หลาย ๆ คนที่ติดตามข่าวสารผ่านทางเว็บไซต์ของเรา เราเชื่อว่าคุณน่าจะพอทราบกันดีแล้วว่าสิ่งที่เรียกรอยสักนั้นเป็นสิ่งที่สามารถบ่งบอกตัวตนของเราได้อย่างดี ซึ่งวิธีการบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราผ่านทางรอยสักนั้นหลาย ๆ ก็ล้วนแล้วแต่มีวิธีใช้รูปในการเล่าเรื่องราวแตกต่างกันไป และหนึ่งในรูปที่มีหลาย ๆ คนนิยมสักมากเป็นอันดับต้น ๆ นั้นก็คงจะหนีไม่พ้นรอยสักหัวกะโหลกนั่นเอง
ซึ่งในตอนแรกนั้นหลาย ๆ คนที่มองภายนอกอาจจะคิดว่ารอยสักหัวกะโหลกนั้นเป็นสิ่งที่น่ากลัว เพราะว่ามันมักจะมีความหมายสื่อไปในเชิงของ ความตาย แต่ทว่าหากมองให้ลึกลงไปแล้วจริง ๆ รอยสักหัวกะโหลกนั้นยังมีความหมายแฝงอีกหลาย ๆ อย่างซ่อนเอาไว้ โดยมันสามารถตีความไปได้ถึงตั้งแต่ระดับการยกระดับชีวิต และ การป้องกันวิญญาณร้ายกันเลยทีเดียว และเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องดังนั้นในวันนี้เราจึงจะขอพาทุก ๆ คนไปเรียนรู้เรื่องราวของรอยสักหัวกะโหลกกับการออกแบบและความหมายที่มีซ่อนอยู่ กัน
ทำความเข้าใจกับความหมายของหัวกระโหลก
ซึ่งจริง ๆ แล้วรอยสักหัวกะโหลกนั้นถือได้ว่าเป็นรอยสักที่มีมาตั้งแต่โบราณแล้ว โดยชนเผ่าเซลติกส์โบราณได้ถือว่า กะโหลกมนุษย์นั้นเป็นศูนย์รวมของเหล่าจิตวิญญาณ ที่จะคอยกระตุ้นจิตใจ และ หมุนเวียนพลังชีวิตอยู่เสมอ ๆ
ส่วนในยุคที่เรียกกันว่ายุคฟื้นฟูศิลปวิทยานั้น มุมมองของหัวกะโหลกได้เปลี่ยนไป เพราะว่ามันจะถูกพูดถึงในเชิงของการเล่นแร่แปรธาตุซะมากกว่า อีกทั้งมันยังกลายเป็นสัญลักษณ์ของความฉลาด และ การตระหนักรู้ รวมถึงมองการณ์ไกลอีกด้วย แต่เมื่อใดก็ตามที่หัวกะโหลกเหล่านี้ถูกย้ายไปอยู่ในท้องทะเลเมื่อไหร่ มันก็เปลี่ยนความหมายไปถึงโจรสลัดในทันที ซึ่งการที่บรรดาเหล่าโจรสลัดนั้นเลือกใช้สัญลักษณ์ของพวกเขาเป็นหัวกะโหลกนั่นก็เพราะว่า มันแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง และ การป้องกัน รวมถึงยังเป็นสัญลักษณ์ของพวกกบฏ และอีกหนึ่งประเพณีวัฒนธรรมที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรอยสักหัวกะโหลกนั่นก็คือประเพณีในช่วงวันแห่งความตายในประเทศเม็กซิโก ซึ่งในวันนั้นหัวกะโหลกจะกลายเป็นสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองให้กับผู้ล่วงลับของคุณที่จากไปแล้วนั่นเอง
และจากการอธิบายข้างต้นคุณก็น่าจะเห็นว่าจริง ๆ แล้วรอยสักกะโหลกนั้นค่อนข้างที่จะมีความหมายที่หลากหลาย ดังนั้นการออกแบบลวดลายของรอยสักกะโหลกนั้นจึงให้ความหมายที่แตกต่างกันเช่นกัน ซึ่งมันก็ไม่ผิดที่หลาย ๆ คนมันจะเลือกเอารอยสักกะโหลกนั้นไปเชื่อมโยงกับความตาย แต่ก็มีหลาย ๆ คนอีกเช่นกันที่นำรูปหัวกะโหลกเรานั้นมาตีความหมาย
และ เป็นการแสดงให้เห็นว่าถึงการไม่กลัวความตายของพวกเขา อีกทั้งบางคนยังใช้รอยสักกะโหลกนี้เป็นเครื่องย้ำเตือนใจว่ามนุษย์เราควรที่จะใช้ชีวิตให้เต็มที่ เพราะเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ความตายจะเข้ามาเยือนตัวเรานั่นเอง
