หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ศิลปะอย่างรอยสักนั้นแตกต่างกับศิลปะชนิดอื่น ๆ นั้นก็คือ ศิลปะในแขนงนี้ใช้ร่างกาย และ ผิวหนังส่วนต่าง ๆ ของมนุษย์แทนผืนผ้าใบในการรังสรรค์จินตนาการต่าง ๆ และเมื่อลวดลายเหล่านั้นอยู่บนร่างกายของมนุษย์แล้วความพิเศษของมันก็คือลวดลายเหล่านั้นไม่อาจจที่จะลบเลือนออกไปได้ง่าย ๆ แม้ว่าการเวลานั้นจะผ่านไปนานแสนนานขนาดไหนก็ตามที
แต่ทว่าเรื่องราวความคิดเหล่านั้นก็ต้องหมดไป เนื่องจากในปัจจุบันนี้เรื่องราวของรอยสักนั้นมันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถคงทนถาวรอยู่กับร่างกายของเราได้นานเท่านานอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นไปเป็นอย่างมากนี้เองที่ทำให้มนุษย์เราเองก็ได้คิดค้นเทคโนโลยีที่สามารถจะช่วยในการลบเลือนรอยสักดังกล่าวออกไปได้ เพราะว่ามันยังมีคนอีกจำนวนมากที่รู้สึกอยากจะลบเลือนรอยสักที่เคยติดตัวพวกเขา
ซึ่งในปัจจุบันนั้นวิธีการนำเอารอยสักออกไปจากร่างกายก็นั้นก็สามารถที่จะทำได้เนียนมากขึ้น รวมถึงมันยังทำได้หลากหลายวิธี ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะขอพาทุก ๆ คนไปทำความรู้จักกับ ขั้นตอนของการลบรอยสักออกในวันที่เราไม่ต้องการมันแล้ว กัน ซึ่งขั้นตอนแต่ละอย่างนั้นมันจะยุ่งยากจนทำให้คุณต้องคิดใหม่หรือไม่ เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
การลบรอยสักคืออะไร
การลบรอยสักหมายถึงการนำเอาเม็ดสีต่าง ๆ ที่เกิดจากการสักไม่ว่าจะเป็นจากเข็ม หรือว่า เครื่องสักชนิดต่าง ๆ ออกจากผิวหนังให้ได้มากที่สุด โดยจุดประสงค์คือการทำให้ผิวหนังบริเวณที่แต่เดิมมีรอยสักนั้นดูเหมือนผิวหนังแบบปกติ แต่ก็ใช่ว่าการลบรอยสักของแต่ละคนนั้นจะให้ผลเหมือนกัน เนื่องจากมันมีปัจจัยหลาย ๆ อย่างที่ทำให้การลบรอยสักได้ผลดีหรือลบแตกต่างกันไป โดยปัจจัยแรกที่ค่อนข้างมีผลเป็นอย่างมากนั่นก็คือ สีของรอยสักนั่นเอง
ปัจจัยความยากง่ายในการลบรอยสัก
โดยผลวิจัยต่าง ๆ รวมถึงร้านที่มีบริการลบรอยสักนั้นได้กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า สีที่สามารถลบได้ง่ายนั้นส่วนใหญ่จะเป็นสีที่มีความเข้มสูงเช่น สีดำ น้ำตาล น้ำเงินเข้ม และ เขียว ส่วนสีที่ลบออกค่อนข้างยากนั้นส่วนใหญ่จะเป็น สีแดง สีเหลือง และ ส้ม แถมในปัจจุบันหลาย ๆ คนก็เริ่มพัฒนารอยสักด้วยสีแปลก ๆ กันมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการใช้สีเนื้อ หรือ สีขาว ในการสัก ซึ่งสีเหล่านี้นี่เองที่ทำให้การลบรอยสักนั้นยากขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว นอกจากนั้นแล้วยิ่งรอยสักของคุณมีสีสันมากเท่าไหร่ การลบรอยสักก็จะยากมากขึ้นเท่านั้น
