Yazici หนึ่งในช่างสักผู้ผสมผสานศิลปะของรอยสักระหว่างยุคเก่าและ ยุคใหม่

สำหรับหลาย ๆ คนน่าจะพอทราบกันดีกว่าเรื่องราวของรอยสักนั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่อยู่คู่กับสังคมมนุษย์เรามาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยโบราณแล้ว แต่เพราะโลกยังคงหมุนอย่างเนื่อง และนั่นก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลหนึ่งที่ทำเรื่องราวของรอยสักนั้นถูกพัฒนาต่อยอดไปได้ไกลกว่าเดิม และ หนึ่งในช่างสักที่สามารถเอาเรื่องราวของการสักในสมัยเก่ามาผมสผสานกับรอยสักสมัยได้อย่างลงตัวก็คือ ช่างสักที่มีชื่อว่า Berkay Yazici

Berkay Yazici ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งช่างสักที่สามารถมักจะพัฒนา และ ปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ และเขามักจะมีการเล่าเรื่องราวของเขาผ่านรอยสักได้อย่างโดดเด่นเป็นอย่างมาก โดยตัวของ Berkay Yazici ได้นิยามรูปแบบรอยสักของตัวเองว่า แบบดั่งเดิมใหม่ ซึ่งสาเหตุที่เขาเรียกผลงานของเขาแบบนี้นั่นก็เพราะ ผลงานของเขานั้นจะเป็นการผสมผสานรอยสักอันสวยงามที่สามารถใช้ศิลปะอันสวยงามของปัจจุบัน มาผสมผสานกับการถ่ายทอดองค์ประกอบแบบสมัยเก่าได้อย่างลงตัว ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุก ๆ คนไปรู้จักกับ Berkay Yazici กัน

โดยชีวิตของ Berkay Yazici นั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของงานศิลปะมาอย่างยาวนาน

ซึ่งในตอนแรกเริ่มนั้นตัวของเขาเขายังไม่ได้เข้ามาในวงการสักโดยตรง เพราะว่าตัวของ Berkay Yazici จะเน้นหนักไปทางการวาดรูปซะมากกว่า แต่การวาดรูปของเขานี่แหละที่ทำให้เขาเริ่มเข้าไปข้องเกี่ยวกับวงการสัก เนื่องจากเขาได้เห็นผลงานของช่างสักต่าง ๆ และเขาก็เริ่มลงลึกเพื่อหาข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นเรื่อย ๆ และหลังจากนั้นตัวของ Berkay Yazici ก็ได้เริ่มสักลงผิวหนังคนครั้งแรกจนได้

ซึ่งถ้าใครคิดว่าคนที่มีผลงานการวาดภาพดีอยู่แล้วอย่าง Berkay Yazici จะสร้างสรรค์รอยสักบนร่างกายของคนได้สวยงามตั้งแต่ครั้งแรกที่สักเลยละก็ บอกเลยว่าคุณคิดผิดแล้ว เพราะขนาดเจ้าตัวอย่าง Berkay Yazici ยังรู้สึกว่ามันแย่มาก ๆ และนั่นก็ทำให้เขานำประสบการณ์นี้มาเป็นบทเรียน และนั่นก็กลายเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวของ Berkay Yazici เริ่มรู้ว่าตนเองนั้นหลงรักงานสักเข้าให้เสียแล้ว 

ตัวของ Berkay Yazici ยอมรับด้วยความสัจจริงว่าเขาคนนี้ไม่เคยสนุกอะไรมากเท่ากับการสักมาก่อน เพราะยิ่งสักมากขึ้นเขาก็ยิ่งศรัธทาในตัวเองและงานของเขาอย่างเต็มที่ เพราะมันทำให้เขาคิดว่าเขานั้นยังเก่งขึ้นได้อีกเรื่อย ๆ และเขาเองก็หวังว่าผลงานของเขาจะต้องกลายเป็นที่รู้จักในสักวัน และ ตราบใดที่เขาไม่หยุดเรียนรู้ และ พัฒนาตัวเอง ตัวของเขาจะต้องเก่งกว่านี้ได้อีกในอนาคต

ส่วนสิ่งที่ทำให้ตัวของ Berkay Yazici เริ่มสนใจในรอยสักนั้นมันต้องย้อนกลับไปในตอนแรก

