อย่างที่ในบทความของเว็บไซต์ที่เราได้บอกคุณอยู่แล้วหลาย ๆ ครั้งว่าแล้วแสงแดดนั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคที่สำคัญต่อรอยสักของเรา ซึ่งเราเองก็ได้แนะนำคุณไปหลาย ๆ ครั้งสำหรับการจัดการกับปัญหานี้ แต่ถ้าหากมองให้ลึก ๆ กันลงไปจริง ๆ แล้วสิ่งที่ทำให้ลวดลายบนร่างกายของเราที่จางลงจริง ๆ แล้วมันคือรังสี UVA กับ UVB ที่อยู่ในแสงแดดนั่นเอง แต่ใช่ว่ารังสีเหล่านี้จะอยู่เพียงแค่แสงแดดเท่านั้น เพราะว่ามันยังมีอีกมีวิธีหนึ่งที่ทำให้ร่างกายของเราต้องเจอกับรังสีแบบนี้นั่นก็คือ สิ่งที่เรียกว่า เตียงอาบแดดนั่นเอง และนั่นก็คืออีกหนึ่งคำถามที่ตามมว่า เครื่องทำผิวแทนจะทำให้รอยสักของคุณจางลงหรือไม่
นั่นก็เพราะว่าเจ้าเครื่องแบบนี้มันเป็นสิ่งที่ปล่อยรังสียูวีเข้มข้น ซึ่งเจ้ารังสีเข้มข้นเหล่านี้มันทำให้เม็ดสีหมึกที่อยู่ใต้ผิวหนังสลายตัว
แต่ก่อนอื่นที่เราจะไปทราบถึงเรื่องราวของเตียงอาบแดดกัน เราควรที่จะมาทราบกันว่า แสงยูวี นั้นมีผลต่ออย่างไรบ้าง โดยเราขอให้ทุกคนเพิ่งระลึกเอาไว้เสมอเลยนั่นก็คือ รังสี UV กับรอยสักนั้นแทบจะเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเข้ากันได้เลย โดยอย่างที่เราได้บอกคุณไปแล้วในหลาย ๆ บทความนั่นก็คือลายสักของคุณจะเริ่มจางลงไปเรื่อย ๆ เมื่อพวกมันโดดแดดเป็นเวลานาน แต่มันจะยิ่งเสี่ยงมากยิ่งขึ้นไปอีกเมื่อมันต้องมาโดนแสงแดดหรือรังสี UV ที่แรงมาเป็นพิเศษเวลาที่อยู่บนเตียงอาบแดด ซึ่งการที่เจ้ารังสี UV เข้าซึมซาบเข้าสู่ผิวของเราได้เร็วแบบนี้มันไม่ใช่เพียงแค่ทำลายความสมบูรณ์เท่านั้น แต่มันยังทำให้เส้นที่ดูคมชัดเบลอ นอกจากนั้นมันยังเหมือนกับการดูดสีออกจากรอยสักของคุณจนทำให้มันดูไร้ชีวิตชีวา ซึ่งแน่นอนแหละว่าคงไม่มีใครอยากให้รอยสักของคุณดูน่าเบื่อไร้ชีวิตชีวาอย่างแน่นอน
แต่ที่มันแย่ยิ่งกว่าการทำให้รอยซีดจางนั้นมันยังมีอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ บางทีรังสี UV
นั้นยังสามารถทำให้หมึกบางชนิดเปลี่ยนสีได้ เช่นบางทีสีส้มหนา ๆ มันอาจจะกลายเป็นสีชมพูอ่อนก็เป็นได้ โดยเจ้ารังสี UV นี้มันไม่ได้ส่งผลเสียต่อรอยสักของคุณเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังส่งผลต่อผิวหนังของคุณเช่นกัน แถมมันยังส่งผลค่อนข้างมากอีกด้วย เนื่องจากผิวหนังที่เพิ่งสักใหม่นั้นจะยังไม่หายดี เพราะอย่างที่ใครรู้ ๆ กันว่า การสักนั้นมันคือการสร้างความเสียหายให้กับผิวหนังชั้นนอก ดังนั้นรังสีอันตรายอย่าง UV จึงไม่ได้กระทบเพียงแค่ผิวหนังชั้นบนสุดของคุณเท่านั้น เพราะมันจะทะลุไปยังชั้นผิวด้านใน
