อีกหนึ่งรอยสักที่เป็นรอยสักซึ่งค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะทาง และเป็นรอยสักที่ค่อนข้างมีความสวยงาม และ มีมนต์คลังอย่างมากรอยสักหนึ่งของโลกก็คงจะหนีไม่พ้นรอยสักญี่ปุ่น แต่ถึงแม้ว่ารอยสักรูปแบบนี้จะเป็นสิ่งที่คนที่ชื่นชอบรอยสักเกือบทั่วทั้งโลกนั้นหลงใหลก็ตาม แต่ทว่าในสังคมของประเทศญี่ปุ่นนั้นกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะว่าเรื่องของรอยสักญี่ปุ่นนั้นค่อนข้างที่จะเหมือนกับรอยด่างพร้อยทางสังคม ซึ่งทางเราได้เคยเล่าเรื่องราวจุดเริ่มต้นของรอยสักญี่ปุ่นกันไปแล้วในเนื้อหาส่วนแรก ซึ่งถ้าใครยังไม่เคยอ่าน คุณสามารถที่จะย้อนกลับไปอ่านเรื่องราวนั้นก่อนได้เพื่อทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ส่วนสำหรับใครที่ได้อ่านมาแล้ว ตอนนี้ก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะทำความเข้าใจในเรื่องราวของรอยสักญี่ปุ่นกันต่อ
ซึ่งหลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นได้ทำการตัดสินใจเปิดประเทศแล้ว แทนที่รอยสักญี่ปุ่นจะกลายเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตา กลับกลายเป็นทางทางรัฐบาลกลับออกกฏหมายห้ามสักขึ้นมาในปี 1871 แต่ถึงแม้ว่าจะมีคำสั่งห้ามสักออกมาแบบนี้ก็ตาม บรรดาเหล่าหญิงสาวชาวไอนุหลาย ๆ คนก็คงสักแบบลับ ๆ เนื่องจากพวกเธอเองนั้นก็ยังมีความเชื่อว่าการสักนั้นมีความสำคัญทางจิตวิญญาณ
โดยในโอกินาวานั้นการสักลายนั้นถือได้ว่าเป็นประเพณีของผู้หญิงส่วนใหญ่
โดยรอยสักของที่นี่จะถูกเรียกว่า ฮาจิจิ โดยลายสักนั้นจะถูกใช้ไปในทางเครื่องลางของขลัง และเชื่อมโยงไปกับทางหมอผีผู้หญิง และนั่นเองจึงทำให้ในตอนนั้นชุมชนของโอกินาวาตอนนั้นเป็นชุมชนที่ยังคงยึดถืออำนาจปกครองของตัวเอง มากกว่าที่จะยอมฟังกฏจากแผ่นดินใหญ่
แต่แน่นอนว่าเมื่อมีคนแข็งข้อตัวของแผ่นดินใหญ่เองก็ไม่มีทางยอมเช่นกัน โดยทางโตเกียวได้เริ่มเข้ามาปราบปราม และ จัดระเบียบเมืองโอกินาว่าใหม่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2442 ลากยาวไปจนถึง พ.ศ. 2447 และในการกวาล้างครั้งนี้นี่เองที่ทำให้ผู้หญิซึ่งมีรอยสักญี่ปุ่นเกือบ 700 คนถูกจับในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งในการสัก แต่เพราะว่าในตอนนั้นตัวกฎหมายของทางแผ่นดินใหญ่เองก็ยังมีความหละหลวมอยู่มาก ซึ่งทำให้ทางแผ่นดินใหญ่สามารถจับกุมได้เพียง 500 ครั้ง เท่านั้น แต่ถึงแบบนั้นทางตำรวจเองก็ยังคงไม่สนับสนุนการเผยแพร่รอยสักในที่สาธารณะอยู่ดี และเป็นเหตุทให้ช่างสักจำนวนมากถูกจับ และ ริบเครื่องสึก รวมถึงผลงานต่าง ๆ ของเขา และเพราะการจับกุมอย่างหนักนี่เองที่ทำให้การสักนั้นกลายนเป็นศาสตร์ที่ต้องหลบ ๆ ซ่อน
