สารบัญ ลายสัก รอยสัก

รอยสักที่เป็นเหมือนตัวบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของ ทราย เจริญปุระ

DEAR MY OWN GOD : รอยสัก ความเศร้า และพระเจ้าส่วนตัวของ ทราย เจริญปุระ – a  day magazine

เรื่องราวของรอยสักในสมัยก่อนนั้น มันได้ถูกใช้เพื่อเป็นการตีตราของคนไม่ดีในสังคม แต่เมื่อกาลเวลาได้มีการเปลี่ยนผ่านไป การแสดงออกของรอยสักได้ค่อยเปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ จนถูกยกระดับให้กลายเป็นหนึ่งในแฟชั่นของโลกในยุคใหม่ แต่ทว่าหลาย ๆ คนเองก็ไม่ได้มองเพียงแค่ว่ารอยสักนั้นคือแฟชั่น แต่พวกเขายังมองว่ารอยสักบางอันมันก็เปรียบเสมือนกับการจดบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ลงบนร่างกาย และหนึ่งในดาราไทยคนหนึ่งที่คิดแบบนั้นก็คือ ราชินีแห่งหนังสยองขวัญที่มีชื่อว่า ทราย เจริญปุระ

ซึ่งทุก ๆ รอยสักที่อยู่บนร่างกายของเธอนอกจากจะมีความหมายแฝงอยู่ข้างในนั้นแล้วมันยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เกี่ยวข้องของชีวิตเธอ จึงทำให้ในวันนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปพบกับเรื่องราวของ รอยสักที่เป็นเหมือนตัวบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของ ทราย เจริญปุระ ซึ่งมันแต่ละรอยสักจะบอกเล่าถึงเรื่องราวอะไรบ้างเอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า

รอยสักกับน้องชาย

มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ชีวิตของทรายนั้นต้องเจอกับอาการป่วยของแม่ และการป่วยของแม่นี่เองที่ส่งผลให้ตัวของทรายจะต้องทำหน้าที่เป็นหัวหน้าครอบครัว และนั่นเองจึงทำให้เธอตัดสินใจนัดกับน้องชายไปสักเป็นข้อความในไบเบิ้ลเป็นคำว่า We refuse to sink โดยถ้าแปลเป็นภาษาไทยก็จะแปลว่า เราปฏิเสธที่จะจม 

ซึ่งน้องชายของเธอได้สักรอยสักนี้เป็นรูปสมอเอาไว้บริเวณแขนใกล้ ๆ กับรอยสักรังผึ้งที่สามารถตีความหมายถึงครอบครัว

ส่วนสำหรับตัวของ ทราย เจริญปุระ เองได้เลือกที่จะสักเป็นรูปสมอเช่นกันโดยเธอเลือกสักไว้บริเวณข้อเท้าของเธอ ซึ่งรอยสักนี้มันเสมือนเป็นสิ่งเตือนใจให้เธอคิดว่า ตัวของเธอจะต้องไม่จม  และจะต้องเป็นเสาหลักของบ้านให้ได้

รอยสัก schadenfreude

รอยสัก schadenfreude

อีกหนึ่งรอยสักซึ่งทรายรู้สึกว่ามันมีความหมายต่อตัวเธอมาก ๆ นั่นก็คือ รอยสักที่เขียนว่า schadenfreude โดยรอยสักนี้เป็นหนึ่งในรอยสักที่ตัวของ ทราย เจริญปุระ เพิ่งสักได้ไม่นานนัก ซึ่งถ้าหากจะแปลความหมายของคำคำนี้แบบสั้น ๆมันจะถูกแปลออกมาว่า ความยินดีในความทุกข์ของผู้อื่น แต่ทว่าจริง ๆ แล้วมันยังมีความหมายที่แอบซ่อนอยู่ในนั้นมากกว่าที่เราเห็นเพราะว่า มันเหมือนกับการเป็นบอกว่า การที่เราได้เห็นคนอื่นมีความทุกข์แล้วเรารู้สึกมีความสุขนั้น มันได้เปรียบเสมือนกับที่สิ่งที่ย้ำเราเอาไว้ว่า โลกนี้มันเลวร้ายมากแค่ไหน ดังนั้นการเห็นคนอื่นทุกข์มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเราเองก็มีความทุกข์เหมือนกัน ดังนั้นการที่เป็นคนมองโลกในแง่ร้ายนั้นก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะโลกมันก็เป็นอย่างนี้นี่แหละ

