สารบัญ ลายสัก รอยสัก

รอยสักที่มีความหมายในตัวของราชินีแห่งหนังสยองขวัญ ทราย เจริญปุระ


ในหลาย ๆ บทความในเว็บไซต์ของเราได้เคยบอกไปแล้วว่าเรื่องราวของรอยสักนั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พัฒนาและมีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก เพราะว่ามันได้เปลี่ยนจากตีตราของเหล่าอาชญากรในสังคมกลายเป็น กระแสแฟชั่น ซึ่งหลังจากที่เรื่องราวของรอยสักได้เข้ามาสู่โลกของแฟชั่นอย่างเต็มตัวแล้ว อิทธิพลนี้ก็ได้แพร่หลายไปยังวงการต่าง ๆ มากมาย และนั่นก็รวมถึงวงการบันเทิงของประเทศไทยอีกด้วย 

และหนึ่งในนักแสดงไทยที่เธอคนนี้ได้ใช้รอยสักเป็นเสมือนกับตัวบันทึกเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนตัวของเธอนั่นก็คือนักแสดงผู้มากฝีมืออย่าง ทราย เจริญปุระ นั่นเอง จึงทำให้ในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ ไปพบกับเรื่องราวของ รอยสักที่มีความหมายในตัวของราชินีแห่งหนังสยองขวัญ ทราย เจริญปุระ กัน ซึ่งเรื่องราวของรอยสักที่มีความหมายต่อตัวเธอจะมีอะไรบ้าง และ แต่ละรอยสักนั้นจะมีอิทธิพลมาจากอะไรบ้าง เอาเป็นว่าเราไปเริ่มต้นเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า

รอยสัก schadenfreude
DEAR MY OWN GOD รอยสัก ความเศร้า และพระเจ้าส่วนตัวของ ทราย เจริญปุระ

โดยรอยสักนี้หากแปลแบบตรง ๆ มันจะมีควาหมายถึงความยินดีในความทุกข์ที่เกิดขึ้น ซึ่งรอยสักนี้มันเป็นสิ่งที่สามารถยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าตัวของ ทราย เจริญปุระ นั้นมักจะใช้รอยสักเพื่อก้าวข้ามเรื่องร้ายต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิต นอกจากนั้นรอยสักบนตัวของเธอยังมีรอยสักที่แสดงให้เห็นถึงตลกร้ายของชีวิต อย่างรอยสักภาษายิดดิช ซึ่งมีความหมายว่า มนุษย์วางแผน และ พระเจ้าหัวเราะ แถมตัวของทรายยังเลือกที่จะสักไว้บริเวณบาดแผลซึ่งเกิดจากการผ่าตัดกระดูกคอ ซึ่งเป็นผลคือเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่ค่อนข้างส่งผลต่อร่างกาย และ จิตใจของเธอเป็นอย่างมาก

รอยสัก 5 แถวของทราย เจริญปุระ

นอกจากรอยสักที่เล่าถึงเรื่องราวที่ผ่านมาในชีวิตของทราย เจริญปุระแล้ว เธอคนนี้ยังมีเรื่องราวของรอยสักแบบอื่นอีก โดยรอยสักนั้นก็คือ รอยสัก 5 แถว โดยตัวของทรายได้พูดถึงเรื่องราวของรอยสักนี้ว่า ตัวของคุณตาเธอนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของการสักยันต์ห้าแถว เนื่องจากคุณตาของเธอนั้นมีสารพัดของขลังต่าง ๆ มากมาย และนั่นเองก็ทำให้ตัวของทรายรู้สึกเคยชินกับพวกลวดลายเหล่านี้ และพอถึงช่วงที่อาจารย์หนูกำลัง เธอก็ได้ตัดสินใจที่จะไปสักบ้าง

โดยปกตินั้นยันต์ห้าแถวของอาจารย์หนูนั้นจะมีขนาดตัวอักษรใหญ่มาประมาณ 14 มันจึงทำให้ทรายขอลดขนาดลงเหลือไซซ์เพียงแค่ 10 เท่านั้น โดยเหตุผลนั่นก็เพราะว่าในตอนนั้นเธอติดถ่ายภาพยนตร์เรื่อง ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อยู่ซึ่งถ้ารอยสักมันใหญ่เกินไปมันจะเป็นปัญหาต่อการถ่ายทำ ซึ่งตัวของอาจารย์หนูก็ไม่ได้ติดอะไร แถมยังสักให้เธอแบบสด ๆ ตอนนั้นเลยด้วย

แต่เอาจริง ๆ ถึงแม้ว่าเธอจะสักให้มีขนาดเล็กลงแล้วก็ตาม การที่มีรอยสักที่พ้นร่มผ้าออกมานิดหน่อยก็ทำให้เกิดปัญหาต่อกองถ่ายแล้ว ซึ่งวิธีแก้ไขในตอนนั้นก็คือการให้ช่างแต่งหน้ามาใช้เครื่องสำอางช่วยปกปิดรอยสักนั้นของเธอนั่นเอง แต่ทว่าด้วยความที่หนังที่เธอถ่ายนั้นเป็นหนังเกี่ยวกับสงครามที่มีทั้งเลือด และ การออกแรง มันจึงทำให้เครื่องสำอางที่ปกปิดเอาไว้มักจะหลุดออกอยู่เสมอ และนั่นเองจึงทำให้ทราย เจริญปุระ ตัดสินใจมีรอยสักนั้นเพียงแค่รอยสักเดียว

รอยสักลายเซ็นต์ของพ่อ

ตอนพ่อของทรายได้เสียชีวิตในช่วงที่เธอกำลังถ่ายหนังอยู่ และนั่นเองมันก็กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอตัดสินใจที่จะสักเป็นลายเซ็นของพ่อเพื่อให้ความทรงจำต่าง ๆ เกี่ยวกับพ่ออยู่บนร่างกายของเธอไปตลอดกาล แต่ตอนแรกนั้นเธอไม่รู้ว่าจะสักที่บริเวณไหนดี 

และหลังจากที่ตัวของเธอตัดสินใจจะสักอย่างแน่วแน่โจทย์ต่อมาของเธอนั่นก็คือ เธออยากที่สักกับช่างผู้หญิงเนื่องจากในตอนนั้นตัวของเธอยังป่วยอยู่ ทำให้ตัวเธอไม่สามารถที่จะไปนั่งสักในร้านคนเยอะ ๆ ได้ จนกระทั่งเธอก็ได้มาเจอกับช่างสักสาวที่ชื่อว่า โบ โดยเธอคนนี้เป็นช่างสักหญิงที่รับสักที่คอนโด และนั่นเองก็ทำให้เธอได้รอยสัก รุจน์ รณภพ ซึ่งเป็นชื่อพ่อของเธอมาไว้บริเวณข้อพับแขนขวา

และรอยสักนี้นี่เองที่ทำให้ตัวของทรายได้เข้าใจถึงการเจ็บปวดที่มีความหมาย ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันได้มาค้นพบในช่วงที่เธอมีสภาพจิตใจแย่มาก ๆ แถมรอยสักนี้ยังกลายเป็นรอยสักที่ทำให้เธอกล้าเปิดใจสักรอยสักอื่น ๆ ต่อมาบนร่างกายของเธอ รวมถึงยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอหันมาดูแลตัวเอง

รอยสักที่แสดงให้เห็นถึงความเจ็บปวดที่ผ่านเข้ามา

แต่ทว่ารอยสักที่ตามมาหลังจากนั้นส่วนใหญ่แล้วมันล้วนแล้วแต่อยู่กับเรื่องราวที่ค่อนข้างออกไปทางเศร้า ยกตัวอย่างเช่น 

อุบัติเหตุรถชนกลางดึกจนทำให้เธอคอหัก และ ต้องผ่าตัด ซึ่งการผ่าตัดนั้นมันได้สร้างเป็นรอยแผลเป็นขนาดยาว และ นั่นแหละจึงทำให้เธอตัดสินใจหาช่างสักมาสักทับบริเวณรอยแผลนั้น โดยลายสักที่เธอเลือกนั้นก็คือ รอยสักภาษาฮิบรู ที่แปลเป็นภาษาอังกฤษว่า This, too, shall pass 

ซึ่งการสักที่เป็นรอยยาวขนาดนั้นนี้เองที่ทำให้หลาย ๆ คนได้ทักท้วงเธอว่า การที่เป็นดารานักแสดงนั้นไม่ควรที่จะสักให้เห็นได้ชัดเจน แถมเธอยังเป็นดาราผู้หญิงแล้วด้วย มันจึงยิ่งไม่ควรอย่างยิ่งเลย แต่ทว่าตัวของทรายเองก็มองว่า แล้วสักจุดไหนละที่มองเห็นไม่ชัด เพราะว่ารอยผ่าที่คอของเธอนี้มันก็เป็นอะไรที่เห็นเด่นชัดอยู่แล้ว และนั่นเองก็ทำให้เธอตัดสินใจสัก

แต่ทว่าเรื่องราว รอยสักที่มีความหมายในตัวของราชินีแห่งหนังสยองขวัญ ทราย เจริญปุระ ยังไม่ได้หมดเพียงเท่านี้ เพราะว่าในร่างกายของเธอยังมีรอยสักอีกหลาย ๆ จุดเลยที่บ่งบอกถึงเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมาของเธอ ซึ่งจะมีอะไรอีกบ้างนั้น เอาไว้เดี๋ยวเราค่อยมาติดตามกันต่อในครั้งหน้าครับ

ลายสัก HOT

บทความลายสักล่าสุด

หมวดหมู่ลายสัก

สารบัญ ลายสัก รอยสัก