แต่แล้วทุกอย่างของรอยสักญี่ปุ่นก็ได้เปลี่ยนไป หลังจากที่ประเทศญี่ปุ่นนั้นถูกยึดครองโดยกองกำลังของอเมริกาในสงครามโลกครั้งที่ 2 และนั่นเองก็ทำให้เกิดการฟื้นฟูเรื่อศิลปะอีกครั้ง แถมในครั้งนี้ยังมีการแทรกแซงจากอเมริก และ นั่นก็เหมือนกับการเปิดโลกอย่างแท้จริง เพราะมันเหมือนกับการช่วยชี้ถูกผิดให้กับศิลปะแนวนี้ในดินแดนญี่ปุ่น
ช่างสักที่สามารถสร้างรอยสักญี่ปุ่นหลาย ๆ คนได้รับอนุญาตให้ทำงานได้อย่างภาคภูมิโดยไม่ต้องถูกจับ
หรือ ถูกฟ้องร้อง และนั่นเองก็ทำให้ช่างสักหลาย ๆ คนได้สร้างสรรค์ผลงานศิลปะอันเก่าแก่นี้ให้กับชาวอเมริกันในช่วงฟื้นฟูสงคราม ซึ่งนั่นเองก็เป็นช่วงจังหวะเดียวกับการที่เกิดลายสักแนวโอ สคูล อันโด่งดังในอเมริการพอดี จึงทำให้ช่างสักได้รับอนุญาตให้ทำงานได้โดยไม่ต้องกลัวการฟ้องร้อง และช่างสักในญี่ปุ่นก็ได้รังสรรค์งานศิลปะเก่าแก่นี้ ให้กับชาวอเมริกันในช่วงฟื้นฟูหลังสงครามเช่นกัน ในช่วงเวลานี้แหละ ที่ทำให้เกิดความโด่งดังของลายสักแนวโอสคูลขึ้นในสหรัฐอเมริกา
แต่ถึงจะได้รับความนิยมที่แพร่หลายขึ้นแต่ทว่ารอยสักญี่ปุ่นนั้นกลับถูกตีราคาต่ำเกินกว่ารายละเอียดต่าง ๆ ของมัน แต่รอยสักต่าง ๆ เหล่านี้บรรดาเหล่ายากูซ่าซึ่งเปรียบเสมือนกับเป็นตัวแทนของรอยสักญี่ปุ่นเหล่านี้กลับให้ความสนใจลดลง แต่ในทางกลับกันผู้ที่เริ่มหันมานิยมรอยสักญี่ปุ่นเหล่านี้กลับเป็นนักธุรกิจ ผู้บริหาร รวมถึงคนทั่วไป เนื่องจากพวกเขาต้องการที่จะใช้รอยสักญี่ปุ่นเหล่านี้เป็นเหมือนอนุสรณ์สถานสำหรับการสูญเสียเหล่าสมาชิกในครอบครัวนั่นเอง
หลังจากนั้นไม่กี่ปีต่อมาในที่สุดทางประเทศญี่ปุ่นก็ได้ตัดสินประเทศยกเลิกกฎหมายห้ามสักในประเทศ
และนั่นเองจึงทำให้บรรดาเหล่าช่างสักทั้งเก๋าเกมในวงการ รวมถึงเหล่าช่างสักหน้าใหม่ ต่างออกมายืนในพื้นที่ ๆ ควรจะเป็นได้อีกครั้ง โดยพวกเขาตั้งใจที่จะสานต่อประเพณีอันงดงามที่เปรียบเสมือนกับรากเหง้าเผ่าพันธุ์ญี่ปุ่นเอาไว้ และนั่นเองมันก็ถือกำเนิดช่างสักชาวญี่ปุ่นที่เป็นระดับโลกมากมาย จนทำให้รอยสักญี่ปุ่นได้กลายเป็นอีกสิ่งที่ชาวโลกต้องประจักษ์
ซึ่งรอยสักญี่ปุ่นในสมัยใหม่นั้นได้รับการพัฒนามาจากการสักลายที่เรียกว่า irezumi ซึ่งการสักลายประเภทนี้จะมีการใช้อุปกรณ์ที่เป็นสมัยใหม่มากขึ้น รวมถึงแนวคิดทางศิลปะก็ยังค่อนข้างออกแนวสมัยใหม่ จึงทำให้รอยสักญี่ปุ่นในปัจจุบันนี้สามารถที่จะยืนเทียบเคียบกับรอยสักในปัจจุบันได้แม้ว่าจะมีประวัติความเป็นมาค่อนข้างนานแล้วก็ตามที
แต่ถึงแบบนั้นแล้วสีสันของรอยสักญี่ปุ่นในสมัยใหม่นั้นก็ค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างจากลายสักญี่ปุ่นดั่งเดิมเล็กน้อย แต่ถึงแบบนั้นแล้วมันก็คงไว้ด้วยแนวคิดที่แข็งแกร่ง ซึ่งความสวยงาสม และ ดูแข็งแกร่งนี้เองที่มันทำให้ช่างสักจากทางฝั่งยุโรปไม่ใช่น้อยเลยที่เริ่มหันมาสนใจรอยสักญี่ปุ่น
