หลาย ๆ คนที่ได้ติดตามข่าวสาร และ บทความต่าง ๆ เกี่ยวกับรอยสักผ่านทางเว็บไซต์ของเราเป็นประจำ เราเชื่อว่าในหลาย ๆ บทความของเราที่เอามานำเสนอนั้นมันมักจะกลายเป็นหนึ่งในแรงบันดาลใจให้หลาย ๆ คนอยากจะลุกขึ้นไปสัมผัสความเจ็บปวดของเข็มสักกันอยู่บ้างไม่มากก็น้อย แต่นอกเหนือจากการหารอยสักสวย ๆ และ ไอเดียดี ๆ ที่เรามักจะแนะนำให้แล้ว
สิ่งที่สำคัญเป็นอันดับต่อมานั่นก็คือ ร้านสัก หรือ สตูดิโอสักต่าง ๆ ที่มันจะสามารถช่วยเนรมิตรอยสักที่คุณต้องการออกมาให้สวย และ งดงามได้นั่นเอง
ซึ่งสตูดิโอ หรือ ร้านสักต่าง ๆ นั่นก็ถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้สักต้องคำนึงถึง ซึ่งหากคุณไปใช้บริการร้านสักที่ไม่ได้คุณภาพ นอกจากจะได้ลายสักออกมาไม่ได้สวยดั่งที่ใจคุณหวังแล้ว บางทีรอยสักของคุณอาจจะเกิดอาการติดเชื้อและส่งผลเสียต่อสุขภาพได้อีกด้วย และในครั้งนี้เราจึงขอเอาใจบรรดาเหล่าคนที่อยู่ในกรุงเทพกันซะหน่อย เพราะว่าในครั้งนี้เราจะแนะนำร้านสักในกรุงเทพที่ใครอยากได้รอยสักดี ๆ ต้องไปโดน กัน
แต่ก่อนที่จะเริ่มอ่านบทความดังกล่าวเราขอบอกว่าจริง ๆ แล้วภายในเว็บไซต์ของเราได้มีการแนะนำร้านสักอื่น ๆ ไปแล้วอย่างมากมาย ซึ่งคุณสามารถใช้คีย์เวิร์ดอย่างร้านสักในกรุงเทพเพื่อค้นหาบทความต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ของเราได้ เพราะว่าร้านสักบางร้านที่เราเคยแนะนำไปก่อนหน้านี้อาจจะเหมาะกับสไตล์ และ อยู่ใกล้บ้านของคุณก็เป็นได้
Inkception
โดยร้านสักร้านนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านสักชื่อดังในกรุงเทพที่มีการเปิดบริการมาอย่างยาวนาน โดยมีช่างสักมากฝีมือประจำอยู่ที่ร้านมากถึง 5 ท่านด้วยกัน แถมแต่ละท่านก็มีความสามารถ และ สไตล์ที่ถนัดแตกต่างกันไป จึงทำให้ร้านนี้สามารถที่จะตอบโจทย์คนสักได้หลากหลายสไตล์ไม่ว่าจะเป็นงานแบบลายเส้นญี่ปุ่น งานสี งานขาวดำ เป็นต้น แถมการเดินทางมายังร้านก็ค่อนข้างง่าย เพราะว่าร้านนั้นตั้งอยู่บริเวณโรงภาพยนตร์ลิโด้ชั้น 2 จึงทำให้คุณสามารถที่จะหนีรถติดด้วยการใช้บริการรถไฟฟ้า BTS แล้วลงที่สถานีสยามได้เลย
ส่วนสำหรับใครที่อยากสักเราขอแนะนำให้คุณจองคิวกับทางร้านล่วงหน้าเป็นเวลาอย่างน้อย 1 อาทิตย์ ซึ่งราคาค่าสักนั้นจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1500 บาท โดยร้านจะเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 14.00 น. ไปจนถึง 22.00 น.
ไกลจักรวาล
ซึ่งร้านนี้จะมีความพิเศษอยู่ที่ในร้านนี้จะมีดีไซเนอร์ 1 ท่าน และ มีศิลปินช่างสักอีก 3 ท่าน โดยช่างสักแต่ละคนเองก็จะมีความถนัดที่แตกต่างกันไป และนั่นเองจึงทำให้ร้านนี้สามารถทำงานได้แบบหลากหลายเช่นเดียวกับร้านอื่น ๆ ส่วนสถานที่ตั้งของร้านนี้อยู่บริเวณซอยลาดพร้าว 23 ซึ่งถ้าหากคุณจะเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนแล้วละก็ คุณสามารถที่จะนั่ง BTS มาลงสถานีหมอชิต แล้วต่อรถไปอีกหน่อย
แต่เพราะฝีมือของ เอก-วันประชา ธิติไพศาล ที่ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเอามาก ๆ ในวงการสักที่ทำให้ใครที่คิดจะมาสักกับร้านนี้ คุณจำเป็นต้องจองล่วงหน้านานสักหน่อย โดยมันอาจจะกินเวลาประมาณ 1 – 2 เดือนเลยทีเดียว แต่นั่นก็ไม่ใช่กับทุกเคส เพราะในบางกรณีที่รอยสักของคุณไม่ได้มีขนาดใหญ่ และ ใช้ดีเทลมาก คุณก็สามารถที่จะ Walk-In เข้าไปได้เลย โดยราคาค่าสักเริ่มต้นจะอยู่ที่ 1000 บาทขึ้นไป ส่วนเวลาทำการของร้านนั้นจะเปิดตั้งแต่วันพุธ – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 15.00 – 20.00 น.
