อย่างที่ในหลาย ๆ บทความของเราได้เคยกล่าวถึงเอาไว้ว่า รอยสัก นั้นเป็นสิ่งที่ติดอยู่กับร่างกายของเราอย่างคงทนถาวรแม้ว่าเราจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม ดังนั้นเราจึงมักจะเตือนอยู่เสมอว่าก่อนที่คุณคิดจะสักลวดลายอะไรลงไปบนร่างกายนั้น คุณจะต้องคิดให้ดี แต่ถึงแม้ว่าเราจะเตือนไปขนาดไหนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่พลาดไปสักเนื่องจากในตอนนั้นอยู่ในวัยคึกคะนอง หรือ บางทีก็อาจจะเป็นเพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ซึ่งจากสถิติที่ได้สำรวจมาพบว่า มีชาวอเมริกันถึง 11% ที่รู้สึกไม่ชอบรอยสักของตัวเอง และ อยากจะลบรอยสักที่อยู่บนร่างกายตัวเองทิ้งไป แถมใน 11% นั้น ยังเป็นผู้หญิงถึง 70% เลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่สาเหตุที่พวกเธออยากลบรอยสักนั่นก็เพราะว่ามันเป็นชื่อของแฟนเก่าพวกเธอ และยังรวมไปถึงรอยสักที่ดูมีความหมายไม่ดีต่อตัวเธอนั่นเอง
ซึ่งในปัจจุบันวิธีการลบรอยสักที่หลาย ๆ คนน่าจะคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วนั่นก็คือ วิธีการลบด้วยเลเซอร์ ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างนิยม และ ได้เห็นผลทันตามากที่สุด แต่ถ้าถามว่ามันเป็นที่นิยมไปซะทุกคนหรือไม่ เราก็ตอบได้เลยว่าไม่ เพราะว่าแม้เลเซอร์จะสามารถลบรอยสักได้อย่างเห็นผล แต่ทว่ามันก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดที่มากกว่าตอนสัก รวมถึงยังมีค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูงเอาเรื่องอยู่ จึงทำให้หลาย ๆ คนที่มีทุนทรัพย์ไม่พอตัดสินใจที่ปล่อยให้รอยสักที่ตัวเองไม่ชอบอยู่บนร่างกายตามเดิมและหาสิ่งอื่น ๆ มาปิดทับมันแทน
แต่ทว่าหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วการลบรอยสักไม่ได้มีเพียงแค่การใช้เลเซอร์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แถมวิธีนี้มันยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เจ็บปวดน้อยกว่า แถมไม่เสียค่าใช้จ่ายสูงอีกด้วย วิธีนั้นก็คือสิ่งที่เรียกว่า ครีมลบรอยสัก
ซึ่งในปัจจุบันครีมลบรอยสักหลาย ๆ รูปแบบนี้ก็ถูกเอามาวางจำหน่ายกันพอสมควร
เพียงแต่ว่าคนไทยเราอาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกันเท่าไหร่ ดังนั้นวันนี่เราจะพาทุก ๆ ไปพบกับเรื่องของสิ่งที่เรียกว่า ครีมลบรอยสัก กัน
ก่อนอื่นนั้นเราต้องมาทำความเข้าใจกับเจ้าครีมลบรอยสักนี้กันเสียก่อน โดยครีมนี้ถือได้ว่าเป็นครีมที่ถูกคิดค้นมาได้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยจุดประสงค์ของมันนั่นก็คือการทำให้คนสามารถที่จะลบรอยสักได้แบบไม่เจ็บปวด และ ปลอดภัย รวมถึงยังสามารถทำเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน และไม่จำเป็นที่จะต้องเสียเงินมากมายอย่างการใช้เลเซอร์นั่นเอง ซึ่งแน่นอนแหละว่าพอคำเชิญชวนออกมาแบบนี้มันก็ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก แต่ทว่าคำถามที่ตามมานั่นก็คือ มันจะใช้ได้จริง ๆ เหรอ และ มันจะปลอดภัยไหม
