อย่างที่หลาย ๆ คนน่าจะพอทราบกันดีว่ารอยสักนั้นคือสิ่งที่จะอยู่ติดตัวไปกับเราอีกนานเท่านานหากเราเลือกที่จะสร้างสรรค์รอยสักเหล่านั้นเอาไว้บนร่างกาย และด้วยเหตุที่มันอยู่ติดตัวกับเราโดยตลอดนี้เองจึงทำให้มีหลาย ๆ คนนิยมสร้างสรรค์
รอยสักเหล่านี้ออกมาในรูปแบบของเครื่องรางของขลังหรือสิ่งที่เอาไว้สำหรับยึดเหนี่ยวจิตใจ และหนึ่งในสิ่งที่สามารถช่วยในเรื่องของการยึดเหนี่ยวจิตใจของใครหลาย ๆ คนก็คือเรื่องราวเหนือธรรมชาติหรือเรื่องราวของเทพยดาต่าง ๆ และหนึ่งในตำนานเทพที่เลื่องลือมากที่สุดก็คงหนีไม่พ้นทพเจ้ากรีก เพียงแต่ว่าถ้าเราจะให้คุณขานชื่อเทพกรีกออกมาสัก 3 ชื่อ เราเชื่อว่าเทพเจ้าที่คุณนึกถึงก็คงหนีไม่พ้น ซุส โพเซดอน และ ฮาเดส อย่างแน่นอน ซึ่งเราอยากบอกว่ารอยสักของ 3 มหาเทพนั้นแม้ว่ามันจะดูเป็นสิ่งที่ทรงพลังก็ตาม แต่ถ้าหากมองในมุมของแฟชั่นแล้วเราก็เชื่อมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจำเจ ดังนั้นเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้สำหรับคนที่มีแรงใจอยากสักเป็นเทพเจ้ากรีก ดังนั้นครั้งนี้เราจึงขอพาทุก ๆ คนไปกับเรื่องราวของ
รอยสักของเทพองค์อื่นที่ไม่ใช่เทพหลักของกรีก กัน ซึ่งเทพองค์อื่น ๆ ที่น่าจะนำมาดีไซน์เป็นรอยสักจะมีเทพเจ้าองค์ไหนบ้าง เอาเป็นว่าเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า
รอยสักของเทพธิดาเฮร่า
สำหรับ เฮร่า นั้นคือสนมเอกอย่างเป็นทางการของเทพเจ้าสูงสุดอย่างซุส และนั่นเองก็ทำให้ตัวเธอเป็นเหมือนกับราชินีของเทพเจ้าทั้งหมดบนเทือกเขาโอลิมปัส ซึ่งตัวเธอนั้นจะเป็นเหมือนกับตัวแทนของการเป็นผู้พิทักษ์การแต่งงานและเป็นตัวแทนของครอบครัวอันยิ่งใหญ่ นอกจากนั้นแล้วยังมีคู่รักอีกหลาย ๆ คู่ที่มักจะเลือกสักเป็นรูปเฮร่าเอาไว้เพื่อเป็นการให้เกียรติด้านความรักของกันและกัน
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรอยสักเฮร่าที่ถูกนำมาสักมักจะปรากฏออกมาในภาพของหญิงสาวที่ยังมีความเยาว์และความงดงามอยู่เสมอ นอกจากนั้นแล้วหลาย ๆ คนมักจะเลือกตกแต่งรอยสักของเฮร่าด้วยสัญลักษณ์ที่แสดงออกถึงความรักเช่น นกยูง ดอกไม้ รวมถึงสัญลักษณ์ที่เกี่ยวข้องกับกษัตริย์
รอยสักของเทพีเอเธน่า
เอเธน่าคือบุตรสาวที่เกิดจาก เฮร่า และ ซุส โดยตัวของเธอนั้นถูกเปรียบเสมือนว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งปัญญา สงคราม และ ความกล้าหาญ ดังนั้นจึงทำให้รอยสักของเทพเอเธน่าจะมีความหมายถึงการเป็นคนที่ฉลาด แข็งแกร่ง และมีความมุ่งมั่น
ส่วนสไตล์รอยสักของเทพีเอเธน่าที่เรามักจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ นั้น ส่วนใหญ่มักจะมาในรูปแบบของการสวมเกราะตั้งแต่หัวจรดเท้าเพื่อเตรียมพร้อมในการรบ นอกจากนั้นแล้วอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่หลาย ๆ คนมักจะสักเพิ่มเข้าไปนั่นก็คือ นกฮูก
เนื่องจากตัวของนกฮูกเองก็เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของปัญญาเช่นกัน
