หากจะพูดถึงหนึ่งในชนเผ่าที่มีรอยสักอันเลื่องลือและดูน่าเกรงขามอยู่เสมอในเวลาที่เราได้เห็นรอยสักแล้วละก็ เราคิดว่าบรรดาเหล่าชนเผ่าไวกิ้งน่าจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่หลาย ๆ คนนึกถึงมาเป็นอันดับแรกอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่มันทำให้หลาย ๆ
คนรู้สึกอยากจะสักตามบรรดาเหล่าชนเผ่าไวกิ้งเหล่านั้นมันกลับไม่ใช่เพียงแค่ความเท่ของรอยสักที่อยู่บนร่างกายเท่านั้น
แต่มันยังรวมไปถึงสัญลักษณ์อันซับซ้อนและความหมายของพวกมันที่แฝงอยู่ในรอยสักเหล่านั้นอีกด้วย ซึ่งเพราะความซับซ้อนของสัญลักษณ์เหล่านี้นี่แหละที่ทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนมาพบกับ เรื่องราวของสัญลักษณ์ของชนเผ่าไวกิ้งและรอยสัก กัน ซึ่งมันจะมีสัญลักษณ์ของไวกิ้งอันบ้างที่เราจะสามารถนำมาสร้างสรรค์เป็นรอยสักเท่ ๆ ได้บ้าง เอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
รอยสักโล่ชาวไวกิ้ง
ถ้าอ่านตามหนังสือหรือฟังจากการบรรยายต่าง ๆ แล้ว คุณก็น่าจะรู้ว่าชนเผ่าไวกิ้งนั้นถือว่าเป็นชนเผ่าที่ชื่นชอบในการทำสงครามเป็นอย่างมาก และหนึ่งในอุปกรณ์ที่จะขาดไม่ได้เลยในการทำสงครามนั่นก็คือเครื่องป้องกันอย่างโล่ โดยโล่ของชาวไวกิ้งนั้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีเอกลักษณ์มาก ๆ เพราะพวกเขามักดีไซน์โล่ให้เป็นเอกลักษณ์และมีความเกี่ยวข้องกับความเชื่ออยู่เสมอ และความเป็นเอกลักษณ์นี้นี่แหละที่ทำให้มีหลาย ๆ คนเอามันมาสัก เพื่อให้มันเป็นเหมือนกับสัญลักษณ์ในการปกป้องตัวเขา
ส่วนดีไซน์ในการสักนั้นคุณก็สามารถที่จะเลือกได้เลยว่าจะสักเป็นโล่แบบเดี่ยวแล้วเน้นไปที่ลวดลายของโล่ให้ดูมีความขลังหรือถ้าคุณคิดว่าสักแบบนั้นมันอาจจะโล่งไป เราก็ขอแนะนำให้คุณลองเพิ่มอุปกรณ์ต่อสู้อย่างการเอาขวานไขว้กันไว้ที่ข้างหลังโล่ก็ถือว่าเท่ไปอีกแบบ นอกจากนั้นคุณยังจะสามารถเอาโล่มารวมกับสัญลักษณ์อื่น ๆ ของชาวไวกิ้งได้อีกมากมาย
รอยสักหญิงสาวแห่งโชคชะตา
หลาย ๆ คนก็น่าจะรู้กันดีว่าชาวไวกิ้งเองก็มีเรื่องราวของตำนานความเชื่อที่โด่งดังและน่าสนใจไม่แพ้กับตำนานของประเทศใด ๆ ในโลกนี้ และอีกหนึ่งความเชื่อที่มีผลต่อชาวไวกิ้งมาก ๆ ก็คือเรื่องราวของพรมแห่งโชคชะตา โดยเจ้าพรมนี้จะถูกทอโดยหญิงสาว 3 คนที่ถูกเรียกว่า nornir โดยพรมแห่งโชคชะตาที่พวกเธอทอนั้นจะมีความเกี่ยวข้องกับพระเจ้าเบื้องบน
และนั่นเองจึงทำให้มีหลาย ๆ คนที่สนใจในเรื่องราวตำนานนี้จนทำให้ในที่สุดพวกเขาก็เอาเรื่องราวนี้มาสร้างสรรค์เป็นรอยสัก
สำหรับดีไซน์ของรอยสักนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ด้วยกัน โดยอย่างแรกนั่นก็คือการสักเป็นเพียงสัญลักษณ์ของพรมแห่งโชคชะตา ซึ่งการสักรูปแบบนี้มักถูกนำไปผสมกับลวดลายอื่น ๆ เพื่อช่วยในการเล่าเรื่องราวของรอยสัก