ที่เขาเข้าสู่วงการศิลปะ ซึ่งตัวของ Berkay Yazici นั้นเป็นคนที่ชอบแสดงไลฟ์สไตล์ของตัวเองอยู่เสมอ ซึ่งเขาจะสะท้อนสิ่งเหล่านั้นออกมาด้วยการวาดรูป, เขียนข้อความ รวมไปถึงการถ่ายรูป โดยรอยสักแรกของ Berkay Yazici นั้นเขาได้เลือกโลโก้ของวงดนตรีเมทัลระดับตำนานอย่าง Judas Priest ที่ตนเองชอบมาทำเป็นรอยสัก ซึ่งแน่นอนว่าการสักลายของวง Judas Priest นั้นมันได้บ่งบอกถึงตัวตนของ Berkay Yazici ได้ทันทีว่าเขานั้นชอบฟังเพลงแบบไหน และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มสักแบบอื่น ๆ เพิ่มขึ้นไม่ว่าจะเป็น สัตว์ และ เกมที่ เขาชอบ 

แต่เมื่อเวลานานไปเรื่อย ๆ เขาก็เริ่มต้องการที่สร้างสรรค์เรื่องราวที่คนอื่น ๆ ต้องการจะเล่ามากขึ้น และนั่นก็ทำให้เขาได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจกับเพื่อนเก่าของเขาอย่าง แดนนี่ การ์เซีย ที่เปิดร้านสัก โดยเพื่อนของเขาอย่าง แดนนี่ การ์เซีย  ได้รับเชิญจากอเมริกา และ ทางยุโรปไปเป็นศิลปินรับเชิญอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงนั้นยังเป็นช่วงที่

อินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลาย และหลังจากที่อินเตอร์เน็ตเริ่มแพร่หลายขึ้นเรื่อย ๆ ตัวของ Berkay Yazici ก็เริ่มใช้เทคโนลยีเหล่านี้ติดตามศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกคนอื่น ๆ เช่น Eckel, David Tevenal, Big Meas, Sneakymitch, Horiyoshi ซึ่งงานของศิลปินเหล่านี้นี่แหละที่กลายเป็นแรงบันดาลใจของ Berkay Yazici มาโดยตลอด นอกจากนั้นแล้วตัวของเขาก็ยังคงศึกษางานของศิลปินท่านอื่นเพื่อสร้างผลงานที่เป็นสไตล์ของตัวเองขึ้นมา พร้อมกันนั้นเขาก็ยังคงพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อย ๆ 

และจากการทำแบบนั้นนี้เองที่ในทำให้ตัวของ Berkay Yazici ได้ลองทำการสักหลากหลายสไตล์มาตลอดในช่วงระยะเวลา 13 ปี จนทำให้ในที่สุดตัวของ Berkay Yazici ก็ได้ค้นพบว่าสไตล์ที่มันบ่งบอกถึงตัวเขาได้ดีที่สุด ก็คือแนวอเมริกันแบบดั้งเดิมนั่นเอง ซึ่งในตอนแรกเขาเริ่มต้นจากงานแบบเส้นเพื่อเป็นการปรับปรุงเทคนิคของตัวเอง และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มเรียนรู้เรื่องสี จนทำให้เขาหันมาใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อจะสามารถปรับเปลี่ยนสีได้ระหว่างทำงาน โดยเขาได้ซื้อเครื่องสักไลเนอร์สี รวมไปถึง เชดเดอร์จากเพื่อของเขาอย่าง Mike Pike และหลังจากนั้นเขาก็ซื้อเครื่องสักต่อจาก Seth Ciferri และ Marv Lerning

ในช่วงแรก ๆ ลายสักของ Berkay Yazici มักจะใช้วิธีการสักแบบดั่งเดิมเพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์และแนวทางที่เขาทำอยู่ และหลังจากนั้นเขาก็เริ่มผสมผสานสไตล์ต่าง ๆ เข้าไปให้มากขึ้น เช่น สีน้ำ , ลายเส้น และเมื่อประสบการณ์ของตัว Berkay Yazici ถูกสะสมไปเรื่อย ๆ ทำให้รอยสักของ Berkay Yazici เริ่มมีความเหมือนจริงเข้าไปเรื่อย ๆ จนมันทำให้ตัวของเขาเริ่มคิดว่าเขาจะกลับไปสักในสไตล์ที่เขาชอบแบบเดิมได้หรือไม่ และ นั่นเองก็ทำให้เขาเริ่มปรับองค์ประกอบต่าง ๆ ในลายสักของเขา จนทำให้มันกลายเป็นรอยสักในแบบเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ Berkay Yazici เรียกมันว่า  ‘New Traditional’  ซึ่งรอยสักชนิดนี้ของเขามันจะเป็นการผสมผสานของภาพที่ดูจริง และ สไตล์แบบดั่งเดิม พร้อมยังใช้เทคนิคการสักแบบปัจจุบันเข้าไปผสมกับองค์ประกอบแบบเก่า