โดยการทำงานของเจ้าครีมลบรอยสักนั้นส่วนใหญ่ภายในเนื้อครีมจะสิ่งที่เรียกว่าสารฟอก และ ลอกผิว เช่น กรดไตรคลอโรอะซิติก และ ไฮโดรควิโนน ซึ่งแน่นอนพอฟังแค่นี้หลาย ๆ คนก็ทำเอารู้สึกแสบผิวขึ้นมากันแล้วใช่ไหมล่ะ แต่ทว่าบรรดาเหล่าผลิตภัณฑ์พวกนี้ส่วนใหญ่มักจะอ้างว่าสารเหล่านี้ล้วนแล้วแต่สกัดมาจากธรรมชาติ แต่ก็นั่นแหละเมื่อมันเป็นกรดแบบนี้มันก็ย่อมมีฤทธิ์ของการกัดกร่อนอันเป็นคุณสมบัติหลักของมันติดมาด้วย ดังนั้นเมื่อสารเหล่านี้ถูกทาไปบริเวณผิวหนังชั้นบนสุดมันก็ทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นหลุดลอกออก และเมื่อมันลอกไปถึงชั้นที่น้ำหมึกฝังตัวอยู่ มันก็ทำให้น้ำหมึกเหล่านั้นแตกตัวออกมานั่นเอง
แต่ถ้าถามว่าครีมลบรอยสักเหล่านี้อันตรายต่อร่างกายของเราหรือไม่ คำตอบก็คือ อันตราย เพราะว่าตั้งแต่ที่ครีมลบรอยสักเหล่านี้ถูกวางขายในท้องตลาด ครีมลบรอยสักเหล่านี้ก็มีแต่ข่าวเสีย ๆ หาย ๆ เข้ามาไม่ว่าจะเป็นการใช้เวลาที่นานมากจนแทบจะไม่เห็นผลเลย และรวมไปถึงยังมีครีมลบรอยสักอีกหลาย ๆ อันที่กัดผิวของผู้ใช้ จนเกิดกลายเป็นแผล แถมที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นก็คือ ยังมีครีมลบรอยสักอีกหลาย ๆ ยี่ห้อที่ตรวจพบว่ามีผลในการก่อให้เกิดมะเร็ง จนทำให้ในที่สุดบรรดาเหล่าแพทย์ด้านผิวหนัง และ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้ออกมารวมตัวกันเพื่อคัดค้านการใช้งานของครีมลบรอยสัก
โดยมีแพทย์ท่านหนึ่งที่ได้รับรองจากคณะกรรมการแพทย์ผิวหนังของนิวยอร์ก
ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า จริง ๆ แล้ววิธีการใช้กรดไตรคลอโรอะซิติกที่สามารถพบเจอได้ในครีมลบรอยสักสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่การใช้มันควรจะใช้ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น ซึ่งการนำไปใช้เองที่บ้านนั้นมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตรายเป็นอย่างมาก แถมบางทีมันยังใช้ได้แบบไม่เต็มประสิทธิภาพอีกด้วย นอกจากนั้นแล้วครีมลบรอยสักยังมีสารอันตรายอื่น ๆ ที่บางทีฉลากก็ไม่ได้แจ้งไว้เช่น ฟีนอกซีเอธานอล และ ไฮโดรควิโนน ซึ่งสารเหล่านี้อาจจะส่งผลต่อระบบประสาทส่วนกลางให้เสียหายได้ รวมถึงยังสามารถทำให้ก่อเกิดมะเร็ง และที่สำคัญเลยคือมันเป็นสารที่อันตรายต่อทารกในครรภ์
