เพราะอะไร การสักในเกาหลีใต้ถึงกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย

ถ้าใครติดตามข่าวสารในเว็บไซต์ของเรามาเป็นระยะเวลานานแล้วละก็เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะพอทราบกันอยู่แล้วว่าในปัจจุบันทัศนคติของคนในปัจจุบันต่อเรื่องราวของรอยสักนั้นมีความเปลี่ยนไปค่อนข้างมาก แต่ถึงเรื่องราวของรอยสักจะมีสิ่งที่เปลี่ยนไป แต่ทว่าเราก็ต้องยอมรับกันตามจริงว่ามันก็ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่สามารถเปลี่ยนวิธีคิด และ มุมมองต่อคนที่มีรอยสักได้ แต่ถึงแบบนั้นแล้วพวกคนเหล่านั้นก็ยังเปิดเสรีและวิจารณ์ผู้คนที่มีรอยสักอยู่ในมุมุมหนึ่งของสังคมเท่านั้น

แต่ทว่าสิ่งเหล่านี้มันกลับไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศที่มีวัฒนธรรมโด่งดังไปทั่วโลกอย่างประเทศเกาหลี เพราะว่าประเทศเกาหลีใต้นั้นถือได้ว่าเป็นประเทศที่มีกฎชัดเจนกับเรื่องราวของรอยสัก โดยพวกเขาได้ระบุเอาไว้อย่างชัดเจนว่าการสักนั้นคืองานที่ผิดกฎหมายของประเทศ และเพราะว่าความคิดเหล่านี้ที่ทำให้หลาย ๆ คนถึงกับสงสัย เนื่องจากในหลาย ๆ ประเทศเองก็ได้มีการยอมรับเรื่องราวเหล่านี้มากขึ้นแล้ว จึงทำให้ในวันนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ เพราะอะไรการสักในเกาหลีใต้ถึงกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย กัน ซึ่งมันจะเป็นอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า

กระแสของการทักท้วงกลับมาอีกครั้งได้อย่างไร

ซึ่งจริง ๆ แล้วเรื่องราวของการสักเป็นเรื่องผิดกฎหมายในเกาหลีนั้นถือได้ว่าเป็นเรื่องที่ค่อนข้างมีมาอย่างช้านานแล้ว 

แต่หลาย ๆ คนก็ปล่อยผ่านไปแบบไม่ค่อยสนใจไยดีเท่าไหร่นัก จนกระทั่งกระแสของการทวงถามนี้ได้เริ่มต้นขึ้นมาจากศิลปินช่างสักของเกาหลีคนหนึ่งที่มีชื่อว่า ดอย โดยเขาคนนี้ถือได้ว่าเป็นช่างสักเกาหลีที่มีชื่อเสียงไปไกลระดับโลก เพราะว่าเขานั้นเคยสักให้กับบรรดาเหล่าคนดังใน Hollywood มากมาย แต่กลับกลายเป็นว่าช่างสักคนนี้กลับต้องเดินขึ้นศาลในกรุงโซล เหตุผลนั่นก็เพราะว่าเขานั้นทำงานสัก

โดยสาเหตุที่ทำให้ตัวของ ดอย ต้องขึ้นศาลมันก็มาจากคลิปวิดีโอที่เขาได้สักให้กับนักแสดงหญิงคนหนึ่งในเกาหลี และ คลิปนั้นก็กลายเป็นไวรัล ซึ่งเพราะการแพร่กระจายของสื่อนี้นี่เองที่มันทำให้ตัวของ ดอย ถูกตัดสินว่าทำผิดกฎหมายทางการแพทย์ และ ถูกสั่งปรับเป็นเงิน 5 ล้านวอน หรือ ถ้าเทียบเป็นเงินไทยก็ประมาณ 1.4 แสนบาท และคดีนี้นี่แหละที่มันทำให้ผู้คนในประเทศเกาหลีใต้ได้เริ่มหันกลับมามองถึงกฎหมายเกี่ยวกับรอยสักอีกครั้ง

