ลายสักแตกเป็นส่วนใหญ่เกิดจากผิวแห้งมากในระหว่างกระบวนการรักษา รอยที่แห้งมากเกินไปจะทำให้เกิดสะเก็ดหนาและอาจแตกได้ในหลายพื้นที่ สะเก็ดที่แตกอาจทำให้เลือดออก ติดเชื้อ และอาจซีดจางหรือเกิดแผลเป็นได้
ระหว่างที่รอยสักจะรักษาให้หายขาด อาจเกิดความแห้งและสะเก็ดเล็กน้อย แต่ควรหลีกเลี่ยงสะเก็ดที่หนาและหนักเมื่อทำได้
ทำไมการแตกของลายสักจึงเกิดขึ้น?
เมื่อลายของคุณเริ่มตกสะเก็ดในขั้นตอนการรักษา โดยทั่วไปบริเวณรอบรอยจะกลายเป็นสะเก็ด แห้งมาก และคันมากด้วย
ลายบางแบบจะตกสะเก็ดเบามากโดยที่สะเก็ดนั้นแทบจะมองไม่เห็น และบางรอยจะตกสะเก็ดอย่างหนัก โดยมีสะเก็ดหนาเด่นชัด
รอยสักเริ่มแตก
เมื่อสะเก็ดสูญเสียความชุ่มชื้นในตัวพวกมัน พวกมันจะแห้งมากจนเริ่มแตก แตกออก และมีเลือดออกบ่อยครั้ง นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการแตกลาย
ด้านล่างนี้คือสาเหตุหลักที่ทำให้หมึกใหม่ของคุณเริ่มแตก:
คุณมีสะเก็ดหนามาก
ยิ่งมีสะเก็ดหนา และหนาแน่นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสแห้ง และเริ่มแตกได้มากเท่านั้น
รอยสักนี้ตกสะเก็ดค่อนข้างมาก ดังนั้นอาจจะลอกออกเป็นสะเก็ดขนาดใหญ่ขึ้น
สะเก็ดที่ใหญ่กว่าและหนากว่ามักจะแห้งบ่อยกว่าสะเก็ดขนาดเล็ก และมักติดบนวัตถุ และเสื้อผ้า และถูกฉีกออกจากลายก่อนเวลาอันควร ดังนั้นควรระมัดระวังเป็นพิเศษหากลายของคุณมีสะเก็ดขนาดใหญ่ติดอยู่ในปัจจุบัน
การดึง/ดึง/ลอกสะเก็ดออกจากสะเก็ดก่อนที่มันจะพร้อมอาจทำให้การรักษาหายช้า ทำให้รอยสักที่หายแล้วดูเป็นหย่อมๆ และจางลง และอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้ ดังนั้นพยายามป้องกันไม่ให้สิ่งนี้เกิดขึ้นมากที่สุด
แม้ว่ารอยสะเก็ดขนาดใหญ่สองสามอันบนรอยสักจะค่อนข้างปกติ แต่การสักที่มีสะเก็ดขนาดใหญ่ หนา และแตกร้าวอาจหมายความว่าช่างสักของคุณมีมือที่หนักเกินไปเล็กน้อย และรักษาผิวของคุณให้หยาบเกินไปเล็กน้อยระหว่างการสัก ผิวของคุณขาดการบำรุง และขาดความชุ่มชื้น
รอยสักของคุณจะแข็งแรงพอๆ กับผิวที่สักเท่านั้น
เพื่อให้ผิวและลายสักของคุณมีโอกาสรักษาได้ดีที่สุด เป็นการดีที่สุดที่จะกินอาหารเพื่อสุขภาพที่สมดุลเพื่อให้แน่ใจว่าผิวของคุณได้รับวิตามิน และการบำรุงที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อให้มีสุขภาพที่ดี ตกสะเก็ดอย่างถูกต้อง และหายเป็นอย่างดี
ในทำนองเดียวกัน คุณควรดื่มน้ำปริมาณมากในแต่ละวันเพื่อให้แน่ใจว่าผิวของคุณยังคงตึง เด้ง และที่สำคัญที่สุดคือ ควรจะมีความชุ่มชื้นเพียงพอ หากลายของคุณเริ่มแห้ง นี่คือเวลาที่คุณจำเป็นต้องทำงานอย่างรวดเร็วเพื่อให้บริเวณนั้นชุ่มชื้นก่อนที่จะเกิดรอยร้าว
