รอยสักในปัจจุบันนั้นได้กลายเป็นอีกหนึ่งศิลปะแขนงหนึ่งที่กลายเป็นสิ่งที่ฮิตไปทั่วโลก และได้การยอมรับกันอย่างเป็นวงกว้าง และเพราะความสวยงาม และ ลวดลายของมันนี้เองที่เริ่มทำให้มีหลาย ๆ คนฮิต และ นิยมการสักบนร่างกายมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่เพราะศิลปะอันสวยงามเหล่านี้บางทีคุณเองก็ไม่ได้ต้องการที่จะได้ผลงานจากศิลปินเพียงแค่คนเดียว แต่คุณกลับอยากได้ผลงานของศิลปินอีกคนเข้ามาประดับไว้บนร่างกาย แต่ทว่าปัญหาสำคัญของหลาย ๆ คนที่ตัดสินใจในการเลือกเปลี่ยนศิลปินในการสร้างรอยสักนั่นก็คือ รอยสักที่อยู่บนร่างกายนั้นจะดูโดดเด่นแตกต่างกันและมันก็อาจจะไม่ค่อยเข้ากันสักเท่าไหร่นัก ดังนั้นในวงการสักจึงได้มีสิ่งที่เรียกว่าการเชื่อมรอยสักเกิดขึ้นมา
และเมื่อมันเป็นการเชื่อมรอยสักจากแตกต่างศิลปินกันมันจึงทำให้ปัญหาที่หลาย ๆ คนกังวลนั่นก็คือทำอย่างไรให้มันออกมาเนียนมากที่สุด ดังนั้นในครั้งนี้เราจึงพาทุก ๆ คนมาพบกับเรื่องราวของเทคนิคการเชื่อมลายสักแขนให้เนียนจนคนแยกไม่ออกซึ่งเทคนิค และ วิธีต่าง ๆ จะมีอะไรบ้าง เอาเป็นว่า เราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
เคล็ดลับแรกที่เราจะมาแนะนำให้หลาย ๆ คนที่คิดอยากจะเชื่อมรอยสักนั่นก็คือ
ขั้นแรกเราขอให้คุณเลือกดีไซน์ของรอยสักที่จะเชื่อมไม่ต่างกันเกินไป ซึ่งเรื่องนี้เราถือได้ว่าเป็นเรื่องพื้นฐานที่หลาย ๆ คนน่าจะพอทราบกันดีอยู่แล้ว ส่วนอีกหนึ่งเทคนิคนั่นก็คือการใช้ภาพในแนวตั้ง และ ใช้พื้นที่ราบอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นการจะทำแบบนี้เราจึงขอแนะนำให้คุณเริ่มต้นจากรอยสักบริเวณแขนก่อน โดยคุณควรจะเริ่มจากรอยสักเล็ก ๆ ให้ครอบคลุมทั่วแขน และ ค่อย ๆ รวมกันเป็นลายขนาดใหญ่ ซึ่งลักษณะเด่นของการออกแบบรอยสักแบบนี้มันจะทำให้รอยสักทั้งหมดกลายเป็นลวดลายเดียวกัน
เคล็ดลับเชื่อมรอยสักต่ออันต่อมาที่เราอยากจะแนะนั่นก็คือ การเลือกรอยสักเป็นแบบปลอกแขนนั่นเอง โดยเจ้าการสักแบบปลอกแขนนี้มันสามารถทำได้หลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น การสักแบบเต็มแขนนั่นก็คือการสักแบบครอบคลุมทั้งแขน , การสักแบบครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการสักครึ่งแขนด้านบนหรือครึ่งแขนด้านล่าง , การสักค่อนหนึ่งนั่นก็คือการสักหนึ่งในสี่ส่วนของแขน โดยวิธีการแบบนี้มันจะช่วยให้คุณสามารถใช้อิสระในการสร้างสรรค์ เพื่อสร้างตัวตนผ่านงานศิลปะ ผ่านการคิดธีม
การออกแบบ มันจึงทำให้คุณจำเป็นที่จะต้องพูดคุยเรื่องนี้กับช่างสักโดยละเอียด เนื่องจากการเชื่อมรอยสักแบบนี้ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่อยู่พอสมควร
