คำว่า ศิลปะ นั้นไม่มีสิ่งที่ตายตัว เพราะว่ายิ่งกาลเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ ศิลปะก็จะยิ่งมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ จนทำให้ศิลปะในสมัยเก่าได้ผสมผสานกับศิลปะสมัยใหม่ไปเรื่อย ๆ และเพราะการผสมผสานนี้มันได้ทำให้ได้เกิดบรรดาเหล่าศิลปินหน้าใหม่ขึ้นมากมาย และหนึ่งในศิลปินหน้าใหม่ที่เกิดนั่นก็คือบรรดาเหล่าช่างสัก ซึ่งพวกเขาได้มีการนำเอาศิลปะหลาย ๆ แขนงมาใส่เอาไว้ในร่างกายของคนเรา และหนึ่งในช่างสักที่เราจะพาทุก ๆ ไปรู้จักกันในครั้งนี้ เขาก็คืออีกหนึ่งคนที่สามารถเอาความไม่เข้ากันของ 2 สิ่งมาผสมกันจนกลายเป็นสไตล์เฉพาะของเขา โดยเขาคนนั้นก็คือ LUJU TATTOOER ช่างสักที่ผสานงานของโครงกระดูก และ ดอกไม้ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่เลียนแบบยาก ซึ่งเรื่องราวของเขาคนนี้จะ
โดดเด่นและแตกต่างจากช่างสักคนอื่นอย่างไรบ้าง เอาเป็นว่า เราไปเริ่มต้นชมเรื่องราวของเขากันเลย
ผลงานของ LUJU TATTOOER ที่ดึงศักยภาพของตัวเองออกมา
แม้ว่าผลงานของ LUJU TATTOOER จะค่อนข้างมีเอกลักษณ์อันโดดเด่นอยู่มากแล้วก็ตาม แต่ทว่าตัวของเขาก็คาดหวังที่จะพัฒนางานของตัวเองให้เห็นความแตกต่างออกมาเรื่อย ๆ และหนึ่งในงานที่ตัวของเขาคิดว่ามันยากมาก ๆ สำหรับเขานั่นก็คือ รอยสักรูปพระแม่มารีย์
โดยรอยสักนี้เป็นรอยสักที่ทำให้ตัวเขาไม่มั่นใจว่าจะสามารถทำได้เลยด้วยซ้ำ เพราะมันค่อนข้างใช้สีเยอะ และ ละเอียดมาก แต่ถึงแบบนั้นแล้วเขาก็พยายามและตั้งใจจนผลงานชิ้นนี้ออกมาเสร็จ แถมความตั้งใจเหล่านั้นยังทำให้รอยสักนั้นออกมาสวยอีกด้วย ซึ่งการที่ผลงานออกมาดีทำให้เขารู้สึกว่า เขาก็สามารถทำได้ แต่ถึงแบบนั้นเขาก็คงไม่คิดจะทำบ่อย ๆ เพราะว่างานลักษณะนี้มันค่อนข้างเหนื่อยมากเลยทีเดียวเนื่องจากใช้สีเยอะ และเขาก็ไม่ค่อยชอบทำงานสีสักเท่าไหร่
ระยะเวลาในการทำงานของ LUJU TATTOOER
สำหรับงานที่ใช้เวลานานตัวของLUJU TATTOOERนั้นเจอค่อนข้างหลากหลายแบบเลยทีเดียว โดยงานที่ใช้เวลานานที่สุดของเขานั้นเคยใช้เวลาตั้งแต่เที่ยงวันไปจนถึงห้าทุ่ม ซึ่งงานนั้นเป็นงานที่มีลักษณะเส้นตรงแต่มันก็จะมีลายอื่น ๆ ผสมอยู่ในลวดลายนั้นอยู่ด้วย ส่วนงานอื่น ๆ ที่ต้องทำรายละเอียด หรือ สีเยอะ ๆ ตัวของเขาก็มักจะเลือกแบ่งงานออกเป็น 2 วันเพื่อที่จะไม่ให้หนักกับเขาเกินไป โดยเขาจะเลือกทำงานเป็นวันละ 3-4 ชั่วโมง ส่วนงานที่ไวที่สุดของเขานั่นก็คือ งานแบบตัวอักษร โดยส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นอักษรตัวเดี่ยว ๆ เขาจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีก็สามารถปิดงานได้แล้ว
ส่วนถ้าถามว่าส่วนไหนของร่างกายที่ตัวของเขาทำงานยากที่สุด ก็คงจะเป็นส่วนหลังและลำตัว เพราะว่าส่วนนั้นผู้สักและ