และคุณเองก็น่าจะเห็นในหลาย ๆ บทความของเราแล้วว่า เราได้แนะนำให้หลาย ๆ คนเอารอยสักของตัวเองที่เพิ่งสักใหม่ ๆ หลบแดดให้มากที่สุด ดังนั้นคำแนะนำนี้จึงกลายเป็นอีกหนึ่งคำแนะนำที่คุณควรจะท่องจำให้ขึ้นใจยิ่งกว่าเดิมเป็น 10 เท่าเมื่อคุณหวังจะไปลองใช้บริการของเตียงอาบแดด เนื่องจากเจ้าพวกนั้นมีความแรงของรังสี UV และ ศักยภาพในการทำผิวแทนที่มากกว่าการโดดแดดแบบปกติหลายเท่า
แต่สำหรับใครที่อดใจไม่ไหว และ อยากที่จะใช้เตียงอาบแดดหลังจากมีรอยสักใหม่ เราขอแนะนำให้คุณจำเป็นที่จะต้องรออย่างน้อยอย่างต่ำ 1 เดือนก่อนที่จะไปอาบแดด ส่วนถ้าใครคิดว่าคุณสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ด้วยการใช้ครีมกันแดดแล้วละก็ เราขอให้คุณคิดใหม่เสียก่อน เนื่องจากบาดแผลจากการสักนั้นมันเป็นแผลเปิด ดังนั้นคุณก็ไม่ควรที่จะใช้ครีมอื่น ๆ ที่ไม่ได้การรับรองทางการแพทย์กับบาดแผลของคุณโดยเด็ดขาด เนื่องจากมันมีความเสี่ยงที่จะทำให้รอยสักของคุณติดเชื้อ และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่ามันไม่มีทางลัดที่จะให้บาดแผลของคุณหายเร็ว และ ดูดีได้นั่นเอง
ส่วนถ้าคุณถามว่าหากคุณต้องใช้เตียงอาบแดดนั้น คุณจะสามารถใช้ครีมกันแดดป้องกันรอยสักของคุณได้ไหม ซึ่งเราก็ตอบตรงนี้เลยว่า ได้ เพียงแต่ว่าคุณต้องรอให้บาดแผลหายสนิทเสียก่อน และ ที่สำคัญคือครีมกันแดดของคุณจะต้องมีค่า SPF 30 เป็นอย่างน้อยเพื่อมันจะได้เหมาะกับการป้องกันได้ดีที่สุด
โดยมีครีมกันแดดที่เราอยากแนะนำให้หลาย ๆ คุณได้ไปลองใช้กับรอยสักของคุณบนเตียงอาบแดดนั่นก็คือ ครีมกันแดดอย่าง EltaMD UV Sport Sunscreen Lotion โดยเจ้าครีมกันแดดนี้มันมีคุณสมบัติในการป้องกันแสง UV เป็นวงกว้าง และ มันค่อนข้างจำเป็นในการปกป้องคุณจากรังสี UV นอกจากนั้นแล้วมันยังสามารถที่จะช่วยรักษาความสดใสของรอยสัก แถมเจ้ามันยังมีระดับป้องกันแสง UV อยู่ที่ SPF50 เลยอีกด้วย นอกจากนั้นมันสามารถที่จะกันน้ำ และ กันเหงื่อได้นานถึง 80 นาที และที่สำคัญที่สุดคือเจ้าครีมกันแดดตัวนี้มันค่อนข้างเป็นมิตรกับรอยสักเนื่องจากมันไม่มีน้ำหอม น้ำมัน หรือ พาราเบน
แต่มันก็มีอีกหนึ่งกรณีนั่นก็คือกรณีที่คุณไม่ค่อยชอบใจกับการใช้ครีมกันแดดจริง ๆ โดยคุณสามารถที่จะหลีกเลี่ยงการโดดแสง UV จากเตียงอาบแดดได้โดยการใช้ผ้าปิดบริเวณรอยสัก แต่ทว่าเราขอย้ำในตรงนี้ว่าการที่คุณเลือกใช้วิธีนี้คุณจำเป็นที่ต้องใช้ผ้าปิดเป็นรูปร่างตามรอยสักของคุณ ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็นรอยด่างสีขาวที่ทำให้ดูผิดปกติอยู่บริเวณผิวหนังคุณ
