ข้อควรรู้ถ้าคุณอยากจะสักทั้งแขน

นอกจากเรื่องความสวยงามของรอยสักแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เรามักจะเน้นย้ำอยู่เป็นประจำ ซึ่งค่อนข้างเป็นส่วนที่สำคัญเอามาก ๆ ในการสักนั่นก็คือ ตำแหน่งในการสัก ซึ่งพื้นที่ของร่างกายที่เราจะแต่งเติมลวดลายต่าง ๆ นั้นก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างท้าทายแนวคิดไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว และหนึ่งในตำแหน่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากนั่นก็คือบริเวณแขน

โดยตำแหน่งนี้ถือได้ว่าเป็นตำแหน่งที่ค่อนข้างเหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อช่วงนี้แน่น ๆ เพราะมันจะทำให้รอยสักของคุณดูเต็มและเท่เป็นอย่างมาก แต่ก็ใช่ว่าคนไม่มีกล้ามจะไม่สามารถสักได้ เพราะว่าตำแหน่งนี้ยังถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่สามารถดีไซน์ลวดลายต่าง ๆ ให้โดดเด่นขึ้นมา ซึ่งเพราะมนต์เสน่ห์นี้เองที่ทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ  คนไปพบกับเรื่องราวของ ข้อควรรู้ถ้าคุณอยากจะสักทั้งแขน ซึ่งมันจะมีอะไรบ้าง เอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า

ควรเริ่มจากตำแหน่งไหนของแขน ?

โดยถ้าคุณมีความคิดแน่วแน่แล้วว่ายังไงก็จะต้องสักเต็มแขนให้ได้ ตำแหน่งแรกที่คุณควรจะเริ่มสักเลยนั่นก็คือบริเวณหัวไหล่ และ จากนั้นก็ค่อย ๆ ไล่ลงมาเรื่อย ๆ จนเต็มแขน โดยเหตุผลที่ควรเริ่มต้นจากบริเวณหัวไหล่นั่นก็เพราะว่า 

ตัวหัวไหล่นั้นจะเป็นช่วงบริเวณที่ค่อนข้างกว้าง จึงทำให้ทั้งช่างสัก และ คุณสามารถใช้เป็นจุดเริ่มต้นไอเดียก่อนที่จะค่อย ๆ แต่งเติมจินตนาการต่าง ๆ ในการไล่ระดับลงมาจนถึงปลายข้อมือ

แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนเองที่ตัดสินใจจะเริ่มต้นจากการสักที่บริเวณข้อมือก่อนแล้วค่อย ๆ สักไล่กลับไปที่หัวไหล่ 

ซึ่งแนวคิดนี้เองก็ไม่ผิดหากคุณมีไอเดียในการสักทั้งหมดตั้งต้นอยู่ในหัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ไม่ว่าจะเป็นการสักแบบใดก็ตามสิ่งที่คุณจะต้องมีนั่นก็คือแนวทางในการสักที่ค่อนข้างชัดเจน

 ควรจะเพิ่มรอยสักในรูปแบบไหนดี

ก่อนอื่นเราอยากให้ทุกคนรู้เอาไว้ก่อนว่าการที่จะสักให้มันเต็มแขนได้ มันไม่สามารถเสร็จได้ง่าย ๆ ด้วยการสักครั้งเดียวอย่างแน่นอน โดยบางคนจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาในการสักมากถึง 2 -3 วันเลยทีเดียว แถมในกรณี 2 – 3 วันนี้จะเป็นกรณีที่หาได้น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่กว่าที่จะลงรอยสักให้เต็มแขนได้ก็กินเป็นเวลาไปหลายเดือน 

แต่แน่นอนแหละว่าใครหลาย ๆ คนก็คงอยากที่จะให้รอยสักของตัวเองดูสมบูรณ์เร็วที่สุด ดังนั้นวิธีง่ายที่สุดนั่นก็คือคุณต้องไปวางแผนในการสักกับช่างของคุณ โดยคุณอาจจะดีไซน์รอยสักทั้งแขนของคุณเป็นไอเดียของภาพเล็ก ๆ หลาย ๆ ภาพมาเรียงร้อยกัน โดยถ้าคุณคิดไม่ออก เราขอแนะนำให้คุณลองมองไปที่การสักลายแนวชนเผ่าเป็นตัวอย่าง เพราะมันจะเริ่มต้นด้วยเส้นเล็ก ๆ หลายเส้นเรียงร้อยต่อกัน  