ลายของคุณอาจมีการติดเชื้อ
บางครั้งการแตกของสะเก็ดบนรอยใหม่ของคุณอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อที่ผิวหนัง สิ่งนี้จะเกิดขึ้นเมื่อบาดแผลของคุณไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างเพียงพอ และแบคทีเรียสามารถเข้าไปได้
รอยสักที่ตกสะเก็ดอย่างหนักซึ่งอาจติดเชื้อได้
หากลายของคุณติดเชื้อ รวมกับผิวหนังที่แตก รอยของคุณอาจมาพร้อมกับผื่น จุดน้ำมูก แผลพุพอง และอาการทั่วไปอื่นๆ เช่น มีไข้
หากคุณสงสัยว่าลายของคุณอาจติดเชื้อ เป็นการดีที่สุดที่จะพูดคุยกับช่างสักของคุณหรือแพทย์เพื่อขอความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญโดยเร็วที่สุด
ยิ่งรักษาการติดเชื้อได้เร็วเท่าไร ก็ยิ่งมีอันตรายน้อยกว่า ทั้งต่อรูปลักษณ์ของลาย และสุขภาพทั่วไปของคุณ
การที่คุณต้องแบกรับความเจ็บปวดระหว่างที่ลายของคุณกำลังรักษาตัวนั้น ไม่เพียงแค่ร่างกายคุณเท่านั้นที่จะต้องต่อสู้กับความเจ็บปวด นั่นรวมไปถึงจิตใจของคุณด้วย หากคุณเริ่มรู้ตัวว่าลายของคุณมีโอกาศติดเชื้อ คุณควรจะใจเย็นๆและแก้ปัญหาตามที่เราแนะนำ
วิธีการป้องกันการแตกของลายสัก
หากรอยของคุณเริ่มแตก หรือหากคุณกังวลว่าจะเริ่มแตกในอนาคต ทางที่ดีควรเริ่มทาครีมหรือโลชั่นสักที่แพ้ง่ายและไม่มีกลิ่นบนผิววันละ 2-3 ครั้ง .
ส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เนยโกโก้ และน้ำมันมะพร้าว สามารถใช้ในการเติมความชุ่มชื่น ให้กับรอยสักที่แห้ง และแตกได้ น้ำมันหล่อลื่นจากธรรมชาติเป็นตัวเลือกที่เราแนะนำที่สุด เพราะว่ามันจะดีต่อร่างกายของคุณ
อย่าลืมทาโลชั่นหลังทำความสะอาดลายเสมอ เพราะน้ำอุ่นจะทำให้บริเวณนั้นแห้งมากขึ้น คุณอาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะอาบน้ำอุ่น และแน่นอนโดยเฉพาะในหน้าหนาว เพราะฉะนั้นคุณควรอาบสลับเป็นน้ำเย็นบ้างก่อนที่คุณจะอาบน้ำเสร็จ
โลชั่นสักตัวที่ดีที่สุดที่ฉันเคยใช้เป็นการส่วนตัวคือผลิตภัณฑ์ดูแลหลังการทานมังสวิรัติที่เรียกว่า After Inked Tattoo Aftercare Lotion สิ่งนี้ทำงานได้ดีอย่างน่าอัศจรรย์ในระหว่างกระบวนการบำบัด ไม่เพียงแต่ทำให้ลายสักของคุณชุ่มชื้นได้ดีเท่านั้น แต่ยังช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคืองที่น่ารำคาญอีกด้วย เมื่อใช้ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการรักษา โลชั่นนี้จะช่วยลดเวลาในการรักษารอยสักและทำงานเพื่อขจัดความแห้งกร้านและตกสะเก็ดที่หายช้า
คุณจะต้องถูโลชั่นบาง ๆ ให้ทั่วบริเวณนั้นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะไม่หายใจไม่ออกผิวที่รักษาโดยการอดอาหารของออกซิเจน