มีลูกค้าจำนวนไม่น้อยเลยที่ต้องพบกับประสบการณ์อันเลวร้ายจากครีมลบรอยสัก โดยนอกจากเหตุผลเรื่องของรอยไหม้ของผิวหนังที่เกิดจากครีมลบรอยสักแล้ว บางคนยังพบกับอาการแผลบวม ตกสะเก็ด และ เป็นรอยฟกช้ำ รวมถึงสีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนไปอย่างรุนแรง
ซึ่งแม้ว่าหลาย ๆ บริษัทจะออกมาอวดอ้างสรรพคุณของ ครีมลบรอยสัก ของตัวเองว่าทำมาจากสารสกัดธรรมชาติ หรือ อ่อนโยนต่อผิวก็ตาม แต่ทางที่ดีเราแนะนำว่าคุณหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ครีมลบรอยสักเหล่านี้จะดีกว่า เพราะมันค่อนข้างเสี่ยงมากต่อการทำให้ผิวหนังของคุณพัง และ หากคุณอยากจะลองใช้จริง ๆ เราก็ขอให้คุณตรวจสอบฉลากทุกครั้งว่ามันได้รับการรับรองมาตรฐานจาก FDA หรือยัง ซึ่งในปัจจุบันนั้นพบว่าครีมลบรอยสักส่วนใหญ่จะไม่ได้รับรองจากมาตรฐานนี้
แต่ก่อนที่เราจะไปว่ากันด้วยเรื่องของครีมลบรอยสักกันต่อ เราขอพาทุกมาทำความเข้าใจกันสักนิดหนึ่งก่อนว่าเพราะอะไรทำไมรอยสักถึงลบออกได้อยาก โดยการสักนั้นจะเป็นการใช้เข็มเป็นตัวนำพาเม็ดสีจำนวนมากเข้าไปสู่ชั้นหนังแท้ของเรา และเมื่อเกิดกระบวนการนี้ขึ้นเซลล์เล็ก ๆ ที่ถูกสิ่งที่เรียกว่ามาโครฟาจะถูกย้ายไปที่อื่นและถูกแทนที่ด้วยน้ำหมึกในทันที และนั่นเองก็จะเป็นการทำให้รอยสักของคุณนั้นสามารถมองเห็นได้แม้ว่าชั้นหนังกำพร้าบริเวณด้านบนสุดจะลอกออกไปก็ตามที
ดังนั้นจึงทำให้วิธีการลบรอยสักด้วยเลเซอร์นั้นจะเป็นการยิงเลเซอร์ไปยังชั้นผิวหนังแท้ของเราเพื่อทำให้น้ำหมึกที่แทนที่ไมโครฟาอยู่นั้นแตกกระจายเป็นโมเลกุลชิ้นเล็กชิ้นน้อย และหลังจากนั้นไมโครฟาที่กระจายออกก็จะเข้ามาแทนที่ดังเดิม และในจุดนี้เองที่ครีมลบรอยสักไม่สามารถทำได้ดีเท่ากับเลเซอร์ ซึ่งการที่มันจะทำแบบนี้ได้เหมือนกับเลเซอร์ได้นั้น ครีมลบรอยสักจะต้องมีฤทธิ์กัดกร่อนที่สูงมาก ซึ่งมันจะส่งต่อสุขภาพผิวของคุณ
แต่ถ้าคุณต้องการที่จะลบรอยสักด้วยครีมจริง ๆ แล้วมันก็มีครีมที่ได้รับการรับรองจาก FDA ตามที่เราได้กล่าวมาข้างต้นแล้วเช่นกันโดยครีมตัวแรกนั้นเป็น ครีมลบรอยสัก ที่มีชื่อว่า Inkology ซี่งครีมตัวนี้ได้บอกสรรพคุณว่าเป็นครีมที่ไม่พึ่งพากรด และยังปลอดภัย เป็นธรรมชาติ ส่งผลให้ไม่แพ้ง่าย และยังสามารถพิสูจน์มาแล้วว่าลบรอยสักได้จริง รวมถึงยังมีสรรพคุณที่เหมาะต่อทุกสภาพผิว และไม่มีผสมที่เป็นอันตราย
แต่ทว่าหลังจากนั้นไม่นานก็ได้มีการตรวจสอบ ครีมลบรอยสัก อย่าง Inkology และก็ได้พบว่า ในผลิตภัณฑ์นี้ยังมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายอยู่ไม่ว่าจะเป็นสารกันบูดที่หากมันอยู่ในผลิตภัณฑ์ประเภทเครื่องสำอางแล้วจะค่อนข้างอันตรายมาก นอกจากนั้นยังมีสารอย่างฟีน็อกซีเอธานอลที่เป็นอันตรายอย่างยิ่งเมื่อใช้ทา และ ซึมเข้าสู่ผิวหนัง และนั่นเองมันจึงกลายเป็นข้อสรุปได้อย่างชัดเจนเลยว่า หากคุณคิดจะลบรอยสัก ขอให้อยู่ห่างไกลเจ้าครีมพวกนี้จะดีกว่า