หากจะพูดถึงหนึ่งในเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติของโลกมนุษย์ เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะนึกถึงช่วงเวลาของสงครามโลกครั้งที่ 2 กันอย่างแน่นอน เพราะแม้ว่าหลาย ๆ คนที่กำลังนั่งอ่านบทความนี้ของเราอยู่ คุณอาจจะไม่ได้ประสบเจอด้วยตัวเอง แต่อย่างน้อยเหตุการณ์เหล่านั้นก็ถูกสะท้อนออกมาผ่านทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ หรือ ภาพยนตร์ โดยถ้าคุณเคยอ่านแล้ว คุณจะพบว่าหนึ่งในเพศสภาพที่ต้องเจอกับการเปลี่ยนมากที่สุดก็คือ ชายรักชาย และนั่นเองจึงกลายมาเป็นเรื่องราวในครั้งนี้กับ รอยสักที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ของเรือนจำนาซีของ ALBRECHT BECKER
ใครคือ Albrecht Becker
Albrecht Becker เป็นชายอีกคนหนึ่งที่รอดตายมาจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งเกิดขึ้นในปี 1935 โดยในตอนนั้นตัวของเขามีอาชีพเป็นช่างภาพ แต่ทว่าด้วยความที่เขาเป็นชาวยิว จึงถูกทางฝั่งนาซีกลั่นแกล้งด้วยการสั่งจำคุกด้วยข้อหาที่ในปัจจุบันนี้มองว่ามันเป็นอะไรที่แปลกมาก ๆ อย่างการเป็น เกย์
แต่ในยุคสมัยก่อนนั้นเราต้องเข้าใจว่าความหลากหลายทางเพศยังไม่ได้เปิดกว้างเท่าที่ควร มันจึงไม่แปลกเท่าไหร่ที่เรื่องชายรักชายนั้นจะถูกมองเป็นสิ่งที่ผิดแปลก แต่สิ่งที่มันแย่ยิ่งกว่าการถูกมองอย่างเหยียดหยามนั่นการถูกตราหน้าทางสังคมไม่ต่างกับอาชญากรและในบางครั้งก็มีบทลงโทษถึงขั้นเสียชีวิต
ซึ่งในบางประเทศเองก็มีการผ่อนพันในเรื่องนี้บ้างแต่ไม่ใช่กับประเทศอย่างเยอรมัน และ ยิ่งเมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามโลกที่รัฐบาลของประเทศถูกปกครองด้วยระบอบนาซีแล้ว มันจึงทำให้กฎหมายเกี่ยวกับเพศสภาพเพิ่มมากขึ้น โดยมันถูกระบุไว้ในกฎหมายอย่างชัดเจนเลยว่า การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายด้วยกันเองคือสิ่งต้องห้าม
ถึงคราวที่ Albrecht Becker ต้องเดินเข้าคุก
แน่นอนว่ากฎหมายแบบนี้ทำให้กลุ่มชายรักชายต่างก็พากันเก็บตัวเงียบและไม่ค่อยแสดงออกกันสักเท่าไหร่ ซึ่งตัวของ Albrecht Becker เองก็เช่นกัน เพราะเขาก็เพียงใช้ชีวิตเงียบ ๆ แบบมีความสุขอยู่กับคนรักของเขาในเมืองที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง แต่สุดท้ายแล้วความสงบสุขที่เขาคิดมันก็ไม่มีจริง เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ เริ่มระอุขึ้นในปี 1934 โดยตัวของนายทหารเยอรมันอย่าง Ernst Gunther Roam ซึ่งเป็นสมาชิกของพรรคนาซีรุ่นแรก และ ยังเป็นเพื่อนสนิทของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ถูกฆ่าตายด้วยมือของเพื่อนสนิทเขาเอง และค่ำคืนนั้นก็เป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ตัวของ ฮิตเลอร์ได้ก้าวขึ้นสู่การรวมอำนาจแบบเบ็ดเสร็จ และการรวมอำนาจแบบเด็ดขาดนี้เองที่ทำให้นาซีสามารถสั่งลงโทษคนที่มีทัศนคติที่ไม่ตรงได้ทันที และฮิตเลอร์ก็เริ่มดำเนินแผนการนี้อย่างเป็นหลังจากเขากุมอำนาจสำเร็จ 5 เดือนต่อมา