นี่เป็นโลชั่นที่มากเกินไปและควรเช็ดออกด้วยกระดาษชำระ
การใช้โลชั่นมากเกินไปอาจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่ารอยเป็นฟองได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณทาโลชั่นปริมาณมากกับรอยที่มีรอยร้าวก่อนที่รอยจะแห้งสนิทหลังจากล้างออก การที่คุณทาโลชั่นหนาเกินไป ก็จะทำให้ลายสักของคุณเปื่อยและเสียหายได้ง่าย เพราะฉะนั้น อย่างทาโลชั่นเหมือนว่าคุณจะไม่ทามันอีก
คุณยังสามารถพยายามป้องกันไม่ให้สะเก็ดหนาปรากฏขึ้น โดยทำให้แน่ใจว่าคุณทำความสะอาดลายสักอย่างทั่วถึงในสองสามวันแรกหลังจากเสร็จสิ้น
โดยต้องแน่ใจว่าคุณยังคงเช็ดเลือด/หมึก/พลาสมาที่ไหลออกมาอย่างต่อเนื่องภายในสองสามวันแรกนี้ คุณจะช่วยป้องกันการสะสมตัวขนาดใหญ่ที่อาจก่อตัวเป็นสะเก็ดหนาในที่สุด
สะเก็ดจากลายสักที่แห้งจนเริ่มแตกเป็นสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาอย่างแน่นอน และเป็นสิ่งที่คุณควรพยายามป้องกันให้ดี และถ้าหากมันหนาเป็นพิเศษ คุณก็ควรยิ่งดูและให้เป็นอย่างดี มากกว่าการดูแลธรรมดาทั่วไป
สะเก็ดที่ไม่ได้รับความชุ่มชื้นเพียงพอและเริ่มแตกอาจเปิดขึ้นและเริ่มมีเลือดออกและดึงออกก่อนเวลาอันควร ซึ่งมักส่งผลให้เกิดปัญหาด้านรูปลักษณ์ แม้ว่ารอยสักจะหายสนิทแล้วก็ตาม
อย่างไรก็ตาม โดยทำตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ข้างต้น หวังว่าคุณจะได้รับลายสักที่หายดีและดูดีสมบูรณ์แบบโดยไม่มีรอยร้าวในสายตา
การที่เราพอจะวิเคราะห์ได้ว่าลายสักของเราที่เป็นสะเก็ดหนานั้น เป็นเพราะจกเหตุผลใดนั้น บางทีเราควรจะวิเคราะห์ให้ดีอย่างถี่ถ้วน เนื่องจากมีสาเหตุมากมายหลายประการที่จะเป็นไปได้ว่ามาจากสาเหตุใด แต่สิ่งที่สำคัญที่คุณควรคำนึงไว้เสมอนั่นก็คือ การดูแลรักษาลายสักที่มีแนวโน้มว่าจะติดเชื้อของคุณนั้น ควรจะให้ความสำคัญ และพิถีพิถันเป็นพิเศษ
หากเริ่มเป็นไข้ และมีอาการปวดแผลเป็นอย่างมากให้ปรึกษาแพทย์โดยด่วน อย่าชะล่าใจจนต้องติดเชื้อไม่หาย
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ วิธีรักษาลายสักใหม่ที่แตกและแห้งเป็นสะเก็ดหนา ที่เรา Becomeinked นำมาฝากกัน วันนี้ผมต้องลาไปก่อน สำหรับบทความหน้าเราจะพาเพื่อนๆไปดูรอยสักประเภทไหนกันอีกบ้าง ก็สามารถติดตามกันไว้ได้เลยนัครับ หากเพื่อนๆต้องการฝากคำติชมให้เรา ก็สามารถพูดคุยกันผ่านกล่องข้อความด้านล่างกันได้เลยนะครับ พบกันใหม่ในบทความหน้า สวัสดีครับ
หากคุณอยากได้รอยสักที่มีคุณภาพจากร้านที่เชื่อถือได้ ตามมาตราฐานความปลอดภัยของสาธารณะสุข ผมแนะนำร้านนี้เลยครับ tattooexpo09
เครดิต : สล็อตแตกง่าย