คุณเคยมีสิ่งที่ชอบ หรือ ความหลงใหล อะไรสักอย่างมาก ๆ ไหม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันเป็นสิ่งที่ชอบแล้ว บางครั้งคุณก็จะทุ่มสุดตัวเพื่อทำมัน และแน่นอนว่าเรื่องของรอยสักเองก็เช่นกัน เพราะว่ายังมีหลายคนที่ชื่นชอบในศิลปะเป็นอย่างมาก จนทำให้พวกเขาสักพวกมันเหล่านั้นเอาไว้ทั่วร่างกายของตัวเอง แต่ถึงหลาย ๆ คนจะมีความชื่นชอบในรอยสักก็ตามที แต่ทว่าก็ยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่พวกเขาต้องเพลา ๆ เรื่องนี้ลงเพื่อให้ไม่ส่งผลกระทบต่องานหลักที่พวกเขาทำอยู่ แต่ทว่าในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับชายคนหนึ่งที่กล้ามากพอที่จะทำในสิ่งที่เขารัก โดยไม่แคร์สายตาคนอื่น โดยเขาคนนั้นก็คือ ZOMBIE BOY ชายผู้ใช้ผิวหนังของตัวเองเป็นพื้นที่แสดงศิลปะรอยสัก ซึ่งเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นหน้าตาของเขาคนนี้ผ่านทางหนัง หรือ นิตยสารแบบต่าง ๆ กันมาบ้างแล้ว แต่ทว่าเรื่องราวลึก ๆ ของเขาจะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าเราค่อย ๆ ไปทำความรู้จักเขากันในบทความนี้กันเลยดีกว่า
จุดเริ่มต้นของ ZOMBIE BOY
โดยชื่อ ZOMBIE BOY ที่หลาย ๆ คนเรียกเขานั้น จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงชื่อในวงการเท่านั้น เพราะว่าจริง ๆ แล้วตัวของเขาคนนี้มีชื่อว่า Rick Genest โดยเขาเติบโตที่เมือง Montreal ประเทศแคนาดาโดยช่วงชีวิตวัยรุ่นนั้นเขาเลือกที่จะออกจากบ้านเพื่อมาใช้ชีวิตด้วยตัวเอง และนั่นทำให้เขาต้องนอนตามพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ นอกจากนั้นแล้วการที่เขาจะเดินทางไปไหนมาเขาก็ต้องอาศัยการโบก และ ติดรถของคนที่ผ่านไป ผ่านมาเท่านั้น
จนกระทั่งอายุ 16 ปีตัวของ Rick Genest ก็ได้เริ่มมีรอยสักบนร่างกายของตัวเอง และการสักครั้งนั้นนี่เองที่ทำให้ตัวเขารู้สึกหลงใหลในศิลปะแขนงนี้จนทำให้ค่อย ๆ ทยอยสักบนร่างกายมากขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ในที่สุดจากลำตัว แขน ก็ค่อย ๆ ลามขึ้นสู่ใบหน้า และ ศีรษะในที่สุด
เส้นทางในวงการบันเทิงของ ZOMBIE BOY
โดยชีวิตของ ZOMBIE BOY ได้เริ่มเข้าสู่วงการด้วยการรับงานแสดงเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียงจากงานแสดงในเรื่อง Carny ในปี 2009 และหลังจากผลงานนั้นตัวของเขาก็เริ่มมีงานแสดงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ จนกระทั่งในปี 2011 ตัวของเขาก็ได้เริ่มงานเดินแบบครั้งแรกให้กับ Thierry Mugler ในคอลเลคชั่น Autumn/Winter men โดยในครั้งนั้นเขาได้ช่างภาพชื่อดังของสายแฟชั่นอย่าง Mariano Vivanco มาเป็นคนถ่ายให้
นอกจากนั้นแล้วเพราะลวดลายบนตัวของเขานี่เองที่ได้ไปเตะตาของดีว่าสาวระดับโลกอย่าง เลดี้กาก้า เข้าอย่างจัง จึงทำให้ตัวของนักร้องสาวได้ดึงเอาพ่อหนุ่มรอยสักคนนี้เข้ามาแสดงใน MV เพลง Born This Way ซึ่งใน MV นี้ตัวของ เลดี้กาก้าเองก็มีการแต่งหน้าให้เข้าคู่กับ ZOMBIE BOY อีกด้วย และการก้าวเข้าสู่ MV ในครั้งนี้นี่เองที่เปรียบเสมือนการกรุยทางให้เขาเข้าสู่โลกแฟชั่นอย่างเต็มตัว เพราะหลังจากนั้นเขาก็ได้ร่วมงามกับนิตยสารแฟชั่นยักษ์ใหญ่หลายเจ้าไม่ว่าจะเป็น Vogue และ GQ
หลังจากที่ตัวของเขาโด่งดังในโลกของแฟชั่นมาสักพักหนึ่งชื่อเสียงของเขาก็เริ่มไปไกลกว่านั้น โดยแบรนด์เครื่องสำอางยี่ห้อ
Dermablend ได้ตัดสินใจเชิญเขาเข้ามาทำแคมเปญที่มีชื่อว่า Go Beyond the Cover ซึ่งแคมเปญนี้จะเป็นการใช้เครื่องสำอางของทางแบรนด์ในการปกปิดรอยสักทั่วทั้งตัวของพ่อหนุ่ม ZOMBIE BOY ก่อนที่จะค่อย ๆ ลบออกเพื่อแสดงให้เห็นว่าเครื่องสำอางของพวกเขาสามารถปกปิดริ้วรอยต่าง ๆ ได้แนบเนียนจริง ซึ่งความสำเร็จนั้นนี่เองที่ทำให้
แบรนด์อย่าง L’Oreal ต้องรีบดึงตัวเขามาเพื่อเซ็นสัญญาถึง 2 ปีเลยทีเดียว
นอกจากนั้นแล้วผู้คนก็เริ่มได้เห็น ZOMBIE BOY ผ่านทางสื่อโฆษณาต่าง ๆ มากขึ้น และก้าวที่สำคัญที่สุดของเขานั่นก็คือการได้แสดงภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์อย่างเรื่อง 47 Ronin ในบท Foreman ซึ่งตัวของเขานั้นถูกโปรโมทค่อนข้างมากถึงขนาดที่ว่ากลายเป็นคาแรคเตอร์หนึ่งที่ถูกขึ้นโปสเตอร์แยกเลยทีเดียว รวมถึงเขายังมีผลงานเพลงที่ทำร่วมกับศิลปินอังกฤษอย่าง KAV ในเพลง Dirty Rejects ซึ่งถูกปล่อยออกมาในปี 2013
อีกทั้งในปี 2017 ตัวของ ZOMBIE BOY ยังได้รับเชิญไปบรรยายกับ TEDx #DISRUPTyou เพื่อบอกเล่าถึงเรื่องราวและประสบการณ์ชีวิตของเขาในแง่มุมต่าง ๆ อีกด้วย
จุดจบของ ZOMBIE BOY
แต่ก็น่าเสียดายที่สุดท้ายแล้วตัวของ ZOMBIE BOY นั้นเลือกที่จะใช้ชีวิตบนโลกนี้ได้ไม่นาน เพราะว่าเขาตัดสินใจจบชีวิตของตัวเองในวัย 32 ปี และนั่นมันก็ถือได้ว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการบันเทิง และ วงการรอยสัก ซึ่งตัวของศิลปินอย่าง เลดี้กาก้าที่เคยร่วมกับเขาก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความไว้อาลัยให้แก่ตัวของเขาด้วย
และนี่ก็คือเรื่องราวของ ZOMBIE BOY ชายผู้ใช้ผิวหนังของตัวเองเป็นพื้นที่แสดงศิลปะรอยสัก ซึ่งเราต้องยอมรับจริง ๆ ว่าไม่ว่าเขาจะเสียชีวิตไปนานขนาดไหนแล้วก็ตาม แต่ถ้าพูดถึงชายที่ร่างกายเต็มไปด้วยรอยสัก และ มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดแล้วละก็ภาพของเขาคนนี้จะต้องกลายเป็นภาพจำที่ใครหลาย ๆ คนต่างก็นึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ อย่างแน่นอน