สารบัญ ลายสัก รอยสัก

ลายสักที่ยังคงดูดีตามวัย  Part 1


1,738 Old Man Tattoo Stock Photos, Pictures & Royalty-Free Images - iStock

ก่อนที่ใครหลาย ๆ คนจะมีรอยสักแรกอยู่บนร่างกายนั้นเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะมีการไปปรึกษาคนรอบข้าง รวมถึงผู้ปกครองว่า การจะมีสิ่งเหล่านี้อยู่บนร่างกายนั้นดีไหม ซึ่งจากการปรึกษาเหล่านั้นนี่เองที่เราเชื่อว่าหลายคน ๆ อย่างน้อยจะต้องมีคนพูดถึงว่า สิ่ง ๆ นั้นเป็นสิ่งที่เราติดตัวไปจนตาย ซึ่งแม้ว่าตอนนี้มันจะสวยงามและเหมาะสมกับร่างกายของเราก็ตาม แต่ทว่าพอเวลาผ่านไป ร่างกายที่ค่อย ๆ เหี่ยวย่นไปตามกาลเวลา และอาจจะทำให้ลวดลายนั้นดูไม่สวยอีกแล้วก็ได้ และนั่นเองก็กลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้หลาย ๆ คนไม่กล้าสัก เพราะกลัวว่าเมื่ออายุมากขึ้นแล้วรอยสักเหล่านั้นจะไม่สวยนั่นเอง ซึ่งเว็บไซต์ของเราเองก็เห็นด้วยกับสิ่งนี้ เพราะหากคุณจะสักจริง ๆ คุณเองก็ต้องมองหลาย ๆ อย่างมาเป็นปัจจัย

แต่ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่า รอยสักที่ยังคงฝังแน่นอยู่บนร่างกายจริง ๆ แล้วพวกนั้นมักจะเป็นรอยสักที่ไม่อยู่ในตำแหน่งที่ถูกเสื้อผ้าถู นอกจากนั้นแล้วปัจจัยที่ทำให้พวกมันยังคงติดทนนานนั้น ทางเว็บไซต์ของเราก็เคยได้บอกไปแล้วว่ามันยังมีอีกหลาย ๆ ปัจจัยไม่ว่าจะเป็น แสงแดด หรือ รวมไปถึงคุณภาพของน้ำหมึกที่ใช้ในการสักนั่นเอง ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงจะมาขอนำเสนอเรื่องราวของวิธีการที่ทำให้ลายสักยังคงดูดีตามวัยแม้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานแสนนานจนเรามีอายุเยอะเลยก็ตาม

tattoo-artist-wrapping-client-s-arm-in-plastic-clingfilm-to-encourage-tattoo-healing  - Bright Today

ซึ่งการที่จะทำให้ลายสักที่ยังคงดูดีตามวัยปัจจัยแรกและถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่ค่อนข้างสำคัญมาก ๆ

ซึ่งมันจะส่งผลไปอีกยาวนานแม้ว่าเราจะมีอายุ 30 – 40 ปีนั่นก็คือ การดูแลรอยสักหลังจากที่เพิ่งสักเสร็จใหม่ ๆ นั่นเอง ซึ่งขั้นตอนนี้เป็นอะไรที่สำคัญมาก ๆ เพราะว่ารอยสักที่ช่างสักได้เนรมิตให้กับเราจะดีหรือไม่ดีก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้ โดยหลังจากที่คุณสักเสร็จแล้วช่างสักจะติดแรปให้กับรอยสักของคุณ ซึ่งคุณห้ามถอดมันออกก่อนที่จะครบ 24 ชั่วโมงเด็ดขาดเพราะมันจะค่อนข้างเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ และหลังจากที่ถอดแรปออกแล้วให้คุณล้างด้วยน้ำสะอาดอย่างเบามือบริเวณรอยสักของคุณ และห้ามใช้สบู่ที่มีกลิ่น หลังจากนั้นให้ซับให้แห้งสนิท และ ควรทำขั้นตอนนี้เป็นประจำทั้งเช้าและเย็น

นอกจากนั้นแล้วคุณควรจะหาโลชั่นที่ผลิตขึ้นสำหรับรอยสักทาอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวนั้นบริเวณนั้นแห้งแตก ส่วนน้ำที่ใช้อาบเราขอแนะนำให้คุณหลีกเลี่ยงน้ำร้อน เพราะมันอาจจะทำให้ผิวบริเวณนั้นของคุณอักเสบรุนแรงยิ่งขึ้น 