เทคนิคการเชื่อมรอยสักต่อมานั่นก็คือการเลือกช่างสัก โดยขั้นตอนนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่ค่อนข้างสำคัญ เพราะว่าช่างสักแต่ละคนนั้นมีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง และนั่นเองมันก็หมายความว่ามันจะไม่มีช่างสักคนไหนที่จะสามารถวาดงานแบบเดียวกับคนก่อนหน้านี้ได้ ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องเลือกศิลปินที่มีสไตล์ที่คุณชอบมากที่สุด และ ปรึกษาเรื่องเหล่านี้กับพวกเขาเหล่านั้นก่อนว่ามันสามารถสักออกมาให้มีลวดลายไปในทิศทางเดียวกันได้หรือไม่ แต่ถ้าหากคุณต้องการที่จะได้สไตล์ที่แตกต่างกันมากขึ้นแล้ว คุณอาจจะต้องศึกษารอยสักในรูปแบบต่าง ๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิม และ หันไปปรึกษากับศิลปินสไตล์นั้น ๆ
เทคนิคต่อไปในการเชื่อมรอยสักนั่นก็คือการพิจารณาจากโครงสี โดยคุณต้องลองดูก่อนว่าสีใดบนร่างกายของคุณที่จะเชื่อมได้ดูดี และ โดดเด่นที่สุด และเมื่อคุณสามารถที่จะหาคำตอบนั้นได้แล้ว ให้คุณลองพิจารณาการออกแบบจากสีที่คุณเลือก และหลังจากคุณค่อยพิจารณาจากโทนผิวของคุณเป็นสิ่งสำคัญ
เทคนิคเชื่อมรอยสักแบบต่อมานั่นก็คือการเลือกธีม โดยสิ่งแรกที่คุณจะใช้เทคนิคนี้นั่นก็คือการให้คุณคิดถึงสิ่งที่คุณสนใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันเป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับตัวบุคคล ดังนั้นคุณไม่จำเป็นจะต้องไปซีเรียสอะไรกับมันมากนัก และ ขอให้คุณเพลิดเพลิน และ ปล่อยจินตนาการของคุณไปให้สุด และ สนุกกับการเลือกธีมต่าง ๆ เพื่อเชื่อมพวกนั้นเขาเอาไว้ด้วยกัน
เทคนิคเชื่อมรอยสักแบบต่อมานั่นก็คือการ การเลือกลวดลาย โดยศิลปะบางอย่างนั้นมันจะเกิดความสวยงามขึ้นจากการทำซ้ำเรื่อย ๆ ซึ่งคุณสามารถที่จะเอาจินตนาการเหล่านั้นมาดัดแปลงเป็นลวดลายบางอย่างที่มันสามารถเชื่อมต่อกันได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด และ ให้ลวดลายเหล่านั้นเป็นเสมือนสัญลักษณ์บางอย่างที่มีคุณค่าทางจิตใจของคุณ หรือ สิ่งที่คุณหลงใหลก็ได้
ส่วนเคล็ดลับในการเชื่อมรอยสักที่เราถือว่ามันเป็นเรื่องพื้นฐานที่หลาย ๆ คนควรรู้เอาไว้นั่นก็คือ
ส่วนใหญ่แล้วการเชื่อมรอยสักมักจะเกิดขึ้นในบริเวณแขน ดังนั้นเราขอแนะนำให้คุณจินตนาการภาพเหล่านั้นในหัวให้เป็นแนวตั้ง แต่แน่นอนแหละว่าบางทีการจินตนาการของเราก็ฟุ้งจนเกินไป ซึ่งความคิดที่ฟุ้งเกินไปเหล่านี้นี่แหละที่มันจะทำให้รอยสักที่คุณจะตัดสินใจเชื่อมต่อกันมีแต่ความยุ่งเหยิง และ สับสนไปหมด ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณค่อยเพิ่มรอยสักลงไปสักสองสามส่วนบนแขนของคุณก่อน และ หลังจากนั้นคุณค่อยเชื่อมพวกมันให้เต็มแขนในภายหลัง