และเพียงไม่นานตำรวจลับก็ได้มาเคาะที่ประตูบ้านของ Albrecht Becker ก่อนที่จะพาตัวของเขาออกจากบ้าน ซึ่งตัวของเขานั้นไม่รู้เลยว่าการเปิดประตูเผชิญหน้ากับตำรวจลับในครั้งนั้นจะทำให้ตัวเขาไม่ได้เห็นบ้านของเขาไปนานกว่า 3 ปี
แต่อย่างน้อยมันก็มีความโชคดีอยู่ในความโชคร้ายเพราะว่า เมื่อตัวของ Albrecht Becker ถูกเจ้าหน้าที่ถามถึงเรื่องที่เป็นชายรักชาย เขาก็รับสารภาพไปแบบตรง ๆ ซึ่งการตอบแบบตรง ๆ นี้นี่แหละที่ทำให้เขาถูกสั่งจำคุกเป็นเวลา 3 ปีในเรือนจำที่ Nuremberg ซึ่งถือว่าเป็นโทษที่ค่อนข้างเบากว่าคนอื่น เพราะคนอื่นที่ไม่ยอมรับสารภาพและถูกตรวจสอบจนเจอ พวกเขาเหล่านั้นได้ถูกส่งไปยังค่ายกักกันดาเชานัน และก็แทบจะไม่มีใครคนไหนได้กลับมาอีกเลย
ชีวิตในเรือนจำของ Albrecht Becker
อย่างที่เราบอกไปแล้วว่าตัวของ Albrecht Becker ต้องใช้ชีวิตอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 3 ปีด้วยกัน แต่ทว่าตัวของเขากลับมองว่าชีวิตในเรือนจำมันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้น เนื่องจากในช่วงนั้นมันเป็นช่วงที่เต็มไปด้วยข่าวลือต่าง ๆ มากมาย รวมถึงข่าวของค่ายกักกันที่มีทั้งชาวยิว และ เกย์หลายคนที่เข้าไปและไม่มีวันได้กลับออกมาอีกเลย มันจึงทำให้นักโทษในเรือนจำเดียวกับเขายังพอที่จะสบายใจกันได้ว่าอย่างน้อยหลังจากติดคุกเสร็จพวกเขายังมีโอกาสรอดกลับไปใช้ชีวิตประจำเหมือนกับคนปกติ
แต่ถึงแม้ว่าตัวของ Albrecht Becker จะบอกว่ามันไม่ได้เลวร้ายก็ตาม แต่มันก็ไม่อาจที่หลีกเลี่ยงกับบรรดาเหล่าขาใหญ่ในนั้นที่พร้อมจะเหยียดหยามเหล่าชายรักชายที่อยู่ในนั้นเสมอ รวมถึงยังเป็นเรื่องปกติที่พวกขาใหญ่มักจะใช้อภิสิทธิ์กดขี่คนอื่นอยู่เสมอ ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้คุณน่าจะคิดแล้วใช่ไหมล่ะว่า ช่วงเวลานี้แหละคือช่วงเวลาที่ตัวของ Albrecht Becker จะต้องได้เจอกับเรื่องราวของรอยสัก เพราะว่าในสายตาของหลาย ๆ คน ส่วนใหญ่แล้วรอยสักก็ยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในสถานที่แบบนี้อยู่ดี แต่เปล่าเลย เพราะว่ามันเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
แล้วอะไรกันละคือจุดเริ่มต้นของ รอยสักที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ของเรือนจำนาซีของ ALBRECHT BECKER
เอาไว้เดี๋ยวเราจะมาเล่ากันต่อในครั้งหน้า แต่จะเป็นตอนไหนนั้นคุณก็ต้องคอยติดตามข่าวสารของเว็บไซต์เราให้ดี ซึ่งรับรองว่าเส้นทางรอยสักของชายคนนี้เป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน