เคล็ดลับดี ๆ กับการทาครีมกันแดดบนผิวที่เพิ่งสักใหม่

ปัจจัยแวดล้อมทางธรรมชาติเป็นอีกหนึ่งในหลาย ๆ สิ่งที่ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์เรา และมันยังทำให้วิถีชีวิตของแต่ละคน แต่ละประเทศนั้นแตกต่างกันไปอีกด้วย ทว่าหนึ่งในปัจจัยหลักที่เราเชื่อว่าในทุก ๆ คนในประเทศไม่น่าจะสามารถหลีกหนีมันพ้นได้นั่นก็คือ แสงแดด ซึ่งแม้ว่าแสงแดดจะเป็นหนึ่งในสิ่งที่ช่วยให้เกิดรากฏการณ์ต่าง ๆ มากมาย แต่ทว่าบางทีแล้วแสงแดดก็อาจจะไม่ได้มีประโยชน์เสมอไป 

ยกตัวอย่างเช่นการเกิดมะเร็งผิวหนัง จากการที่ร่างกายได้รับแสงแดดมากเกินไป นอกจากนั้นแล้วแสงแดดยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ค่อยจะถูกกับผิวหนังมนุษย์สักเท่าไหร่ และ นั่นเองจึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า โลชั่นกันแดดขึ้น โดยเจ้าโลชั่นกันแดดนั้นมันจะเปรียบเสมือนเกราะป้องกันผิวหนังของเราไม่ให้ถูกแสดงแดดอันร้อนแรงทำร้าย และ แผดเผา แต่ทว่าด้วยความที่มันมีหน้าที่ในการป้องกันแดดนี้เองจึงทำให้มันมีสารเคมีหลาย ๆ ชนิดผสมอยู่ และ แน่นอนว่า รอยสักของเราเองก็ไม่ค่อยถูกกับสารเคมีเหล่านั้นสักเท่าไหร่

แต่ก็แน่นอนแหละว่าบางทีแล้วเราก็ไม่อาจที่จะเลี่ยงการทาครีมกันแดดลงบนผิวหนังของเราได้ ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเคล็ดลับดี ๆ กับการทาครีมกันแดดบนผิวที่เพิ่งสักใหม่ กันว่า มันจะส่งผลกระทบต่อรอยสัก และ ร่างกายของเราหรือไม่

ก่อนอื่นเราจะมาตอบคำถามที่หลาย ๆ คนสงสัยกันก่อนเลยนั่นก็คือ

เราควรที่จะทาครีมกันแดดลงบนรอยสักหรือไม่ ซึ่งคำตอบที่เราบอกคุณอาจจะทำให้หลาย ๆ คนตกใจ นั่นก็เพราะว่าจริง ๆ แล้ว เราไม่ควรที่ทาครีมกันแดดลงบนรอยสักของเรานั่นเอง เนื่องจากบริเวณผิวหนังของเราที่เพิ่งมีสักใหม่ ๆ อาจจะไม่สามารถที่จะทนต่ออาการระคายเคืองต่าง ๆ ได้ดีนัก อีกทั้งการทาครีมกันแดดลงบนรอยสักใหม่ ๆ ของเราอาจจะทำให้เกิดปัญหาหลาย ๆ อย่างตามมา ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เซลล์บริเวณนั้นฟื้นตัวได้ช้าซึ่งมันจะส่งผลไปถึงการหายของบาดแผลที่ช้าลง นอกจากนั้นแล้วครีมกันแดดอาจจะทำให้ลายสักของคุณเสียหายในระยะยาวได้อีกด้วย

นอกจากนั้นแล้วสาเหตุที่ครีมกันแดดไม่ค่อยถูกับรอยสักใหม่ยังมีอีกหลายประการด้วยกันไม่ว่าจะเป็น ปัญหาแรกเลยนั่นก็คือ ครีมกันแดดหลาย ๆ ชนิดมีสารเคมีที่รุนแรง ซึ่งแน่นอนแหละว่าถ้าหาเป็นผิวหนังปกติเจ้าสารเคมีเหล่านั้นอาจจะไม่สามารถทำอันตรายอะไรได้ แต่ถ้าผิวนั้นบริเวณนั้นมันบอบบางอย่างเช่นบริเวณที่เพิ่งมีการสัก มันก็อาจทำให้เกิดรอยแดง รวมถึง ผื่น คัน และการระคายเคืองต่าง ๆ และถ้าหายังดื้อ และ ใช้ย้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น มันก็อาจทำให้ลายจาง หรือ สีตก ได้