รอยสักภาษาเยอรมัน

โดยเจ้ารอยสักนี้เป็นรอยสักที่อยู่บริเวณหน้าขา ซึ่งมันมาจากนิยายนักสืบ ซึ่งเป็นนิยายชุดไมรอน โบลิทาร์ ซึ่งตัวเอกเป็นคนยิว และ พ่อ กับ แม่ของตัวเอกมักจะพูดภาษายิดดิชว่า มนุษย์วางแผน, พระเจ้าหัวเราะ อยู่เสมอ และเพราะประโยคที่โดนใจนี้เอง จึงทำให้ตัวของ ทราย ตัดสินใจไปขอให้น้องที่อิสราเอลเขียนคำคำนี้ออกมาให้ 

แต่ถึงแม้ว่าตัวน้องของเธอจะอยู่อิสราเอลก็ตาม แต่ทว่าภาษานี้กลับเป็นภาษาที่ไม่ค่อยมีใครพูดแล้ว เพราะว่ามันเป็นภาษาที่ใช้ในสมัยสงครามโลก และนั่นเองจึงทำให้น้องของเธอต้องไปถามพ่อตา และ แม่ยายถึงภาษานี้มาให้เพื่อดูว่ามันออกเสียงว่าอะไร และ มันต้องอ่านจากด้านไหนไปด้านไหน 

รอยสักที่เกี่ยวกับพระเจ้าส่วนตัว

นอกภาษาที่ค่อนข้างเข้าใจยากในหัวข้อที่แล้ว จริง ๆ แล้วตัวของทรายยังมีรอยสักที่เป็นภาษาซึ่งเข้าใจยากมากมายอยู่เต็มร่างกาย ซึ่งตัวของทราย เจริญปุระ นั้นได้บอกว่าตัวของเธอนั้นชอบรอยสักที่เป็นคำ เพราะว่ามันเหมือนกับเวลาเราอ่านหนังสือและได้ไฮไลท์คำคำนั้นเอาไว้ แถมเธอยังชอบสักเป็นคำแปลก ๆ เพราะมันรู้สึกว่าส่วนตัวกว่า เพราะเธอไม่ได้ต้องการที่สื่อสารกับใคร แต่เธออยากจะสื่อสารกับพระเจ้าส่วนตัวของเธอเอง

โดยทุก ๆ คำที่เธอสักลงไปบนร่างกายนั้นเธอนั้นล้วนมีความหมายว่าเธอสักไปเพื่ออะไร โดยรอยสักทั้งหมดของเธอนั้นไม่ได้สักเพื่อความงาม แต่เธอเลือกสักเพื่อทำให้ตัวของเธอยังรู้สึกโอเคกับการอยู่ในโลก แถมในวันไหนที่ตัวของเธอไปทำงานและมีเหตุต้องให้ลบรอยสัก เวลาที่เธอล้างมันออกและค่อย ๆ ได้เห็นมันกลับคืนมามันทำให้เธอรู้สึกอยู่เสมอ ๆ ว่า ในที่สุดเธอก็ได้กลับมาเป็นตัวเอง

ทำไมถึงไม่รักรอยสักที่แสดงถึงความสุข3วันดี4วันเศร้า เรื่องจริงของโรคซึมเศร้า ผ่านคำบอกเล่า ทราย เจริญปุระ

และตั้งแต่ที่คุณอ่านเรื่องราวของรอยสักบนร่างกายของเธอมาตั้งแต่ต้นนั้น เราจะเห็นได้เลยว่าทุก ๆ รอยสักของเธอนั้นมันมีต้นกำเนิดมาจากความเศร้าในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งตัวของทรายเองก็ยึดมั่นว่าเธอไม่ต้องการคิดที่จะสักรอยสักที่มีความสุขเอาไว้บนร่างกายเนื่องจาก ในช่วงเวลาที่เรามีความสุขนั้น คนเรามักจะเอาช่วงเวลานั้นไปทำอย่างอื่นมากกว่า ซึ่งเรื่องบางเรื่องมันอาจจะสำคัญเกินกว่าที่จำไว้เฉย ๆ เพราะว่าบางทีความทรงจำก็เล่นตลกกับตัวเรา

และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ รอยสักที่เป็นเหมือนตัวบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของ ทราย เจริญปุระ ที่เราได้นำมาเสนอให้กับทุก ๆ คนได้รับทราบกัน ซึ่งอย่างที่เราได้เห็นกันแล้วว่าบางทีรอยสักก็ไม่จำเป็นต้องมีความสวยงาม หรือ ความซับซ้อนอะไรมากนัก ขอเพียงแค่มันมีความหมาย และ เป็นตัวบันทึกเรื่องราวของตัวผู้สักก็พอ

ลายสัก HOT

บทความลายสักล่าสุด

หมวดหมู่ลายสัก

สารบัญ ลายสัก รอยสัก