รอยสักของเทพธิดาอโฟรไดท์
แอโฟรไดท์ ถูกยกย่องให้เป็นเทพธิดาแห่งความรักและความงาม โดยเทพธิดาอย่างแอโฟรไดท์นั้นมักจะมีส่วนร่วมในวรรณกรรมที่มีเทพกรีกเกี่ยวข้องนับไม่ถ้วน และเพราะการที่ตัวของเธอนั้นเป็นเหมือนกับจุดสูงสุดแห่งความงาม จึงทำให้มีผู้หญิงจำนวนมากนิยมสักเป็นรูปของเทพีองค์นี้เพื่อแสดงถึงความงดงามของตัวเอง
ส่วนสไตล์ของรอยสักประเภทนี้สิ่งที่เหมือนกันในทุก ๆ รอยสักเลยนั่นก็คือการสักใบหน้าของแอโฟรไดท์ออกมาให้มีความงดงามมากที่สุด ซึ่งบางคนก็อาจจะสักให้เธออยู่ในชุดที่มีเสื้อผ้าน้อยชิ้นเพื่อโชว์ความงามของเรือนร่าง แต่บางคนก็อาจจะเลือกสักแบบสีเพื่อแสดงให้เห็นถึงความงามทั้งหมดของเธอ และอีกหนึ่งส่วนประกอบที่มักมีอยู่คู่กับเธออยู่เสมอ ๆ นั่นก็คือหอยสังข์และนกพิราบ
รอยสักเทพเจ้าไดโอนีซัส
สำหรับเทพอย่างไดโอนีซัสนั้นอาจจะไม่ใช่เทพที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในวงกว้างสักเท่าไหร่ โดยเทพไดโอนีซัสนั้นเป็นลูกของซุสกับมนุษย์โดยเขาคนนี้ถือว่าเป็นเทพเจ้าหนุ่มที่มีหนวดเราอันงดงามมาก ๆ นอกจากนั้นแล้วเขาคนนี้ยังเป็นเทพที่ถูกเรียกว่าเป็นเทพแห่งไวน์อีกด้วย
และเมื่อเทพอย่างไดโอนีซัสถูกเรียกว่าเทพแห่งไวน์จึงทำให้ส่วนใหญ่แล้วดีไซน์ของเทพองค์นี้มักจะมีพวงองุ่นรวมถึงเถาวัลย์ต่าง ๆ อยู่ตามตัวเสมอ และนั่นเองจึงทำให้เราสามารถที่จะเพิ่มความเด่นในรอยสักด้วยการใช้สีม่วงของพวงองุ่น หรือไม่ก็สีเขียวของเถาวัลย์มาช่วยได้ ส่วนอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญที่หลาย ๆ คนมักจะใส่เพิ่มเข้าไปในรอยสักรูปแบบนี้ก็คือ กลอง
เพราะว่า ไดโอนีซัส ยังเป็นเทพที่มีกลองพกติดตัวอยู่เป็นประจำเพื่อใช้ในการเฉลิมฉลอง และ ความสนุกสนาน
รอยสักโครโนส
โครโนสนั้นถือได้ว่าเป็นเทพบรรพกาลที่ทำให้ก่อเกิดเรื่องราวของมหาสงครามเทพกรีก และยังเป็นเสมือนกับพ่อของเทพหลักทั้ง 3 อย่าง ซุส โพไซดอน และ ฮาเดส อีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตัวของโครโนสมักจะถูกเอาไปเชื่อมโยงกับเรื่องราวของเวลา
และเพราะการที่ตัวของโครโนสได้ถูกนำไปรวมกับเรื่องราวของเวลาบ่อย ๆ จึงทำให้ดีไซน์รอยสักโครโนสส่วนใหญ่นั้นจะมีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ โดยหลาย ๆ ก็อาจจะเลือกใส่นาฬิกาแบบเข็มเข้าไปเพื่อช่วยเพิ่มเรื่องราวให้กับรอยสัก แต่ถ้าใครรู้สึกว่านาฬิกาแบบเข็มนั้นจะดูทันสมัยเกินไปและไม่เข้ากับรอยสัก คุณก็สามารถที่จะเปลี่ยนเป็นนาฬิกาทรายแทนเพื่อให้เข้ากับความเชื่อในสมัยโบราณก็เป็นได้
และทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของ รอยสักของเทพองค์อื่นที่ไม่ใช่เทพหลักของกรีก ที่เราได้เอามาฝากทุก ๆ คนกัน
เห็นไหมล่ะว่า ต่อให้ไม่เป็นเทพเจ้าหลักในตำนานของกรีกแล้ว ดีไซน์ของเทพเจ้าเหล่านั้นก็สามารถที่จะทำออกมาสวยได้ขอเพียงแค่คุณมีความเข้าใจในสตอรี่ต่าง ๆ ของรอยสักอย่างถ่องแท้