นอกจากนั้นแล้วอีกสิ่งที่หลาย ๆ คนมักจะเข้าใจผิดนั่นก็คือ คนที่มีรอยสักหัวกะโหลกนั้นจะต้องเป็นเพียงผู้ชายเท่านั้น
แต่เปล่าเลยผู้หญิงเองก็สามารถที่จะเอาลวดลายดังกล่าวไปสักได้เช่นกัน และ ในวันนี้เพื่อเป็นการเปิดกว้างทางไอเดียความคิดเราจะขอมาแนะนำรอยสักหัวกะโหลกรูปแบบต่าง ๆ ให้คุณได้ลองเลือกกัน
รอยสักกะโหลกน้ำตาล หรือ Sugar Skull
โดยถ้าพูดชื่อนี้หลาย ๆ คนอาจจะงงว่ามันคืออะไร แต่ถ้าเราบอกว่ามันคือรอยสักหัวกะโหลกในแบบฉบับของเม็กซิโกแล้วหลาย ๆ คนอาจจะต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน โดยอย่างที่เราได้เกริ่นเอาไว้ข้างต้นว่า วันแห่งความตายของประเทศเม็กซิโกนั้นเป็นวันที่ทุกคนจะออกมาเฉลิมฉลองให้กับคนที่เสียชีวิตไป และหัวกะโหลกเองก็ถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในเทศกาลนี้ โดยหัวกะโหลกที่ถูกนำมาเฉลิมฉลองในเทศกาลนี้จะทำมาจากน้ำตาล และ ขนม ซึ่งเพราะการทำวัสดุเหล่านี้นี่เองที่มันทำให้หัวกะโหลกเรานี้สามารถที่จะตกแต่งสีสัน และ รูปแบบต่าง ๆ เพิ่มเติมเข้าไปได้จนมีรูปร่างอันน่าทึ่ง และกลายเป็นที่มาของรอยสักกะโหลกสวย ๆ ที่ประทับใจใครหลาย ๆ คน
รอยสักกะโหลกบริเวณแขน
เราต้องยอมรับจริง ๆ ว่ารอยสักกะโหลกนั้นเป็นรอยสักที่สามารถออกแบบบริเวณแขนได้ง่ายเอามาก ๆ และช่างสักที่มีความสามารถก็สามารถสร้างสรรค์พวกมันออกมาได้อย่างสวยงามเพื่อปกปิดทั้งแขน แถมรอยสักรูปกะโหลกบริเวณนี้นอกจากที่จะสักมันแบบไปแบบเพียว ๆ แล้ว คุณสามารถที่จะเพิ่มเติมรายละเอียดต่าง ๆ เอาไว้ เพื่อให้เข้ากับรอยสัก และสิ่งเหล่านั้นมันจะเป็นส่วนช่วยในการเสริมตัวหัวกะโหลกให้ดูยิ่งใหญ่ขึ้น แต่อย่าลืมนะว่ายิ่งคุณใส่รายละเอียดเยอะเท่าไหร่ รอยสักของคุณก็ต้องใช้เวลานานเท่านั้น
รอยสักแบบกระดูกไขว้
โดยรอยสักนี้ถ้าเรามองด้วยตาเปล่าแล้ว รอยสักชนิดนี้อาจจะเป็นรอยสักที่ค่อนข้างชวนขนลุกไปสักหน่อย แต่ถึงมันจะดูน่ากลัวขนาดไหนก็ตามแต่ในเวลาเดียวกันมันก็ให้อารมณ์ความรู้สึกที่เท่ไม่ใช่หยอกเลยอีกด้วย โดยสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการสักรอยสักกะโหลกแบบนี้นั่นก็คือตำแหน่งการวางหัวกะโหลก และ สิ่งที่จะนำมาไขว้เอาไว้นั่นเอง ซึ่งเพราะหลาย ๆ สิ่งที่รวมกันนั่นเองจึงทำให้คุณสามารถที่จะดีไซน์ทั้ง 2 สิ่งนี้ได้อย่างอิสระและสามารถใช้ไอเดียของคุณได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเพราะการที่มันสามารถปลดปล่อยไอเดียของคุณโดยสมบูรณ์มันจึงกลายเป็นรอยสักกะโหลกอีกรูปแบบหนึ่งที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ เพราะมันสามารถบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้ดีที่สุดนั่นเอง
ตำแหน่งไหนดีที่รอยสักกะโหลกวควรอยู่บนร่างกาย ?
อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะต้องพิจารณาให้ดีก่อนเป็นปัจจัยแรก ๆ นอกเหนือจากรอยสักของคุณนั่นก็คือตำแหน่งบนร่างกายนั่นเอง เพราะว่าต่อให้รอยสักกะโหลกของคุณจะสวยงามขนาดไหน แต่ถ้ามันถูกดีไซน์ออกมาไม่เข้ากับตำแหน่งที่คุณจะสักแล้วละก็ รอยสักนั้นก็จะพังไม่เป็นท่าในทันที แต่สำหรับคนที่เลือกสักรอยสักกะโหลกนั้นถือได้ว่าเป็นโชคดี เพราะรอยสักประเภทนี้มันสามารถที่จะวางบนส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างลงตัวไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแขน หรือ ไหล่ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ผู้ชายชื่นชอบและมักจะสักกัน หรือถ้าเป็นผู้หญิงบางทีรอยสักกะโหลกนั้นอาจจะเหมาะกับส่วนสะโพก หลัง หน้าอก หรือ บางคนก็อาจจะสักที่บริเวณต้นคอก็เป็นไปได้
รอยสักกะโหลกบริเวณไหล่ และ หน้าอก
แต่ถ้าหากถามว่าตำแหน่งไหนที่รอยสักหัวกะโหลกสามารถแสดงความเป็นตัวมันเองออกมาได้โดดเด่นมากที่สุด เราขอแนะนำว่าให้คุณวางไว้บริเวณไหล่ เพราะว่าบริเวณนี้มันถือได้ว่าเป็นตำแหน่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย แถมถ้าคุณเลือกที่จะวางไว้ตำแหน่งนี้มันจะทำให้คุณสามารถจะควบคุมบริเวณพื้นที่ของผิวสัมผัสของรอยสักกะโหลกของคุณได้อีกด้วย
และถึงแม้ว่าการสักบริเวณไหล่นั้นจะเป็นตำแหน่งที่ดีสุดก็จริงแต่ทว่าในตำแหน่งอื่น ๆ รอยสักกะโหลกก็ยังสามารถที่จะสร้างความสวยงามให้ร่างกายของคุณได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นหน้าอก โดยมันถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีเพราะว่าหน้าอกนั้นเป็นส่วนใหญ่ของร่างกายที่มีพื้นที่มากที่สุด และเพราะพื้นที่กว้างเหล่านี้นี่แหละจึงทำให้คุณสามารถที่จะดีไซน์เพิ่มรายละเอียดต่าง ๆ เข้าไปได้อย่างมากมายตามที่คุณต้องการนั่นเอง
และนี่ก็คือเรื่องราวของรอยสักหัวกะโหลกกับการออกแบบและความหมายที่มีซ่อนอยู่ รวมถึงวิธีการจัดวางองค์ประกอบให้พวกมันออกมาดูโดดเด่นนั่นเอง ซึ่งเราก็หวังอย่างยิ่งว่าใครที่ได้อ่านบทความนี้ไปแล้วมันจะทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสักรอยสักรูปแบบนี้ให้กับคุณ