ทำความเข้าใจกับการลบรอยสัก

สิ่งที่ทำให้รอยสักกลายเป็นศิลปะที่มีความโดดเด่นแตกต่างจากศิลปะแขนงอื่น ๆ นั่นก็เพราะ งานศิลปะอื่น ๆ จะใช้การสร้างสรรค์ลงบนหรือกระดาษ หรือ ผืนผ้าใบ แต่สำหรับศิลปะรอยสักนั้นการสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ นั้นจะถูกสร้างสรรค์ลงบนร่างกายของเรา และเมื่อมักถูกจารึกบนร่างกายของเราแล้ว มันเลยทำผลงานนั้นติดแน่นอยู่กับร่างกายของเราไปอีกนาน 

แต่ก็ใช้ว่าการสร้างสรรค์ผลงานบนร่างกายของมนุษย์เราในแต่ละครั้งจะกลายเป็นที่ถูกใจของคนทุกคน เพราะแม้ว่าคุณจะคิดมาดีแล้วก็ตามว่ารอยสักนี้เหมาะกับตัวเอง แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยนไปความสวยงาม หรือ คุณค่าของรอยสักตรงนั้นอาจจะเปลี่ยนไปเช่นกัน  และนั่นยังรวมไปถึงการที่รอยสักที่คุณคาดหวังเอาไว้ไม่ออกมาสวยงามตามที่ต้องการอีกด้วย และนั่นเองจึงทำให้เกิดอีกหนึ่งเทคโนโลยีขึ้นควบคู่กับรอยสักนั่นก็คือ การลบรอยสัก

แต่การจะลบรอยสักนั้นใช่ว่าจะทำกันง่าย เพราะว่าหากผู้ที่ลบรอยสักไม่เชี่ยวชาญพอมันก็อาจจะเกิดอันตรายได้ ดังนั้นเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับคนที่เคยตัดสินใจผิดพลาด ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงจะขอพาทุก ๆ คนไปทำความเข้าใจกับการลบรอยสัก กัน ซึ่งจะมีอะไรให้เราต้องเรียนรู้กันบ้าง เอาเป็นว่า เรามาเริ่มเรื่องราวในครั้งนี้กันเลยดีกว่า

วิธีการเลือกคลีนิกสำหรับการลบรอยสัก

การลบรอยสักนั้นจริง ๆ แล้วในสมัยอดีตนั้นถือได้ว่ามีค่อนข้างหลายวิธีเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น การศัลยกรรมผ่าตัดเพื่อลบรอยสัก  หรือการศัลยกรรมขัดผิวหนัง แต่ถ้าจะถามว่าวิธีไหนที่ได้ความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันก็คงจะหนีไม่พ้นการใช้แสงเลเซอร์ในการลบรอยสัก 

โดยในปัจจุบันก็มีร้านที่ใช้แสงเลเซอร์ในการลบรอยสักมากมาย ดังนั้นเราจึงอยากให้คุณทำความเข้าใจกันก่อนว่า แม้แต่ละร้านจะใช้แสงเลเซอร์ในการลบรอยสักเหมือนกัน แต่ทว่าชนิดของเลเซอร์ที่ใช้ในการลบนั้นไม่เหมือนกัน โดยในปัจจุบันแสงเลเซอร์ที่ใช้ในการลบรอยสักจะมีอยู่ 3 แบบด้วยกันนั่นก็คือ เลเซอร์ทับทิม, เลเซอร์เอ็นดีแย็ก และ เลเซอร์พิโคเวย์ 

Ruby Laser

โดยถ้าเป็นประเทศไทยเรา เราจะรู้จักเจ้าเลเซอร์ชนิดนี้ในชื่อว่า เลเซอร์ทับทิม โดยสาเหตุที่ทำให้มันมีชื่อเรียกแบบนี้นั่นก็เพราะว่า แสงเลเซอร์ที่ถูกผลิตออกมาจะอยู่ในรูปแบบของแท่งทรงกระบอก หรือก็คือ ผลึกทับทิม โดยเจ้าเลเซอร์ชนิดนี้จะมีความยาวของคลื่นอยู่ที่ 694 นาโนเมตร จึงทำให้มันค่อนข้างเหมาะสมกับการักษาเม็ดสีเมลานินบนผิวหนังที่เป็นสีดำ 

เช่น ปาน และ รอยสักต่าง ๆ แต่ทว่าหากเปรียบเทียบกับแสงเลเซอร์ชนิดอื่น ๆ เลเซอร์ชนิดนี้จะมีประสิทธิภาพในการรักษาน้อยที่สุด 