ทางด้านเสื้อผ้าที่สวมใส่นั้นคุณควรที่จะหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าที่จะถู หรือ ติดกับรอยสักของคุณ และอีกหนึ่งอย่างเลยที่สำคัญสำหรับการดูแลพวกมันนั่นก็คือ การหลีกเลี่ยงการลงสระว่ายน้ำ หรือ แหล่งน้ำตามธรรมชาติอื่น ๆ เพราะสิ่งเหล่านั้นคือแหล่งเพราะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมันอาจจะทำให้ผิวหนังที่ยังไม่หายดีของคุณติดเชื้อได้ใน 

2 – 3 สัปดาห์แรก โดยเรื่องเกี่ยวกับการว่ายน้ำนี้ เดี๋ยวทางเว็บไซต์ของเราจะมีการขยายความไปในบทความต่อไป ซึ่งถ้าคุณสามารถปฏิบัติตามทั้งหมดได้นั้นรับรองว่าลายสักของคุณนั้นจะสวยงามและไม่มีวันซีดจางก่อนถึงเวลาอันควรอย่างแน่นอน

Bearded old man bodybuilder with tattoos holding dumbbell Stock Photo |  Adobe Stock

นอกจากนั้นแล้วตำแหน่งของรอยสักนั้นก็ยังเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ลวดลายดังกล่าวสามารถอยู่กับร่างกาย

ของเราไปจนแก่เฒ่าได้เช่นกัน โดยจริง ๆ ถ้าใครอยากจะให้พวกมันเหล่านั้นมีความคงทนและติดนาน คุณควรที่จะเลือกไว้ในตำแหน่งที่มักจะเผชิญกับแรงเสียดทานน้อยที่สุด แต่ทว่าถึงแบบนั้นเองมันก็ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากพูดถึงโดยทั่วไปแล้วตำแหน่งที่มักจะเกิดแรงเสียดทานน้อยมักจะเป็นตำแหน่งอย่าง ต้นแขน , ไหล่, หลัง, หน้าอก ซึ่งตำแหน่งของร่างกายพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีการเคลื่อนไหวน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับตำแหน่งอื่นเช่น มือ หรือ เท้า 

อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้รอยสักนั้นอยู่ไปกับเราแบบนาน ๆ นั่นก็คือ ความลึกของหมึกในผิวหนังนั่นเอง โดยปัจจัยนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่แม้ว่าตอนแรก ๆ มันจะไม่ค่อยมีผลอะไรเท่าไหร่ก็ตาม แต่เมื่อเวลานานวันไป เราก็จะค่อย ๆ เห็นผลของมัน เพราะว่าถ้ามันถูกสักในระดับความลึกที่เหมาะสมแล้ว นอกจากที่จะคงทนนาน แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไปลวดลายบนผิวหนังของคุณก็ยังคงคมและดูสะอาดตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่งหากเข็มไม่สามารถที่จะเจาะลงไปในผิวหนังได้ตามที่มันควรจะเป็น หมึกมันก็จางเร็วกว่าปกติ แต่ทว่าก็ยังมีอีกหนึ่งกรณีนั่นก็คือ การสักที่เจาะลึกเข้าไปในผิวหนังเกินไป ซึ่งการกระทำแบบนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้รอยสักคม แต่มันอาจจะทำให้เกิดกรณีที่เรียกว่า รอยสักระเบิดได้

มาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่ารอยสักระเบิดคืออะไร ดังนั้นเพื่อที่เราจะให้ทุกคนเข้าใจตรงกัน

ก่อนขึ้นเราต้องมาศึกษากันที่เรื่องของผิวหนังของมนุษย์เรากันเสียก่อน โดยผิวหนังของเราจะประกอบไปด้วยผิวหนังกำพร้าซึ่งผิวหนังชั้นนี้จะจางหายไปอย่างเร็วหากมีการรักษา และ ผิวหนังชั้นนี้จะมีสร้างตัวเองขึ้นใหม่อยู่เป็นประจำ ส่วนผิวหนังชั้นต่อไปนั่นก็คือชั้นผิวหนังแท้ ซึ่งชั้นผิวหนังแท้นี้จะอยู่ลึกลงไปใต้ชั้นผิวหนังกำพร้าโดยชั้นนี้จะประกอบไปด้วยไขมันเป็นส่วนใหญ่ และถ้าหากคุณสักเม็ดสีจากเข็มเหล่านั้นส่วนใหญ่ก็จะมาอยู่ในชั้นผิวหนังนี้และรวมเข้ากับไขมันใต้ชั้นผิวหนัง

