สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากที่สุดสำหรับทุก ๆ สรรพชีวิตที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้นั่นก็คือ เวลา เพราะว่าสิ่งที่เรียกเวลานั้นถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สามารถกำหนดทุก ๆ อย่างของชีวิตได้ ไม่ว่าจะเป็นเวลาการนัดหมายต่าง ๆ และมันยังรวมไปถึง อายุ ของสิ่งมีชีวิต อีกด้วย ซึ่งหลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินกันมาอยู่แล้วว่าไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่จะอยู่ได้ตราบนานเท่านานเหนือกาลเวลาอย่างแน่นอน เพราะว่ายิ่งกาลเวลาผ่านไป อายุที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะพาให้ร่างกายเริ่มอ่อนแอลง ซึ่งมนุษย์เองก็หนีไม่พ้นวัฏจักรเหล่านั้น และสิ่งที่มันแสดงให้เห็นถึงความถดถอยของมนุษย์ได้ดีมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นผิวหนังที่หย่อนคล้อยลง ซึ่งไอ้ผิวหนังที่หย่อนคล้อยนี่แหละที่มันกลายมาเป็นสิ่งที่เราจะต้องพูดกันในครั้งนี้ เพราะความหย่อนคล้อยเหล่านั้น มันเกี่ยวกับ รอยสักบนร่างกาย
โดยหลาย ๆ คนนั้นค่อนข้างกังวลว่าเมื่อร่างกายของเราแก่ตัวลง รอยสักที่มันอยู่บนร่างกายนั้นมันจะซีดจาง หรือ ว่ามันเหี่ยวย่นไปตามร่างกายที่เสื่อมสภาพของเราหรือไม่ ซึ่งในบทความในเว็บไซต์ของเราก่อนหน้านี้ในเราได้ก็มีการเกริ่นถึง
เรื่องราวของอะไรคือปัจจัยที่ทำให้รอยสักของเราซีดจางลงตามวัยเอาไว้แล้ว
ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่ได้อ่านคุณสามารถที่จะย้อนกลับไปอ่านถึงเรื่องราวก่อนหน้านี้กันก่อนได้เพื่อจะได้ทำความเข้าใจหัวข้อนี้ให้มากขึ้น แต่สำหรับใครที่ทำความเข้าใจมาพอสมควรแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะมาดูความสัมพันธ์ของรอยสักกับอายุที่เพิ่มขึ้นคุณของมนุษย์กันต่อ
โดยปัจจัยที่ค่อนข้างมีผลต่อรอยสัก และ อายุ ที่เพิ่มมากขึ้นของเราอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ รูปแบบ และ รายละเอียดของรอยสักนั่นเอง โดยลวดลายที่มีสไตล์สมจริงนั้นจะมีรายละเอียดต่าง ๆ อัดแน่นอยู่ในรอยสักนั้นค่อย ๆ ค่อนข้างมาก
และเมื่อรายละเอียดมากมันก็เท่ากับว่าในนั้นจะมีเม็ดสีอยู่มากกว่า แต่ในทางกลับกันรอยสักที่มีความเรียบง่ายกว่ามันก็จะมีรายละเอียดที่น้อยกว่าและเม็ดสีที่ค่อนข้างน้อย ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้เองก็ขึ้นอยู่กับทักษะของศิลปินช่างสักด้วยส่วนหนึ่ง เนื่องจากพวกเขานั้นสามารถเลือกเฉดสีที่อ่อนกว่า หรือ ใช้สีดำในการสักเพื่อเป็นการลดการใช้หมึกให้น้อยลงในการสร้างรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งการใช้หมึกที่อ่อนลงนี้เอง มันก็มีโอกาสสูงที่จะทำให้หมึกเหล่านั้นค่อย ๆ จางหายไปจากร่างกายของเราตามกาลเวลา และ อายุที่เพิ่มมากขึ้น