ND – YAG Laser

โดยเจ้าเลอเซอร์ชนิดนี้มีชื่อเต็ม ๆ ว่า Neodymium Doped – Yttrium Aluminum Garnet หรือหลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันในชื่อ Q – Switch Laser โดยเจ้าเลเซอร์ชนิดนี้จะมีระยะการหน่วงเวลาในการกำจัดเม็ดสีแบ่งออกเป็น 2 แบบนั้นก็คือ ความยาวคลื่น 532 นาโนเมตร ซึ่งระยะคลื่นนี้จะสามารถกำจัดเม็ดสีได้เพียงแค่ชั้นผิวหนังตื้น ๆ เท่านั้น จึงทำให้มันมักจะถูกนำมาใช้รักษา ฝ้า หรือ กระ

ส่วนอีกชนิดหนึ่งจะมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1,064 นาโนเมตร ซึ่งความยาวคลื่นนี้นี่เองที่ทำให้มันเหมาะสมที่จะนำมารักษาพวกเม็ดสีที่ฝังลงลึกอยู่ในชั้นผิวหนังเช่นรอยสัก หรือ แผลเป็น

PicoWay Laser

ในบางครั้งเลเซอร์ชนิดนี้จะถูกเรียกว่า Picosecond Laser ซึ่งมันจะทำการปล่อยแสงเลเซอร์ในการกำจัดเม็ดสี หรือ หมึกดำที่ใช่สำหรับการสักในระยะเวลาที่สั้นกว่า ND – YAG Laser มากถึง 1,000 เท่าเลยทีเดียว และนั่นเองจึงทำให้เม็ดสีที่เกิดจากหมึกสักซึ่งฝังอยู่ในร่างกายแตกตัวง่ายขึ้นกว่าเดิม และเมื่อมันสามารถขจัดเม็ดสีให้มีอนุภาคเล็กลงได้ มันจึงทำให้รอยสักนั้นสามารถจางลงได้เร็วกว่า 2 เลเซอร์ข้างต้น

เลือกคลินิกลบรอยสักที่มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

หลังจากที่เราเรียนรู้เลเซอร์ในการลบรอยสักทั้ง 3 ชนิดไปแล้ว ปัจจัยในการเลือกร้านลบรอยสักอีกอย่างหนึ่งที่คุณควรคิดถึงนั่นก็คือการหาร้านที่มีทีมลบรอยสักที่ชำนาญจริง ๆ เนื่องจากการลบรอยสักด้วยเลเซอร์นั้นจำเป็นที่จะต้องอาศัยคนที่มีความรู้ ความชำนาญในแบบเฉพาะทาง เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างถูกต้อง

โดยผู้เชี่ยวชาญจะวิเคราะห์สภาพผิวของเรา และ รอยสัก ก่อนที่จะเริ่มทำการลบรอยสักนั้น ๆ นอกจากนั้นแล้วอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กับผู้เชี่ยวชาญเลยนั่นก็คือ การมีเครื่องมือการแพทย์ที่ได้มาตรฐานสากล และ มีความทันสมัย โดยสิ่งนี้ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างความมั่นใจ และ ความเชื่อมั่นให้กับคนที่มาใช้บริการ

เลือกคลินิกที่มีราคาเหมาะสม และ คุณภาพกับตัวคุณ

เรียกว่าเศรษฐกิจยุคนี้จะทำ หรือ จะลงทุนอะไรสักอย่าง มันก็ต้องตามมาด้วยค่าใช้จ่าย ดังนั้นปัจจัยนี้จึงถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของใครหลาย ๆ คน ซึ่งบางครั้งบริการที่แพงก็ไม่ได้ดีเสมอไป เช่นเดียวกันค่าบริการที่ถูกก็ไม่ได้แย่ไปซะหมด ดังนั้นก่อนที่คุณจะเริ่มลบรอยสักที่คลินิกแห่งไหน คุณลองเข้าไปสอบถามถึงอัตราค่าบริการที่ร้านด้วยตนเอง เพื่อประเมินว่าสถานที่แห่งนั้นมีเครื่องมือในการให้บริการเราครบถ้วน หรือ พนักงานเอาใจใส่ และ ดูแลเราดีมากน้อยแค่ไหน

ซึ่งถ้าคุณเข้าไปประเมินด้วยสายตาของคุณเองแล้วคุณรู้สึกประทับใจ เราเชื่อว่าต่อให้ราคาในการลบรอยสักมันอาจจะแพงเกินไปสักนิด แต่คุณก็ยินดีที่จะมาใช้บริการอย่างแน่นอน

แต่นี่ยังเป็นเพียงแค่เบื้องต้นในสำหรับการทำความเข้าใจกับการลบรอยสักเท่านั้น เพราะว่าเรายังเตรียมแนะนำสถานที่

ในการลบรอยสักดี ๆ ให้คุณไว้อีกเพียบ ซึ่งมันจะมีร้านไหนบ้าง เอาไว้เดี๋ยวเราค่อยมาติดตามกันต่อในบทความหน้า