เรื่องความสวยความงาม เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครสำหรับบรรดาเหล่าหญิงสาว โดยสิ่งที่สามารถพิสูจน์เรื่องราวเหล่านี้ได้เป็นอย่างดีนั่นก็คือบรรดาเหล่าผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่าง ๆ ที่ทยอยออกมาอย่างมากมาย แต่ในบางครั้งเองผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมันก็สามารถอยู่กับบรรดาเหล่าสาว ๆ ได้เพียงชั่วคราว ซึ่งมันคงไม่ดีแน่สำหรับบรรดาเหล่าสาว ๆ ที่ต้องการความงามแบบคงทนถาวร และนั่นเองจึงทำให้เรื่องของการสักถูกผนวกเข้ากับความสวย ความงาม
และหนึ่งในการสักที่สาว ๆ มักนิยมทำเพื่อเสริมความงามให้กับตัวเองนั่นก็คือ การสักปาก ซึ่งเราเชื่อว่าหนุ่ม ๆ หลายคนเมื่อได้ยินคำนี้อาจจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดแล่นเข้ามาในสมองเลยใช่ไหมล่ะ ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจเรื่องราวนี้มากขึ้น วันนี้เราเลยจะขอพาทุก ๆ คนไป ทำความเข้าใจกับการสักปาก และ วิธีการดูแลหลังสัก กัน ซึ่งเรื่องราวมันจะเป็นอย่างไร เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
การสักปากคืออะไร
การสักปากนั้นจะเป็นการใช้เข็มที่บรรจุสีแทงลงไปบนริมฝีปากเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ภายนอก ซึ่งเทคนิคนี้มันก็เหมือนกับเทคนิคในการสักส่วนอื่น ๆ ของร่างกายตามที่เราเข้าใจกัน ซึ่งประโยชน์ของการสักปากนั้นก็คือการช่วยทำให้บรรดาเหล่าสาว ๆ นั้นไม่จำเป็นที่จะต้องทาลิปสติกบ่อย ๆ
สักปากทำไม
การสักปากนั้นสามารถที่จะช่วยให้คนที่มีริมฝีปากคล้ำ หรือ ซีด รวมถึงคนที่แพ้ลิปสติกได้กลับมามีสีปากที่สวยอมชมพูอีกครั้ง แต่อีกสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนลืมคิดนั่นก็คือ มันยังสามารถที่จะช่วยแก้ไขปัญหาให้กับคนที่มีริมฝีปากไม่เท่ากัน รวมถึงริมฝีปากบางได้อีกด้วย เพราะการสักปากนั้นนอกจากจะเป็นการเพิ่มเฉดสีที่เราต้องการแล้ว มันยังช่วยให้เรากำหนดโครงของริมฝีปากให้ชัดเจนได้มากขึ้นอีกด้วย
ขั้นตอนการสักปาก
สาวคนไหนที่คิดจะสักปากต้องทำความเข้าใจขั้นตอนนี้ให้ดี โดยการสักปากนั้นส่วนใหญ่จะใช้เวลาในการสักประมาณ 2-4 ชั่วโมง โดยมันจะเริ่มต้นจากขั้นตอนของการเลือกทรงปาก และ สีสันตามความต้องการของผู้ที่จะสัก หลังจากนั้นแพทย์ที่ทำการสักก็จะทำการร่างแผนการของการสักให้ดูคร่าว ๆ
ซึ่งสำหรับสาว ๆ คนไหนที่กลัวเจ็บคุณไม่ต้องกังวลใจเพราะว่าการสักชนิดนี้จะไม่ได้เหมือนกับการสักส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เพราะทางแพทย์จะทำการวางยาชา แต่ยาชาที่ให้จะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีมันถึงจะเริ่มส่งผล และเมื่อยาชาทำงาน
ทางแพทย์ก็จะเริ่มทำการสัก โดยระหว่างการสักอาจจะมีเลือดออกมาบ้าง ซึ่งคุณก็ไม่ต้องกังวลใจเพราะว่ามันเป็นเรื่องปกติ
และหลังจากเสร็จสิ้นการสักปาก ผู้ทำการสักจะทำการปิดปากคนผู้ที่ถูกสักด้วยผ้าพันแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
อาการที่ตามมาหลังจาการสัก