จุดเริ่มต้นของการแบนรอยสักที่ประเทศเกาหลี

โดยศิลปินอย่างดอย หรือชื่อจริงของเขาก็คือ โด ยุน คิม ได้เปิดเผยเรื่องราวของเขากับ บีบีซี สื่อชั้นนำระดับโลกว่า ตัวของเขาเวลาที่อยู่ต่างประเทศนั้น เขานั้นเปรียบเสมือนกับศิลปิน และ ได้ทำงานร่วมกับคนดัง ๆ อย่าง แบรด พิตต์ แต่ทว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เท้าของเขาเหยียบลงประเทศเกาหลีใต้ สถานะศิลปินของเขาก็ต้องหายไป และกลายเป็นคนที่ทำผิดกฎหมาย

โดยสาเหตุหลักใหญ่ ๆ ที่ทำให้เกาหลีนั้นมีกฎหมายเกี่ยวกับรอยสักนั่นก็เพราะว่า ในอดีตรอยสักนั้นมักจะเข้าไปเกี่ยวข้องกับแก๊งอันธพาล หรืออาชญากรรมบนท้องถนนในเกาหลีใต้ แถมส่วนใหญ่คนที่มีรอยสักก็มักจะเป็นคนตกงาน และ ไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากสังคม และนั่นเองก็ทำให้ทุกวันนี้บรรดาเหล่าศิลปิน K-Pop เองก็ยังต้องถูกเบลอ และ ปกปิดรอยสักเวลาพวกเขาออกทีวี

จนกระทั่งปี 1992 ศาลสูงสุดของประเทศเกาหลีใต้ได้มีการประกาศ และ กำหนดให้การสักนั้นถือได้ว่าเป็นปฏิบัติทางการแพทย์ เนื่องจากมันมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อจากหมึกและเข็มได้ และเพราะกฎหมายนี้จึงทำให้หมายความว่า จะมีเพียงแค่ผู้ทำงานด้านการแพทย์เท่านั้นที่ได้รับใบอนุญาตให้ทำการสักได้ ซึ่งผู้คนเหล่านี้ถือได้ว่ามีจำนวนน้อยมาก ๆ ในประเทศเกาหลีใต้ แถมในจำนวนนั้นก็ยังมีแพทย์อีกหลาย ๆ คนที่หันมาทำการสักคิ้วถาวร ซึ่งเป็นบริการเสริมความงาม

ซึ่งถ้าถามว่ากฎหมายนี้ของประเทศเกาหลีใต้ส่งผลให้หลาย ๆ คนเลิกเป็นช่างสักหรือไม่ คำตอบที่สามารถตอบได้อย่างชัดเจนที่สุดนั่นก็คืองานวิจัย ซึ่งได้มีงานวิจัยของสถาบันเกาหลีเพื่อกิจการสาธารณสุขและสังคมในปี 2019 ได้ออกเปิดเผยว่าจริง ๆ แล้วในปี 2019 ประเทศเกาหลีนั้นมีช่างสักมากถึง 200,000 คน

และโทษของการฝ่าฝืนกฎหมายการสักนั้น จะถูกจำคุกอย่างน้อย 2 ปี และปรับขั้นต่ำเป็นเงินขั้นต่ำ 1 ล้านวอน หรือประมาณ 27,900 บาท และนั่นเองจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ช่างสักส่วนใหญ่ต้องเลือกทำอาชีพนี้เป็นอาชีพใต้ดิน โดนใช้สถานที่ซึ่งเป็นความลับ แต่ถึงอย่างนั้นแล้วพวกเขาก็ใช้สื่อโซเชียลมีเดียโฆษณาร้านของพวกเขากันอยู่ดี ส่วนทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ยังมีการปล่อยผ่านโดยพวกเขานั้นยังไม่ได้ตั้งหน้า ตั้งตาเพื่อที่จะกวาดล้างสตูดิโอสักมากนักหากไม่มีคนแจ้งความ ดังนั้นพวกช่างสักส่วนใหญ่ที่โดนจับนั้นอาจจะมีส่วนหนึ่งมาจากคนที่แจ้งความไปนั่นเอง 