ประการต่อมาที่ทำให้ครีมกันแดดไม่ถูกกับรอยสักนั่นก็คือ ครีมกันแดดหลาย ๆ เจ้านั้นมีการแต่งสี

และ แต่งกลิ่น ซึ่งมันไม่แปลกหรอกเพราะว่าผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดเหล่านี้ก็ทำเพื่อสร้างจุดเด่นกับตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อใช้ในการดึงดูดใจ และ ดึงดูดสายตาผู้ซื้อ ซึ่งอย่างที่บอกไปเมื่อครู่ว่าถ้าผิวหนังปกติสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันไปอยู่บนผิวที่เพิ่งสักใหม่ ๆ ผิวหนังบริเวณนั้นที่บอบบางจะค่อนข้างไวต่อสารเติมแต่งเหล่านี้เป็นอย่างมาก โดยถ้าใครอ่านมาหลายบทความภายในเว็บไซต์ของเรา เราจะแนะนำตลอดว่าไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีการแต่งสี แต่งกลิ่นเหล่านี้กับลายสักใหม่บนร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่สบู่ เพราะก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองเช่นกัน

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ครีมกันแดดไม่เหมาะกับรอยสักนั่นก็เพราะความหนาของเนื้อครีม

โดยหลังจากที่รอยสักใหม่มีการฟื้นตัวแล้วบริเวณตรงนั้นจำเป็นที่จะต้องการออซิกเจนให้ได้มากที่สุดเพื่อที่จะใช้ในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมา แต่ทว่าการทาครีมกันแดดไปบนผิวที่เพิ่งสักใหม่นั้น ความหนาของเนื้อครีม และ การที่มันไม่ได้ซึมซับลงไปในผิวนี้เองจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการปิดกันออกซิเจนไม่ให้ซึมซับลงไปสู่ผิวหนังบริเวณนั้นได้ นอกจากนั้นแล้วหากทาครีมกันแดดบริเวณรอยสักหนาจนเกินไป มันอาจจะทำให้บริเวณตำแหน่งที่ทามีความอบอุ่น และ ชื้นจนเกิดไป ซึ่งสภาพแวดล้อมเหล่านี้นี่แหละ คือตัวการสำคัญในการเพาะเชื้อแบคทีเรีย และ เชื้อโรคต่าง ๆ ให้เจริญเติบโต ซึ่งแน่นอนว่ามันคงไม่ดีเท่าไหร่หากบริเวณดังกล่าวของคุณมีอาการติดเชื้อ

อย่างต่อมาที่ทำให้ครีมกันแดดไม่เหมาะกับรอยสักใหม่ นั่นก็เพราะความเหนียวของมันนั่นเอง

เพราะว่าครีมกันแดดนั้นจะมีเนื้อครีมที่ค่อนข้างเหนียว และนั่นก็ทำให้มันจับฝุ่น กรวด และ สิ่งสกปรกต่างได้ที่เรามองไม่เห็นได้เป็นเวลาหลายชั่วโมงนับตั้งแต่เราเริ่มทามันลงบนผิวเป็นครั้งแรก และนั่นเองก็กลายเป็นการเปิดโอกาสให้เศษกรวด หรือ ฝุ่นต่าง ๆ ติดอยู่กับรอยสักของคุณ ซึ่งเจ้าเศษฝุ่นหรือสิ่งสกปรกเหล่านี้นี่เองที่มันจะอาจจะเข้าไปปนเปื้อนในบาดแผลของคุณจนเกิดการติดเชื้อได้