หลังจากที่สักปากเสร็จ ผู้สักอาจจะมีความรู้สึกตึง ๆ บริเวณริมฝีปาก และ อาจจะมีการบวมตามา ซึ่งอาการนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่มักจะเกิดขึ้นมาอยู่แล้ว โดยผู้ที่สักสามารถกินยาเพื่อลดอาการบวมลงได้ โดยผลลัพธ์ในช่วงแรกสีปากของคุณจะมีลักษณะคล้ายกับสีลิปสติกที่คุณเลือกเลยทีเดียว แต่หลังจากนั้นเมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณ 3 -5 วัน สีสีนั้นจะลอกออกและจะทำให้คุณได้เห็นสีปากที่แท้จริงของคุณ ซึ่งมันจะอ่อนกว่าสีปากในตอนแรกเพียงเล็กน้อย หรือบางคนกว่าสีริมฝีปากจะเข้าที่ก็กินเวลาไปเกือบ 1- 2 เดือนเลยทีเดียว ซึ่งที่เป็นแบบนี้นั่นก็เพราะว่าอัตราการติดของสีแต่ละคนจะแตกต่างกันไป โดยคนที่สักปากครั้งแรกจะมีโอกาสสีติดอยู่ประมาณ 30-50%
ข้อควรทำหลังจากสักปาก
หลังจากสักปากเสร็จ คุณห้ามแกะ หรือ เกาบริเวณริมฝีปากเด็ดขาด เพราะการทำแบบนี้มันอาจจะทำให้สีของริมฝีปากไม่สม่ำเสมอ รวมถึงอาจจะส่งผลให้เกิดอาการอักเสบได้
อย่างต่อมานั่นก็คือ คุณควรที่จะงดรับประทานอาหารรสจัด , อาหารหมักดอง รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงที่ปากคุณยังลอกออกไม่หมด ซึ่งในช่วงเวลานั้นคุณควรที่จะเลือกรับประทานอาหารที่ทานง่าย
นอกจากนั้นแล้วคุณควรที่จะงดการทาลิปสติกจนกว่าปากจะลอกหมดเพื่อป้องกันอาการแพ้และอักเสบรวมถึงควรที่จะทำความสะอาดปาก และ ช่องปากของคุณทุกครั้งหลังทานอาหารเสร็จด้วยวิธีที่ทำได้ง่ายที่สุดนั่นก็คือการบ้วนปาก และ ใช้น้ำเกลือเช็ดปากทุก ๆ ครั้งเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
ซึ่งในช่วงเวลาที่ริมฝีปากของคุณลอกนั้น ปากของคุณจะแห้งเป็นพิเศษดังนั้นคุณควรจะหาเจลบำรุงริมฝีปากมาทาบ่อย ๆ เพื่อให้ปากมีความชุ่มชื้น และ ต้องดื่มน้ำให้มาก ๆ
สีที่ใช้ในการสักปาก
จริง ๆ แล้วสีที่ใช้ในการสักปากนั้นมีค่อนข้างหลากหลาย แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะมีสีที่นิยมหลัก ๆ อยู่ โดยสีแรกที่บรรดาเหล่าสาวนิยมมากนั่นก็คือ สีส้มพีช ซึ่งสีนี้นอกจากมันจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องปากคล้ำและซีดได้ มันยังทำให้หน้าของคนที่สักดูสดใสขึ้นอีกด้วย
สีที่นิยมต่อมาก็คือสีแดง ซึ่งสีนี้ถือได้ว่าเป็นสีที่นิยมตลอดกาลไม่มีวันเสื่อมคลายเนื่องจากมันสามารถแก้ปัญหาปากซีดได้อย่างดี และยังทำให้ปากสวยแดงฉ่ำโดยไม่ต้องมาเสียเวลาทาลิปสติก
สีชมพูเองก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่ค่อนข้างดูธรรมชาติ และยังทำให้ใบหน้าของผู้สักมีความอ่อนเยาว์เหมือนกับเด็ก มันจึงเหมาะสำหรับที่อยากได้ปกอมชมพูและดูสุขภาพดีเป็นธรรมชาติ
อีกหนึ่งสีนั่นก็คือสีส้มแดง โดยเฉดสีนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาให้คนปากคล้ำมีริมฝีปากสดใส เพราะว่ามันจะให้อารมณ์ไม่แดงจัดจนเกินไป
และนี่ก็คือการพาทุก ๆ คนมา ทำความเข้าใจกับการสักปาก และ วิธีการดูแลหลังสัก ซึ่งแม้ว่าการสักนี้มันจะไม่ได้สร้างลวดลายออกมาในเชิงของศิลปะก็ตามที แต่ทว่ามันก็ถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งของวงการสักที่สามารถถูกผนวกเข้ากับเรื่องราวของการใช้ชีวิตเช่นกัน