แต่การทำงานแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ นี่เองที่มันก็ได้ส่งผลต่อบรรดาเหล่าช่างสักเช่นกัน เพราะว่าพวกเขานั้นมักจะโดนข่มขู่จากบรรดาเหล่าแก๊งที่แสวงหาผลประโยชน์ รวมถึงพวกเขายังต้องเผชิญหน้ากับลูกค้าแย่ ๆ ที่บางคนพอสักเสร็จแล้วก็ไม่ยอมจ่ายเงินค่าสัก โดยเอาเรื่องกฎหมายเกี่ยวกับการสักมาขู่

อะไรคือสิ่งที่ทำให้ยันคงยืนหยัดมาถึงตอนนี้

ซึ่งตัวของดอยเองที่เป็นช่างสักมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี เขาก็ได้พูดถึงความรู้สึกของเขาตอนที่ได้เข้ามาในวงการสักใหม่ ๆ ถึงเรื่องราวของงานที่เป็นแบบใต้ดินนี้เช่นกัน โดยตัวของเขานั้นมีความรู้สึกกลัวว่าจะเจอกับลูกค้าอันธพาล และ นั่นอาจจะส่งผลให้เขาโดนจับ จึงทำให้เขาได้เริ่มเรียนรู้ถึงวิธีการกรองลูกค้า จนทำให้เขาสามารถทำงานในวงการสักมาได้อย่างยาวนานในประเทศ

ซึ่งแม้ว่าตัวของดอยจะพยายามหลบความเสี่ยงในหลาย ๆ อย่างแล้วก็ตามแต่สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่รอดอยู่ดี และนั่นเองก็ทำให้ตัวของเขานั้นกลายเป็นคนที่มีประวัติอาชญากรรมติดตัว ถึงแบบนั้นแล้วตัวของดอยก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจที่เขาได้เลือกทำในสิ่งที่เขาชอบ ซึ่งหนึ่งในความชอบของเขานั้นมันเกิดมาจากครั้งที่เขาได้เคยสักให้กับหญิงสาวคนหนึ่ง โดยเธอคนนั้นได้ตัดสินใจสักทั้งแขนเนื่องจาก แขนของเธอถูกไฟไหม้ในตอนที่เธอมีอายุเพียงแค่ 1 ขวบ และเธอก็ต้องการที่จะสักเพื่อปกปิดรอยแผลเป็น นั่นเองจึงทำให้ ดอยสักรูปต่าง ๆ ลงไปบนแขนของเธอ ซึ่งกว่าจะเสร็จก็ต้องใช้เวลาถึง 5 ครั้งเลยทีเดียว ซึ่งหลังจากเสร็จหญิงสาวคนนั้นก็ได้โพสต์ลงสื่อโซเชียลของเธอว่า การกระทำครั้งนี้ เครื่องเรื่องที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอ

ทัศนติเปลี่นไปไหม หลังจากที่โดนจับ

แต่ถึงแม้ว่าตัวของ ดอย จะโดนจับเพราะทำผิดกฎหมายเรื่องการสักก็ตาม แต่ทว่าภาพจำเกี่ยวกับรอยสักบนร่างกายของคนเกาหลีก็เริ่มมีการเปลี่ยนไป โดยเรื่องของรอยสักนั้นเริ่มกลายเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นเรื่อย ๆ และมันยังเริ่มถูกมองไปในแง่ของงานสร้างสรรค์ และ ศิลปะ ที่สามารถแสดงความเป็นตัวตนออกมาได้มากขึ้น 

และเมื่อเดือน มิถุนายน 2021 ริว โฮจอง หนึ่งในสมาชิกสภานิติบัญญัติก็ได้สนับสนุนให้มีการร่างกฎหมายที่จะทำให้เรื่องสักเป็นเรื่องถูกกฎหมาย ซึ่งจังหวะนั้นนี่เองที่ทำให้ตัวของ ดอย ก่อตั้งสหภาพศิลปินสักขึ้น โดยเขาหวังว่าจะเป็นก้าวแรกให้กับการทำอาชีพนี้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายเสียที

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ เพราะอะไร การสักในเกาหลีใต้ถึงกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งเราก็หวังอย่างยิ่งว่าสักวันเรื่องราวของการสักในประเทศเกาหลีใต้จะกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย เพราะในสมัยนี้คงไม่มีใครมองอีกแล้วละว่า คนที่มีรอยสักคือคนไม่ดี