หาช่างสักที่มีความชำนาญ

อีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเพิ่มรอยสักของคุณจนกว่าจะเต็มแขนนั่นก็คือ การหาช่างสักที่เชี่ยวชาญในรอยสักของคุณ 

เพราะมันไม่มีทางเลยที่รอยสักของคุณจะสวยงามได้หากขาดผู้มีประสบการณ์ และ มีฝีมือในการสร้างสรรค์ โดยคุณอาจจะต้องเลือกร้านในการสักนานสักหน่อยกว่าที่เจอร้านที่ถูกใจคุณ

และหนึ่งในหลักการเลือกที่เราค่อนข้างไม่อยากให้คุณใช้ประกอบการพิจารณาเลยนั่นก็คือ การเลือกจากราคา เพราะอย่าลืมว่ารอยสักนี้คือสิ่งที่จะติดตัวอยู่กับคุณไปอีกนานเท่านาน ดังนั้นมันคงไม่คุ้มค่าเอาแน่ ๆ หากรอยสักที่ได้นั้นมันไม่ดีพอเหมือนที่คุณตั้งใจเอาไว้ 

แต่นอกเหนือจากการเลือกช่างสักฝีมือดีแล้ว ขั้นตอนในการพูดคุยเพื่อสรุปไอเดียสุดท้ายเองก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นคุณควรจะหาเวลาในการคุยกับช่างสักของคุณให้มากที่สุด และ คุณควรจะถ่ายทอดรูปที่คุณมีอยู่ในหัวออกมาให้ได้มากที่สุด เพื่อเวลาที่สักลงไปแล้วคุณจะได้รู้สึกมั่นใจ นอกจากนั้นคุณควรที่จะแจ้งกับช่างสักของคุณให้ชัดเจนอีกด้วยว่าคุณมีจุดประสงค์ที่ต้องการจะสักแบบเต็มแขน เนื่องจากช่างสักจะสามารถดีไซน์รอยสักต่าง ๆ ให้เข้ากันได้มากที่สุด 

และ พวกเขายังสามารถแบ่งเวลาในการทำงานแต่ละส่วนได้ง่ายอีกด้วย

การดูแลรอยสัก

ขั้นตอนนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญเลย เพราะว่ามันคือขั้นที่จะทำให้รอยสักของคุณนั้นคงทน โดยส่วนใหญ่แล้วหลังจากที่สักเสร็จคุณจะต้องเอาผ้าพันแผลพันบริเวณจุดสักประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง และหลังจากนั้นเวลาทำความสะอาดคุณควรที่จะล้างด้วยสบู่ที่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย และ น้ำเปล่า ก่อนจะปล่อยให้มันแห้งตามธรรมชาติ และหลังจากที่รอยแผลของคุณเริ่มแห้งสนิทคุณก็สามารถที่จะเริ่มบำรุงด้วยการทาโลชั่นต่าง ๆ ได้ในแบบระยะยาว

และอย่างที่เราบอกไว้ในหลาย ๆ บทความว่าศัตรูที่เป็นอันตรายที่สุดของรอยสักนั่นก็คือแสง UV ต่าง ๆ และการที่เรามี

รอยสักแบบเต็มแขนนั้นสำหรับบางคนที่ชื่นชอบการใส่เสื้อกล้าม หรือ แขนสั้นเพื่ออวดรอยสัก มันจึงถือได้ว่าเป็นเรื่องยากพอสมควรที่จะหลบแสงแดด ดังนั้นสิ่งที่สามารถเป็นตัวช่วยได้ดีที่สุดนั่นก็คือ การทาพวกโลชั่นกันแดดเป็นประจำ

ซึ่งหากคุณดูแลรอยสักด้วยวิธีดังกล่าวแล้วละก็ การไปเพิ่มเติมรอยสักให้มีความสม่ำเสมอกันนั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

และนี่แหละก็คือ ข้อควรรู้ถ้าคุณอยากจะสักทั้งแขน ที่เราได้มาแนะนำกันนั่นเอง ซึ่งคำแนะนำนี้นี่แหละที่จะทำให้คุณได้มีรอยสักแบบเต็มแขนที่สวยงาม และ ชวนมองไปอีกนานเท่านาน