ส่วนถ้าถามว่าผลงานไหนที่ตัวของ Berkay Yazici ชอบมากที่สุด เขาได้บอกว่าเขานั้นหลงรักรอยสักที่เป็นรูปผู้หญิงเท็กซัสถือปืนที่เพิ่งสักไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยตัวของเขานั้นรู้สึกสนุกกับงานนี้เอามาก ๆ ในขณะที่วาด และ สัก และตัวของ Berkay Yazici 

เองก็ปรารถนาที่อยากสร้างสรรค์แบบนี้บ่อย ๆ และรวมถึงยังเฝ้ารอให้มีลูกค้ากลับมาทำงานประเภทนี้อีก 

ส่วนปรัชญาชีวิตของ Berkay Yazici ของเขาในการทำงานเส้นทางสายนี้นั่นก็คือ ตัวของเขาจะเคารพในสิ่งที่เรียกประสบการณ์ซึ่งแน่นอนว่ามันก็ต้องเกี่ยวกับเหล่าช่างสักที่มีประสบการณ์ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาเริ่มตัดขัดในงานของตัวเองเมื่อไหร่ เขาก็จะกลับมานั่งคิดทบทวนงานเก่า ๆ ของเขา เพื่อที่จะคิดค้นและหาอิทธิพลใหม่ ๆ จากผลงานเก่า ๆ เหล่านั้น ซึ่งนี่แหละคือปรัชญาในการทำงานของเขาที่พึงระลึกเอาไว้เสมอ 

อีกทั้งแนวการสักที่เขาทำซึ่งเรียกว่า New Traditional มันเป็นแนวทางใหม่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน มันจึงกลายเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวของ Berkay Yazici เพิ่มเติมสิ่งต่าง ๆ เข้าไปได้ และ ยิ่งการได้เติมอะไรใหม่ ๆ นี้เอง ที่มันได้ทำให้ตัวของ Berkay Yazici รู้สึกมีแรงผลักดันในการทำงานต่อไป และ เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเขานั่นก็คือ การทำให้ทุกคนรักการสักแบบอเมริกันดั้งเดิม

แล้วอะไรละคือสิ่งที่ Berkay Yazici คาดหวังและต้องการเห็นอะไรในวงการสัก 

จริง ๆ แล้วตัวของเขาก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย เพราะว่าตัวของ Berkay Yazici ถือได้ว่าเป็นช่างสักอีกคนที่พยายามปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นอกจากนั้นแล้วเขาก็ยังพยายามตามเรื่องราวสมัยใหม่ให้ทัน แต่การอัปเดทของเขานั้นไม่ใช่การอัปเดทเพื่อให้ทันสมัยนิยม แต่มันเป็นการทำเพื่อปรับใช้วัฒนธรรมการการสักให้ไม่ดูหมิ่นค่านิยมทางจริยธรรมมากจนเกินไป

นอกจากนั้นแล้ว Berkay Yazici  ยังมองว่ามองว่าในปัจจุบันนั้นมีรูปแบบการสักมากเกินไป แถมยังมีแนวทางการสักเป็นแนวเดียวเกินไป ซึ่งแน่นอนว่ามันค่อนข้างยากมากเลยที่จะมีคนใดคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญการสักทั้งหมด  และนั่นจึงทำให้ตัวของ Berkay Yazici ไม่สามารถที่จะหยุดการเรียนรู้ของเขาได้เลย 

และนี่ก็คือเรื่องราวของ Berkay Yazici   หนึ่งในช่างสักที่สามารถผสมผสานสไตล์จากการสักในสมัยใหม่ และ สมัยเก่าออกมาเป็นแนวทางในแบบเฉพาะของตัวเองได้อย่างลงตัว