นอกจากนั้นแล้วการที่รอยสักของคุณโดนรังสี UV จากเตียงอาบแดดเป็นเวลานาน มันก็อาจทำให้ผิวบริเวณนั้นของคุณแห้งไม่ต่างอะไรกับการโดดแสงแดดจากดวงอาทิตย์ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณควรทำผิวหนังบริเวณรอยสักให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ และคุณควรที่จะทำอยู่สม่ำเสมอ เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นของผิวในทุก ๆ วัน ไม่ใช่เพียงแค่เฉพาะตอนที่คุณจะไปเข้าบริการเตียงอาบแดดเท่านั้น
นอกจากเจ้าเตียงอาบแดดที่สามารถทำให้คุณมีผิวแทนแล้ว มันยังมีอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้คุณผิวแทนได้เช่นกัน โดยวิธีนั้นก็คือสิ่งที่เรียกว่าสเปรย์อาบแดดนั่นเอง ซึ่งการใช้สเปรย์นี้มันก็จะทำให้คุณมีผิวแทนได้เช่นกัน แถมเจ้าสเปรย์อาบแดดนี้ยังเป็นสิ่งที่ไม่ทำให้รอยสักของคุณจางลงเหมือนกับเตียงอาบแดด แต่ทว่าสิ่งที่มันจะตามมานั่นก็คือมันจะทิ้งรอยคล้ำไว้บนผิวหนังของคุณค่อนข้างนานคล้าย ๆ กับการแต่งหน้า แต่ถึงมันจะเป็นเพียงแค่สเปรย์ทำผิวแทนเท่านั้น คุณเองก็ต้องรออย่างน้อยเป็นเวลาหนึ่งเดือนเช่นกันกว่าที่ใช้สเปรย์นี้กับบริเวณรอยสักใหม่ของคุณ เพราะไม่งั้นมันอาจจะเสี่ยงทำให้รอยสักของคุณแย่ลง และ ยังมีโอกาสรอยสักติดเชื้ออีกด้วย
เอาละตอนนี้เรามาดูกันว่าถ้าหากคุณไม่ยอมปฏิบัติตามข้อต่าง ๆ ที่เราแนะนำในการใช้เตียงอาบแดดแล้ว มันจะทำให้รอยสักของคุณเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง โดยหากคุณไม่ยอมปฏิบัติตามสิ่งที่เราแนะนำไปนั้นมันอาจจะอันตรายอย่างยิ่ง เพราะว่ามันอาจจะทำให้ผิวหนังตรงนั้นของคุณนั้นมีการเปลี่ยนแปลงสีอย่างชัดเจน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดนั้นก็คือการเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ นอกจากนั้นแล้วอย่าลืมพกครีมกันแดดเพื่อเอาไว้ เมื่อคุณต้องการที่จะใช้บริการของเตียงอาบแดด
และนี่ก็คือเรื่องราวของเครื่องทำผิวแทนจะทำให้รอยสักของคุณจางลงหรือไม่ ซึ่งแม้ว่าการใช้บริการของเตียงอาบแดดในเมืองไทยของเรานั้นอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากนัก เนื่องจากโทนสีผิวของคนไทยเรานั้นเป็นผิวที่อยู่ในทางผิวแทนอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีสาว ๆ อีกหลายคนที่ต้องการจะมีผิวแทนเพื่อเพิ่มเสน่ห์อันแสนยั่วยวนให้กับตัวเอง ดังนั้นบทความนี้จึงขอเป็นส่วนหนึ่งของความรู้ให้คนที่มีรอยสัก และ กำลังจะไปใช้บริการเตียงอาบแดดให้ได้ทราบกัน