ของงานสไตล์ Hand Poke เช่นกัน
และความหลงใหลนั่นก็ได้ส่งผลให้เธอได้กลายมาเป็นเจ้าของร้านสักอย่าง XYLEM Tattoo Studio ร่วมกับเพื่อนๆ ของเธอ
ซึ่งจุดเริ่มต้นของเส้นทางสักนั้นก็ไม่ต่างกับช่างทายสักเท่าไหร่นัก เพราะตัวของเธอได้เริ่มต้นมาจากแฟนเช่นเดียวกันเนื่องจากแฟนของเธอนั้นหลงใหลในการสักและทำให้มีเครื่องมือต่าง ๆ ค่อนข้างครบ จึงทำให้เธอคิดว่าควรจะเดินหน้าลุยในเส้นทางนี้เพราะว่าตัวของเธอก็ชอบการสักอยู่แล้ว โดยในช่วงแรก ๆ เธอมักจะฝึกฝีมือของเธอกับเพื่อน ๆ และ ตัวเอง
โดยสไตล์รอยสักที่เธอชื่นชอบจะเป็นสไตล์มินิมอล ที่จะออกไปทางน่ารักเนื่องจากตัวของแคสซี่ค่อนข้างชื่นชอบงานศิลปะ มันจึงทำให้เธออยากจะดีไซน์มันให้ดูน่ารัก และ เข้ากับผู้หญิง อีกทั้งเมื่อเธอได้ก้าวมาสู่โลกของรอยสักแล้ว
ตัวของเธอยังมองว่าตัวของเธอก็เป็นเหมือนกับทางเลือกที่ดีที่ทำให้บรรดาเหล่าผู้หญิงที่มีความรู้สึกอยากสักได้สบายใจ
และนี่ก็คือเรื่องราวของ งานสไตล์ Hand Poke กับตัวตนของ 2 ช่างสักสาว ที่เราได้นำมาฝากทุก ๆ คน ซึ่งงานสักสไตล์นี้ก็สามารถเป็นสิ่งยืนยันได้อย่างดีว่าต่อให้เทคโนโลยีจะก้าวไปไกลขนาดไหน งานศิลปะในสมัยเก่าก็ไม่มีวันตายไปจากโลกนี้