และอย่างที่บอกไปว่าตำแหน่งของหมึกที่เหมาะสมนั่นก็คือการอยู่ในชั้นผิวแท้ ซึ่งมันจะเป็นชั้นแกนกลางของผิวหนัง ซึ่งช่างสักก็จำเป็นที่จะต้องทำให้เข็มสักของพวกเขามาถึงชั้นผิวหนังนี้ให้ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งการจะทำแบบนี้นั้น เหล่าช่างสักเองก็จำเป็นที่จะต้องมีความรู้ และ ความสามารถพอสมควรเพราะหากมันลึกเกินไปนั้นสิ่งที่ตามมานั่นก็คือการเกิดเป็นแผลเป็นและรอยแผลนั้นจะมีความนูนออกมาจนผิดปกติ ซึ่งนั่นแหละที่เราเรียกว่า รอยสักระเบิด นอกจากนั้นแล้วปัญหาที่ตามมาอีกอย่างของการสึกลึกเกินไปนั่นก็คือแผลหายช้ากว่าปกติ และ อาจจะเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย

อีกหนึ่งสิ่งที่เรามักจะย้ำเตือนอยู่เสมอว่ามันส่งผลค่อนข้างมากนั่นก็คือ การเผชิญหน้ากับแสงแดด

โดยดวงอาทิตย์นั้นเป็นสิ่งที่ยิงรังสีชนิดต่าง ๆ เข้าสู่ร่างกายของเราโดยตรง ซึ่งรังสีบางอย่างก็มีส่วนในการกระตุ้นเม็ดสีในผิวหนังจนทำให้เม็ดสีบนผิวหนังผิดปกติได้เช่นกัน และแน่นอนว่าถ้ามันโดนกับส่วนที่เป็นรอยสักของเรา มันจะทำให้เกิดการอักเสบ ซึ่งอาการเริ่มต้นก็อาจจะมีตั้งแต่การเป็นผื่นแดง จนไปถึงอาการบวมและเจ็บปวดได้เลยทีเดียว มันจึงทำให้แสงแดดนั้นค่อนข้างส่งผลอย่างมากหากคุณคิดจะให้ศิลปะพวกนั้นอยู่กับคุณไปจนถึงวัยชรา ดังนั้นทางที่ดีในการปกป้องรอยสัก คุณควรที่จะใช้ครีมกันแดดในการปกป้องมัน แต่ทว่าการใช้ครีมกันแดดเองก็มีวิธีการใช้ของมัน ดังนั้นคุณสามารถที่จะศึกษาวิธีการใช้ครีมกันแดดกับรอยสักได้ในบทความภายในเว็บไซต์ของเรา

อีกสิ่งหนึ่งที่จะทำให้ลายสักยังคงดูดีตามวัยนั่นก็คือ การเลือกสี โดยอย่างที่เราบอกไปข้างต้นว่าเม็ดสีนั้นจะได้รับผลกระทบจากรังสียูวีจากดวงอาทิตย์ ซึ่งรังสีเหล่านี้คือตัวการที่ทำให้เม็ดสีเสื่อมสภาพ และ จางลง แต่มันก็ไม่ใช่ว่างเม็ดสีทั้งหมดจะจางลงในอัตราที่เท่ากัน ดังนั้นมันจึงทำให้มีสีบางสีที่ซีดจางไม่เท่ากันนั่นเอง โดยสีที่ได้ทำการวิจัยมาแล้วว่าคงทนต่อแสงได้มากที่สุด นั่นก็คือ สีดำ ส่วนสีแดงนั้นถือได้ว่าเป็นสีที่มีความคงทนต่อแสงน้อยที่สุดทำให้มันจางลงเร็วกว่าสีอื่น นอกจากนั้นแล้วสีอ่อนก็ยังมีอัตราความคงทนน้อยกว่าสีเข้มอีกด้วย ดังนั้นแล้วหากคุณคิดที่อยากจะให้พวกมีอายุยืนยาวสีดำ และ สีเทา นั้นถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการสัก

แต่ทว่าเรื่องราวของการทำให้ลายสักยังคงดูดีตามวัยยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีอีกหลายวิธีเลยที่สามารถทำให้รอยสักดูดีได้ ซึ่งจะเป็นวิธีไหนนั้น เอาเป็นว่า เดี๋ยวเรามาพบคำตอบกันอีกทีในบทความหน้า

ลายสัก HOT

บทความลายสักล่าสุด

หมวดหมู่ลายสัก

สารบัญ ลายสัก รอยสัก