คนสักจะต้องยกแขนเอาไว้ซึ่งมันค่อนข้างเมื่อย นอกจากนั้นแล้วส่วนยากอีกส่วนหนึ่งนั่นก็คือนิ้ว เนื่องจากติดกระดูก
ความสะอาดในการทำงาน
สิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญค่อนข้างมาสำหรับตัวของ LUJU TATTOOER เลยทีเดียว โดยก่อนที่จะเริ่มการสักตัวของเขาจะทำการแรปอุปกรณ์สักทุกอย่าง พร้อมกับทำความสะอาดฆ่าเชื้อเตรียมเอาไว้เพื่อรอลูกค้า ซึ่งสิ่งที่เขามักจะเลือกทำความสะอาดเป็นอันดับแรก ๆ นั่นก็คือ เครื่องสัก โดยเขาจะใช้ทั้งน้ำเกลือ แอลกอฮอล์ และ น้ำยาฆ่าเชื้อ ในการทำความสะอาด นอกจากนั้นแล้วเขายังมีตู้ฆ่าเชื้อ เพื่อเอาไว้ฆ่าเชื้อโรคโดยเฉพาะติดไว้ในร้าน ซึ่งเวลาที่เขาทำงานเสร็จเขาก็จะเอาอุปกรณ์เหล่านั้นไม่ฆ่าเชื้อทั้งหมด จึงทำให้ถ้าคุณมาสักกับเขา คุณสามารถมั่นใจในระดับความปลอดภัยได้เลยละ
รอยสักบนร่างกายตัวเอง LUJU TATTOOER
และเมื่อเขาเป็นคนที่ชื่นชอบศิลปะในการสัก ตัวของเขาเองก็มีรอยสักอยู่บนร่างกายของตัวเองเช่นกัน โดยทั่วร่างของเขาจะมีรอยสักอยู่ประมาณ 14-15 จุด ซึ่งแต่ละรอยสักนั้นจะเป็นรอยสักเล็ก ๆ ซึ่งที่เขาสักก็เพราะว่าเขาต้องการเอาไว้เตือนใจสำหรับเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับตัวเอง นอกจากนั้นแล้วตัวของ LUJU TATTOOER ยังเคยลองสักตัวเองที่บริเวณขา และแขน ซึ่งเขาได้บอกว่าการเป็นช่างสักกับการเป็นผู้ถูกสักเองนั้นให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างต่างกันเลยทีเดียว เพราะว่าการที่เขาได้เป็นผู้ถูกสักนั้นมันจะทำให้เขามีช่วงเวลาสนุก ๆ อย่างการได้คุยกับช่างสัก
มุมมองต่อรอยสักของ LUJU TATTOOER
ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วตัวของเขาไม่ได้สนใจเท่าไหร่ว่าคนที่ไม่ชอบรอยสักจะมองมาที่เขาที่มีรอยสักอย่างไร เพราะว่าเขาสนใจเพียงแค่ว่ารอยสักคือสิ่งที่เขารักเขาชอบมากกว่า เพราะความชอบนี้นี่แหละที่ทำให้เขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าอีก 5-6 ปีเขาจะเดินทางไปต่างประเทศเพื่อลองอะไรใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว หรือการทำงาน แต่ถ้าถามว่าตอนนี้เขายังสนุกกับงานสไตล์นี้ของเขาอยู่ไหม เขาก็ตอบได้เต็มปากเลยว่า เขายังสนุกกับการทำอยู่
ซึ่งใครคนไหนที่อยากลองชมผลงานต่าง ๆ ของ LUJU TATTOOER ก็สามารถติดตามได้ที่ IG ของเขาอย่าง lj.tattooer ส่วนสำหรับใครที่อยากให้เขาลงเข็มให้ คุณก็สามารถที่ติดต่อจองคิวสักได้ที่ ไลน์แอด @lujutattooer
ซึ่งจะต้องจองคิวเท่านั้น เพราะว่าเขาไม่รับงานแบบ Walk- in
และนี่แหละคือเรื่องราวของ LUJU TATTOOER ช่างสักที่ผสานงานของโครงกระดูก และ ดอกไม้ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่เลียนแบบยาก ซึ่งพอเราได้อ่านเรื่องราวของเขาแล้ว สิ่งที่เราได้รับมาจากแนวคิดของเขานั่นก็คือ การใช้ชีวิตให้เต็มที่ และ มีความหมายในทุก ๆ วัน