นอกจากเรื่องของสีของรอยสักที่ส่งผลต่อการลบแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยที่มีส่วนเข้ามาเกี่ยวข้องในการลบรอยสักนั่นก็คือสีผิวของตัวผู้สักเอง โดยสีผิวที่มีลักษณะเข้มจะลบได้ยากกว่า นอกจากนั้นแล้วขนาด ตำแหน่ง ระยะเวลา และ ระดับความลึกของการสักเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้การลบรอยสักยากง่ายแตกต่างกันไปอีกด้วย
โดยมีหลาย ๆ ครั้งที่ผู้สักได้ตัดสินใจไปสักกับเพื่อนที่เป็นช่างสักสมัครเล่น มันจึงทำให้การลงน้ำหนักของเข็มที่ส่งน้ำหมึกเข้าสู่ร่างกายนั้นไม่เท่ากัน และการที่น้ำหมึกเหล่านั้นไปอยู่บนผิวหนังในความลึก และ ปริมาณไม่เท่ากันนี้เอง ที่มันจะยิ่งส่งผลให้การลบรอยสักนั้นมีความยากมากขึ้นกว่าที่คุณไปสักกับช่างสักมืออาชีพ เนื่องจากบรรดาเหล่าช่างสักมืออาชีพนั้นจะมีการลงเข็มที่สม่ำเสมอกัน
การลบรอยสักโดยใช้เลเซอร์
ส่วนวิธีการลบรอยสักที่ค่อนข้างได้รับความนิยมเอามาก ๆ ในปัจจุบันนั้นก็คือวิธีการใช้เลเซอร์ เพราะว่ามันค่อนข้างมีประสิทธิภาพที่ดี และยังทำให้เกิดแผลเป็นค่อนข้างน้อย รวมถึงยังมีความปลอดภัยสูงอีกด้วย แต่หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเลเซอร์ที่นำมาใช้ในการลบรอยสักนั้น มันไม่ใช่เลเซอร์อะไรก็ได้ เพราะว่าจริง ๆ แล้วเลเซอร์ที่ถูกนำมาใช้จะมีหลากหลายประเภท แต่ที่นิยมใช้กันส่วนใหญ่จะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ นั่นก็คือ เลเซอร์ทับทิม Nd- YAG Laser และ Picoway Laser
การสักทับเพื่อลบรอยสักเดิม
นอกจากการใช้เลเซอร์แล้ววิธีลบรอยสักแบบอื่น ๆ ก็ยังมีอีกเช่นกัน โดยหนึ่งในวิธีลบรอยสักที่ค่อนข้างได้รับความนิยมนั่นก็คือ การสักทับ หรือภาษาอังกฤษก็คือ Tatoo camouflage ซึ่งวิธีการนี้จะเป็นการสักลวดลายอื่นทับลงไปในลายเดิมที่เราไม่ต้องการ โดยอาจจะใช้สีที่มีความเข้มขึ้น และทำให้รอยสักใหม่นั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อที่จะปกปิดรอยสักเดิม แต่วิธีนี้จะเป็นเพียงแค่การทำให้รอยสักเดิมเปลี่ยนไปเท่านั้น เพราะมันจะไม่ทำให้ผิวของคุณกลับมาสะอาดสะอ้านเหมือนดังเดิมได้
การศัลยกรรมด้วยการขัดผิวหนัง
อีกหนึ่งวิธีในการลบรอยสักนั่นก็คือ การศัลยกรรมด้วยการขัดผิวหนัง โดยวิธีการนี้อาจจะจำเป็นต้องใช้สารเคมี ร่วมกับยาชา เพื่อทำเนื้อบริเวณนั้นเกิดอาการชาเสียก่อน และ จากนั้นถึงจะเริ่มใช้อุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับแปรงที่หมุนด้วยความเร็วขัดไปที่บริเวณรอยสักเพื่อที่จะนำเม็ดสีออกไปจากชั้นผิวหนัง แต่วิธีนี้จะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักเนื่องจากมันค่อนข้างที่จะเจ็บปวด และทำให้คุณแสบหลังจากที่การขัดเสร็จสิ้น แม้เวลาจะผ่านไปหลายวันแล้วก็ตาม
การศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสัก
วิธีต่อมาในการลบรอยสักนั่นก็คือ การศัลยกรรมผ่าตัดลบรอยสัก นั่นเอง โดยวิธีนี้จะเป็นการผ่าตัดเพื่อลอกผิวหนังส่วนที่เป็นรอยสักออกไปแล้วเย็บปิด ซึ่งกรณีถ้าเป็นรอยสักขนาดเล็กตัวของแพทย์ก็สามารถที่จะเย็บปิดแผลได้เลย และมันอาจจะเกิดแผลเป็นเล็กน้อย แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รอยสักขนาดใหญ่ แพทย์อาจจำเป็นต้องผ่าตัดผิวหนังส่วนอื่นมาปิดแทน ซึ่งการทำแบบนั้นมันย่อมทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดแผลเป็นมากขึ้น และ มีความยุ่งยาก ดังนั้นวิธีนี้ในปัจจุบันจึงไม่ได้ความนิยมแล้ว เนื่องจากตำแหน่งที่ทำได้ค่อนข้างจำกัด แถมยังมีค่าใช้จ่ายสูง รวมถึงยังทำให้เกิดแผลเป็นอีกด้วย
ความเชื่อเกี่ยวกับการลบรอยสัก
อ่านมาถึงตรงนี้หลาย ๆ คนน่าจะเลิกสงสัยแล้วว่าเพราะอะไรวิธีการใช้เลเซอร์ในการลบรอยสัก ถึงได้รับความนิยมมากที่สุด แต่อีกหนึ่งคำถามที่หลาย ๆ คนน่าจะอยากรู้นั่นก็คือ แล้วแบบนี้ตัวเราสามารถที่จะลบรอยสักด้วยตัวเองได้ไหม ซึ่งจริง ๆ แล้วความเชื่อเรื่องนี้มีอยู่ค่อนข้างมาก โดยบางคนก็บอกว่า การใช้ เกลือ น้ำส้มสายชู ปูนแดง ด่างทับทิม และยางไม้บางชนิด มาขัดถู หรือ ทาบริเวณรอยสักนั้น สามารถช่วยได้ แต่เราขอบอกว่าความเชื่อนั้นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะว่านอกจากจะไม่ทำให้รอยสักนั้นจางลง ผิวหนังบริเวณนั้นของคุณอาจเกิดอาการอักเสบ และ ติดเชื้อตามมาได้เลยอีกด้วย
ส่วนอีกหนึ่งความเชื่ออย่างการใช้ความร้อนเช่น การใช้เตารีด บุหรี่ หรือเหล็กร้อน ๆ มานาบนั้น วิธีนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความเชื่อที่ผิดเช่นกัน แถมวิธีนี้ยังค่อนข้างอันตรายเพราะอาจทำให้เกิดแผลพุพอง ส่วนอีกหนึ่งความเชื่อนั่นก็คือ ครีมลบรอยสัก โดยวิธีนี้ถือได้ว่าเป็นวิธีที่ดูเข้าท่ามากที่สุด แต่ว่าคุณเองก็ต้องเลือกผลิตภัณฑ์เหล่านี้อย่างถี่ถ้วน เพราะหากครีมลบรอยสักเหล่านี้ไม่ได้มาตรฐานแล้วละก็มันอาจจะนำมาสู่การแพ้ ระคายเคือง จนเกิดเป็นแผลไหม้ตามาได้
เห็นไหมล่ะว่าขั้นตอนของการลบรอยสักออกในวันที่เราไม่ต้องการมันแล้วมันค่อนข้างยุ่งยาก และบางคนก็อาจจะต้องกินเวลาไปลายเดือน หลายปี กว่าที่ลบรอยสักเหล่านั้นออกได้หมด และในทุก ๆ ครั้งที่ลบมันก็ย่อมตามมาด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ดังนั้นเราจึงขอเตือนคนที่คิดจะสักเอาไว้ตรงนี้เลยว่า คุณควรคิดให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจเลือกศิลปะแขนงนี้มาอยู่บร่างกายของคุณ