ส่วนแขนในส่วนที่แบน และ ส่วนด้านใน นั้นเราขอแนะนำให้คุณเอาความคิดอันแสนซับซ้อนใส่ลงไป เพราะว่ามุมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปลายแขนด้านนอก, ลูกหนูด้านใน และแขนด้านนอก นั้นค่อนข้างที่จะเป็นส่วนที่ทำให้คนอื่นสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน แต่มันก็ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องใช้สิ่งเหล่านี้เชื่อมรอยสักทั้งหมด เพราะบางครั้งคุณสามารถใช้ส่วนเหล่านี้ในการเป็นสีกลางเพื่อให้แขนของคุณดูสวยและเต็มขึ้น
เทคนิคเชื่อมรอยสักอีกอย่างหนึ่งที่ค่อนข้างได้ผลดีเลยนั่นก็คือ การสักให้เหมาะกับสรีระร่างกายของคุณนั่นเอง โดยคุณต้องมองสรีระบนร่างกายของคุณให้เหมือนกับกระดาษออกแบบ และ นั่นเองมันจะทำให้ช่างสักที่จะบรรเลงนั้นรู้สึกแน่ใจว่ารอยสักเหล่านั้นจะถูกวาดบนแขนของคุณไปในลักษณะไหน ซึ่งการคิดแบบนี้นั้นมันจะทำให้ตัวของช่างสักสามารถที่จะทำงานได้ง่ายขึ้น และ เมื่อทำการเชื่อมเสร็จแล้ว รอยสักเหล่านั้นมันจะเข้ากันแขนของคุณได้อย่างสวยงามเนื่องจากมีการเตรียมการมาแล้วนั่นเอง
และนอกจากการดูเรื่องของสรีระร่างกายแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่เราอยากให้คุณพิจารณาก่อนนั่นก็คือ สมดุล โดยเราไม่อยากให้คุณใช้แนวคิดเดียวในการเชื่อมรอยสักของคุณมากเกินไป ซึ่งถ้าจะยกให้เห็นภาพก็เช่นการใส่สีเข้ม ๆ ไปในรอยสักของคุณมากเกินไป ซึ่งนั่นมันจะทำให้รอยสักของคุณดูหมองลง และ ดูไม่น่าสนใจ แต่ถ้าเกิดคุณคิดแต่จะใส่สีสันที่สดใสมากเกินไปมันก็อาจจะทำให้รอยสักของคุณไม่ต่างอะไรกับสมุนระบายสีของเด็ก ๆ ชั้นประถม และนั่นเองจึงทำให้คุณจำเป็นที่จะต้องรักษาสมดุลของสีเข้ม และ สีอ่อน รวมถึงรูปแบบที่ซ้อน ผสม กับความเรียบง่าย
เทคนิคเชื่อมรอยสักต่อมานั้นก็คือการเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ซึ่งแน่นอนแหละว่าหลาย ๆ คนอาจจะต้องเพิ่งการหาลวดลายต่าง ๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต แต่การกระทำแบบนั้นมันอาจจะทำให้คุณเริ่มสับสนว่าจริง ๆ แล้วใจลึก ๆ ของคุณนั้นต้องการอะไรกันแน่ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณนึกไว้เสมอว่าแท้จริงแล้วคุณต้องการเชื่อมเพื่อให้มันสื่อถึงอะไร และหลังจากนั้นก็เริ่มทำการพูดคุยกับศิลปินช่างสักให้เสร็จ และการพูดคุยแบบนี้นี่เองที่มันอาจจะกลายเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจที่อาจจะนำพาไปสู่รอยสักอันสมบูรณ์ที่ติดค้างอยู่ในหัวคุณ ดังนั้นเราอยากให้คุณลองเปิดใจพูดคุยกับบรรดาเหล่าช่างสักมืออาชีพให้มากขึ้นเพื่อเทคนิคการเชื่อมลายสักแขนให้เนียนจนคนแยกไม่ออกจะสามารถทำให้คุณประทับใจและเกิดไอเดียรอยสักใหม่ ๆ ขึ้นนั่นเอง