ส่วนอีกแบบหนึ่งนั่นก็คือการสักเป็น 3 สาวแห่งโชคชะตาซึ่งการสักแบบนี้ค่อนข้างที่จะใช้พื้นที่และดีเทลมากพอสมควรในการสัก ซึ่งรอยสักรูปแบบนี้บางคนก็อาจจะเติมสัญลักษณ์ของพรมแห่งโชคชะตาเข้าไปด้วยเพื่อให้เนื้อเรื่องดูครบ
รอยสักอักษรรูน
อีกหนึ่งสิ่งที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเจอตามสื่อต่าง ๆ ตลอดเวลาที่มีการเล่าถึงตำนานนอร์ธหรือเรื่องราวของชาวไวกิ้งนั่นก็คือเรื่องราวของอักษรรูน โดยอักษรนี้เป็นอักษรที่เราไม่รู้ว่ามันมีต้นกำเนิดครั้งแรกคือที่ไหน จะรู้ก็เพียงแต่ตัวอักษรรูนหนึ่งตัวนั้นมีความหมายมากมาย และเพราะเพียงแค่ตัวมันเดี่ยว ๆ ก็มีความหมายแล้วจึงทำให้หลาย ๆ คนนิยมสักเจ้าตัวอักษรพวกนี้ไว้บนร่างกาย เพราะนอกจากมันจะให้เรารู้สึกเหมือนได้รับพรตลอดเวลาจากเหล่าตัวอักษรนั้นแล้ว มันยังไม่เปลืองพื้นที่ในการสักอีกด้วย
ส่วนวิธีการสักอักษรรูนเราบอกเลยว่ามันสามารถทำออกมาได้หลายแบบมาก ๆ ซึ่งวิธีสักที่นิยมสักและเห็นกันมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการสักตัวอักษรที่มีความหมายดี ๆ และเกี่ยวข้องเรียงกันมา โดยบางคนก็อาจจะเลือกใช้ลายเส้นที่หนาหน่อย
แต่บางคนก็เลือกใช้เส้นบาง ๆ สไตล์มินิมอลก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นแล้วอีกหนึ่งวิธีการสักนั่นก็คือการสักควบคู่ไปกับสัญลักษณ์อื่น ๆ ของชาวไวกิ้ง
รอยสัก Sleipnir
อย่างที่เราบอกไปว่าเรื่องตำนานนอร์ธนั้นมีเรื่องราวที่น่าเหลือเชื่อมากมาย และหนึ่งในตำนานของนอร์ธที่หลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันนั่นก็คือตำนานของ Sleipnir โดยชาวไวกิ้งเชื่อกันว่าเจ้าตัวนี้มันเป็นม้า 8 ขาที่เป็นพาหนะในการเดินทางของเทพสูงสุดอย่างโอดิน และเมื่อมันเป็นพาหนะของโอดิน ดังนั้นมันจึงเป็นม้าที่มีความเร็วและแข็งแกร่งที่สุดในโลก และเพราะความแข็งแกร่งของมันนี้แหละที่ทำให้มีหลาย ๆ คนเลือกสักเป็นรูปของมัน
โดยรอยสักในรูปแบบนี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะเลือกสักเป็นแบบโครงร่างเสียมากกว่า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้เส้นที่ค่อนข้างหนาในการสัก และสิ่งหนึ่งที่ต้องสักให้เห็นชัดเจนมากที่สุดนั่นก็คือ ขาทั้ง 8 ของม้า ส่วนถ้าคุณรู้สึกว่าการสักม้าแบบเดี่ยว ๆ มันจะดูโล้นเกินไป เราขอแนะนำให้คุณลองสักให้มีคนขี่อยู่บนหลังของมัน หรือไม่ก็เสริมสัญลักษณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับตำนานนอร์ธลงไปด้วยก็ได้
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ เรื่องราวของสัญลักษณ์ของชนเผ่าไวกิ้งและรอยสัก ที่เราได้เอามาฝากทุก ๆ คนกัน
ซึ่งใครที่กำลังมองหาไอเดียรอยสักที่จะสามารถเพิ่มความดุดันให้กับร่างกายของคุณอยู่แล้วละก็ เราเชื่อว่ารอยสักไวกิ้งที่เราแนะนำในครั้งนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งคำตอบที่คนกำลังมองหาเช่นกัน