แต่ก็ใช่ว่ารอยสักที่มีรายละเอียดน้อยกว่า หรือ มีสไตล์ที่ง่ายกว่าจะจางหายเร็วกว่ารอยสักที่มีรายละเอียดที่ซับซ้อน เนื่องจากลวดลายบนร่างกายของเราที่ค่อนข้างเรียบส่วนใหญ่แล้วจะมีการใช้เส้นตัดที่เด่นชัดและการตัดเส้นที่เด่นชัดนี้เองที่มันนำพามาสู่การลงสีหมึกไปตามเส้นที่มากขึ้น จึงทำให้ระยะเวลาของมันที่อยู่บนผิวหนังมากขึ้น แต่ในทางกลับกันดีเทลสีต่าง ๆ ที่อยู่ในนั้นมันจะจางลงเร็วกว่าเส้นขอบ
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้รอยสักจางลงตามอายุของเรานั่นก็คือ ขนาดของรอยสัก
แน่นอนแหละว่ารอยสักที่ใหญ่กว่าย่อมเป็นอะไรที่อยู่นานกว่ารอยสักที่เล็กกว่าอยู่แล้ว แต่เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องเราต้องให้ความรู้กับคุณมากกว่านั้นเสียก่อน
โดยผิวหนังของมนุษย์เรานั้นจะประกอบไปด้วยชั้นเซลล์ และเมื่อคุณทำการสัก เม็ดสีจากเข็มที่ผ่านกระบวนการขั้นตอนการสักนั้นก็จะถูกฝังลงไปในเซลล์ของร่างกาย และมันก็จะฝังตัวอยู่อย่างนั้นไปอีกนานเท่านาน แต่ทว่าเมื่อคุณมีอายุมากขึ้น แน่นอนว่าเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายของคุณเองก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามอายุของคุณ ซึ่งความหย่อนคล้อยของผิวนั้นก็จะเป็นส่วนหนึ่ง เนื่องจากในสมัยที่คุณอายุไม่มากเซลล์นั้นเซลล์บริเวณนั้นจะมีขนาดพอดีกับเม็ดสี แต่ทว่าพอมีความหย่อนคล้อยเข้ามาเกี่ยว พื้นที่ของเซลล์บริเวณนั้นก็จะเกิดพื้นที่ว่าง และ นั่นเองจึงทำให้เซลล์จำนวนหนึ่งที่เข้ามาแทนที่ และทำให้มันจางลง
แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปเมื่อคุณมีรอยสักขนาดใหญ่นั่นก็เพราะว่าเมื่อพื้นที่ในการสักของคุณมีขนาดใหญ่ เม็ดสีจำนวนมากก็จะอัดแน่นอยู่เต็มพื้นที่ของเซลล์ต่าง ๆ บนผิวหนัง มันจึงทำให้ต่อให้มีส่วนที่หย่อนคล้อย เซลล์ต่าง ๆ ก็ไม่สามารถที่จะแทรกแซงพื้นที่ของเม็ดสีขนาดใหญ่เหล่านั้นได้ แต่เมื่อเป็นรอยสักขนาดเล็กที่จำนวนเม็ดสีไม่ได้อัดแน่นเป็นกลุ่มก้อนมันจึงทำให้เมื่อมีการหย่อนคล้อยของผิวหนัง เซลล์ที่เข้ามาทดแทนก็สามารถที่จะแทรกเข้าไปได้นั่นเอง
อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลให้รอยสักจากลงตามอายุของเรานั่นก็คือ คุณภาพหมึก โดยหมึกแต่ละแบบ แต่ละยี่ห้อ นั้นถือเป็นสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นจากผู้ผลิตแต่ละเจ้า และนั่นเองจึงทำให้หมึกแต่ละชนิดนั้นมีคุณภาพ สูง ต่ำ ไม่เท่ากัน โดยแม้ว่าในปัจจุบันนี้หมึกสักหลาย ๆ เจ้าจะมีคุณภาพที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานแล้วก็ตามที แต่ทว่าเราก็ยังต้องยอมรับกันตรงนี้ว่ามันยังมีหมึกสักอีกหลาย