หลังจากที่เราทราบประวัติรอยสักญี่ปุ่นกันแบบลึกซึ่งไปแล้ว ต่อไปเราจะมาดูประเภทของรอยสักญี่ปุ่นกันว่า โดยหนึ่งใน รอยสักญี่ปุ่นที่มีคนพูดถึงเป็นอย่างมากนั่นก็คือ รอยสักญี่ปุ่นสมัยโบราณที่มีชื่อว่า เทโบริ โดยการสักแบบนี้เริ่มต้นขึ้นในสมัยเอโดะระหว่างปี 1603 – 1868 และสืบเนื่องต่อมาเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบัน โดยคำว่า เทโบริ นั้นจะมีความหมายถึง การแกะสลักด้วยมือ ซึ่งมันมาจากการแกะสลักไม้แบบโบราณซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากการสักแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่น
ส่วนถ้าใครจะถามว่ารอยสักญี่ปุ่นแบบเทโบรินั้นเจ็บหรือไม่ คำตอบของช่างสักก็น่าจะเหมือนกันทุกคนนั่นก็คือ มันขึ้นอยู่ที่ว่าจะสักส่วนไหนของร่างกาย แต่ถึงแบบนั้นสิ่งที่รอยสักญี่ปุ่นแบบเทโบรินั้นจะดูโหดร้ายนกว่าการสักแบบอื่น ๆ นั่นก็คือ การสร้างรอยสักแบบเทโบรินั้นจะใช้เวลาในการสักที่ค่อนข้างนาน ซึ่งถ้าเทียบกับการใช้เครื่องมือสักในสมัยปัจจุบันนั้นการสักรอยสักญี่ปุ่นแบบเทโบรินั้นจะกินเวลายาวนานมากกว่า 2 – 4 เท่าเลยทีเดียว และแน่นอนว่าเมื่อใช้ระยะเวลาการสักค่อนข้างนานมันจึงนำพามาซึ่งความเจ็บปวดที่ยาวนานนั่นเอง
นอกจากนั้นยังมีอีกหลาย ๆ คนที่บอกว่าการสักรอยสักญี่ปุ่นแบบเทโบรินั้นมันจะค่อย ๆ เจ็บมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นคนที่คิดจะสักแนวนี้จะต้องทำการแบ่งโครงร่าง และ การลงสีให้ดี ๆ ส่วนจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของการสักแบบนี้ก็คือมันจะได้สีสันที่สดใสมากกว่าการสักแบบเครื่อง และ แผลก็จะหายเร็วกว่า และเพราะสีที่ค่อนข้างคมชัดนี้เองจึงทำให้การสักแบบเทโบรินั้นมักจะนิยมสักในพื้นที่ใหญ่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นสักให้เต็มพื้นที่แขน , ขา หรือ หลังนั่นเอง
ทางด้านเครื่องมือและวิธีการสักรอยสักญี่ปุ่นแบบเทโบริ ส่วนที่น่าสนใจที่สุดก็คือเครื่องมือที่จำเป็นจะต้องใข้งานฝีมือสร้างขึ้นมา ซึ่งแม้ว่ามันจะดูเหมือนเรียบง่ายก็ตามที แต่ทว่าในทุก ๆ ส่วนมัก็ประกอบไปด้วยวิธีการมากมาย โดยเริ่มต้นจากการใช้แท่งไม้ไผ่ขนาดเหมาะมือในการผูกเข็มสักที่ทำจากเหล็กและมัดให้แน่นด้วยเส้นไหม ส่วนน้ำหมึกที่จะใช้ในการสร้างรอยสักก็จะมาจากกระบวนการธรรมชาติทั้งนั้น เช่น สีดำก็จะทำมาจากเปลือกไม้ที่เผาไหม้ นั่นเอง
ส่วนวิธีการสักรอยสักญี่ปุ่นแบบเทโบรินั้นจะมีวิธีการสักอย่างไรนั้นเอาไว้เดี๋ยวเรามาติดตามกันต่อในบทความหน้า tattooexpo09
เกมส์ออนไลน์แนะนำ >>> UFABET เว็บตรง