และเมื่อหลาย ๆ คนเริ่มตระหนักถึงอันตรายของครีมกันแดดที่ส่งผลแบบนี้แล้ว อีกหนึ่งปัญหากังวลใจที่เราเชื่อว่ามันจะตามมาอย่างแน่นอนนั่นก็คือ แล้วแบบนี้จะป้องกันพวกมันให้ไกลจากแสงแดดของดวงอาทิตย์ได้อย่างไร เพราะว่ารอยสักใหม่เองก็ถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างอ่อนไหวในหลาย ๆ ปัจจัย และแน่นอนว่าแสงสว่างของดวงอาทิตย์ก็เช่นกัน เนื่องจากรอยสักใหม่นั้นค่อนข้างไวต่อแสงเป็นอย่างมาก และหลาย ๆ ครั้งเราก็เคยแนะนำว่าให้คุณพยายามเอารอยสักใหม่ของคุณห่างไกลดวงอาทิตย์ให้ได้มากที่สุด

ดังนั้นทางที่ดีที่สุดสำหรับป้องกันพวกมันจากแสงอาทิตย์นั้นก็คือ อย่างน้อยคุณควรที่จะเว้นระยะเวลาประมาณ 2 – 3 สัปดาห์ที่จะให้รอยสักของคุณไม่เผชิญหน้ากับแสงอาทิตย์โดยตรงจนกว่าที่มันจะหายสนิท ยกตัวอย่างเช่น งดกิจกรรมการไปเที่ยวทะเล หรือ นอนอาบแดด นั่นเอง ซึ่งแม้ว่ามันจะเป็นทริปที่น่าเที่ยวขนาดไหนก็ตาม แต่เราอยากให้คุณระลึกเอาไว้เสมอว่าที่เที่ยวนั้นไม่ได้หนีจากเราไปไหน แต่ทว่าลวดลายที่คุณยอมทนเจ็บ และ ยอมเสียเงินจำนวนไม่น้อยในการสร้างสรรค์มันออกมามันจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ดังนั้นมันคงไม่ดีแน่ถ้าคุณมีลวดลายแย่ ๆ ติดตัวเราไปตามทริปต่าง ๆ หลังจากนี้

แต่ในกรณีที่คุณไม่ได้ไปนอนอาบน้ำแดด หรือ ไปเที่ยวทะเล แต่มันมีเหตุให้คุณต้องออกไปนอกบ้านและเผชิญหน้ากับแสงแดดที่ร้อนจัดนั้น สิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้นั่นก็คือการเก็บรอยสักไว้ใต้เสื้อผ้า โดยอาจจะต้องหาเสื้อผ้าที่ค่อนข้างหนาหน่อยเนื่องจากเสื้อผ้าบาง ๆ อาจจะไม่สามารถที่จะกันรังสี UV ได้ดีมากนัก 

ซึ่งหากคุณสามารถที่จะปกป้องรอยสักผ่านแสงแดด และ UV ต่าง ๆ มาได้ในตลอดระยะเวลา 2 – 3 อาทิตย์แล้วละก็ หลังจากที่ผิวหนังบริเวณนั้นของคุณกลับมาเป็นปกติแล้ว ทีนี้แหละคุณก็สามารถที่จะกลับมาทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิวหนังของคุณได้แล้ว เพราะว่าการโดดแสงแดดเป็นระยะเวลานาน ๆ มันจะทำให้ลวดลายที่คุณอุตส่าห์ตั้งใจสักมาจางลง รวมถึงสีผิวบริเวณนั้นก็จะเปลี่ยนไปด้วย 

ดังนั้นเราจึงแนะนำเคล็ดลับดี ๆ กับการทาครีมกันแดดบนผิวที่เพิ่งสักใหม่ให้คุณ

แต่เราขอย้ำไว้ตรงนี้ว่า คุณจะใช้ครีมกันแดดกับผิวบริเวณนั้นของคุณได้ก็ต่อเมื่อรอยสักของคุณหายสนิทแล้ว และถึงแม้ว่าพวกมันจะหายสนิทแล้วก็ตาม คุณก็ยังคงจำเป็นที่จะต้องดูแลลวดลายบนร่างกายของคุณให้พ้นจากรังสี UV ต่าง ๆ ที่มาจากแสงแดดอยู่เสมอเพื่อเป็นการทำให้รอยสักของคุณดูดีต่อไปในระยะยาว เพราะศัตรูคนสำคัญที่สุดก็คือ แสงแดด นั่นเอง