ๆ ผลิตภัณฑ์ที่ยังอยู่ในเกณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งการไม่ได้มาตรฐานนี้เองนี่แหละที่ทำให้มันเป็นเส้นทางไปสู่การซีดจางเร็วกว่าที่มันควรจะเป็น ส่วนถามว่าทำไมมันถึงซีดจางเร็วกว่า เราก็จะขอนำหัวข้อเมื่อสักครู่มาอธิบาย โดยรอยสักนั้นคือการเอาหมึกเข้าไปแทนที่เซลล์ในร่างกาย ดังนั้นถ้าหมึกเหล่านั้นมันไม่เข้มข้นพอ มันก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่า ที่เพียงไม่นานเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกายก็พร้อมที่จะไปแทนที่ ดังนั้นก่อนที่คุณจะสักเราขอแนะนำให้คุณตรวจสอบเรื่องหมึกสักให้ดีกับศิลปินช่างสักของคุณว่าใช้หมึกยี่ห้ออะไร อีกทั้งมันยังเป็นผลดีด้วยถ้าหากคุณรู้ เพราะเวลาที่คุณไปเติมลวดลายบนร่างกายของคุณ คุณจะได้บอกช่างสักถูกว่า คุณใช้หมึกสักของอะไรเพื่อให้ได้สีที่ไม่โดดกัน
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนน่าจะเริ่มกังวลใจแล้วว่า แล้วแบบนี้รอยสักที่เราอุตส่าห์สัก
มาเมื่อมาถึงตอนที่เราอายุมากขึ้นมันจะมีวิธีอย่างไรบ้างที่ทำให้รอยสักของเรานั้นยังคงดูดี และ สวยงามไม่แพ้ตอนหนุ่ม ๆ ซึ่งวิธีดูแลให้รอยสักของเราดูดีแม้ว่าจะมีอายุมากขึ้นจริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก หรือ เรื่องซับซ้อนอะไรเท่าไหร่นัก เพราะว่าวิธีที่ทำให้รอยสักของเราดูเปล่งปลั่งมากที่สุดนั่นก็คือ การดูแลรอยสักของคุณให้ดีเหมือนกับวันแรกที่คุณสักมากนั่นเอง
ซึ่งถ้าคุณทำตามวิธีที่เราแนะนำไป สิ่งที่คุณได้รับกลับมานั่นมันเปรียบเสมือนกับการป้องกันเบื้องต้นไปแล้ว เพราะว่าคุณจะได้รับหมึกที่มีมาตรฐานในการสักตั้งแต่แรก และ คุณเองก็จะได้รู้ว่าคุณควรจะสักรูปแบบใดเพื่อที่จะคงสภาพรอยสักของคุณเอาไว้ และหลังจากนั้นสิ่งที่ต้องทำต่อมานั่นก็คือ คุณต้องคอยดูแลพวกมันคุณตามที่ช่างสักแนะนำเพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบจนส่งผลร้ายต่อร่างกาย หรือ ให้รอยสักซีดจางลง
และหลังจากที่คุณสามารถดูแลผ่านช่วงระยะเวลา 3 – 4 สัปดาห์แรกไปได้แล้ว สิ่งที่เป็นปัจจัยทำให้รอยสักของคุณซีดจางลง ที่เรามักย้ำอยู่เสมอ ๆ นั่นก็คือ แสงแดด ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากให้มันจางลงเร็วก่อนที่อายุคุณจะเยอะขึ้น เราขอให้คุณหลีกเลี่ยงการเอาลวดลายบนร่างกายเหล่านั้นของคุณปะทะกับแดดโดยตรง แต่ถ้าหากหลีกเลี่ยงสิ่งดังกล่าวไม่ได้จริง การใช้ครีมกันแดดนั้นก็ถือได้ว่าเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดีเช่นกัน ซึ่งถ้าคุณสามารถทำได้ทั้งหมดตามที่เราบอกไว้ในบทความนี้แล้วละก็ รับรองว่าคุณจะไม่มีคำว่าสงสัยอีกเลยว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้รอยสักของเราซีดจางลงตามวัย