Lone Wolf Studio
โดยร้านนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่โดนใจสายมินิมอลอย่างแน่นอน เพราะว่าสไตล์ที่ร้านนี้ถนัดนั่นก็คือสไตล์ minimalistic แต่ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะพวกเขายังถนัดในงานที่มีการลงลายเส้นที่ค่อนข้างละเอียด รวมถึงงานที่เน้นการใช้ลายเส้นต่าง ๆ อีกด้วย โดยตัวร้านนั้นจะอยู่บริเวณสุขุมวิท 101 หรือ ปุณณวิถีซอย 3 ซึ่งแม้ว่ามันจะค่อนข้างไกลตัวเมืองไปสักหน่อย แต่การเดินทางก็ค่อนข้างสะดวก เพราะคุณสามารถที่จะเดินทางได้ด้วยรถไฟ BTS แล้วลงสถานีปุณณวิถีได้เลย
แต่น่าเสียดายอย่างหนึ่งที่ร้าน Lone Wolf Studio นั้นไม่ได้รับลูกค้าแบบ Walk-In จึงทำให้ใครก็ตามที่อยากจะใช้บริการของทางร้านต้องจองล่วงหน้า แถมเพราะฝีมือช่างสักที่ค่อนข้างดีเอามาก ๆ จึงทำให้คุณอาจจะต้องรอเวลานานเกือบ
1 – 2 เดือนเลยทีเดียว แต่รับรองว่างานสักที่คุณได้มานั้นจะสวยคุ้มค่าแก่การรอคอยแน่นอน ส่วนราคาค่าสักของทางร้านจะเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1000 บาท ซึ่งราคาปรับเปลี่ยนขึ้นอยู่กับความยากง่าย และ ขนาดของตัวงาน ส่วนเวลาทำการของร้านนั้นจะเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00 – 20.00 น.
MIMP Tattoo
ถ้าใครเคยอ่านบทความในเว็บไซต์ของเราที่เล่าเรื่องราวและประวัติของช่างสักคิวทองที่ต้องจองกันข้ามปีอย่างช่างมิ้น –
อานนทร์ พีรนันทปัญญา มาแล้วละก็ ร้านนี้ก็คือร้านของช่างมิ้นที่เราได้เล่าไปนั่นเอง โดยร้านนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่คนค่อนข้างนิยมมาสักเนื่องจากตัวของช่างมิ้นที่มีรางวัลต่าง ๆ การันตี แถมยังมีประสบการณ์อยู่ในวงการสักมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี ซึ่งทางร้านนั้นค่อนข้างเชี่ยวชาญในงานสไตล์ไทย และ ญี่ปุ่น ส่วนสถานที่ตั้งของร้านนั้นจะอยู่ที่ RCA Block C ซึ่งคุณสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวกด้วยสถานีรถไฟฟ้าอย่าง ทองหล่อ
ส่วนสำหรับใครที่ต้องการสักกับร้านนี้เราขอแนะนำให้คุณจองคิวล่วงหน้าเอาไว้จะดีที่สุดโดยหากคุณไม่ได้สักกับช่างมิ้นโดยตรงคุณอาจจะรอเวลาประมาณ 1 – 2 วัน หรือไม่ก็ 1 สัปดาห์ แต่มันก็ขึ้นอยู่กับลวดลายที่คุณเลือกว่ามันมีความยากง่ายขนาดไหน ส่วนตัวร้านจะเปิดตั้งแต่วันอังคาร – วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 15.00 – 21.00 น.
Pumpkin Studio
โดยร้านนี้เป็นสตูดิโอร้านสักอีกหนึ่งร้านที่เปิดให้บริการมาอย่างยาวนาน และ เพียบพร้อมไปด้วยประสบการณ์การสักที่มีไม่ต่ำกว่า 18 ปี โดยภายในร้านจะมีช่างสักประจำอยู่ 2 ท่าน ส่วนงานที่ร้านนี้ถนัดก็จะค่อนข้างหลากหลายไม่ว่าจะเป็น แนวญี่ปุ่น แนวชนเผ่า ส่วนสาว ๆ เองก็สามารถมาใช้บริการร้านนี้ได้เช่นกัน เพราะว่าทางร้านยังถนัดสักงานในสไตล์
มินิมอลอีกด้วย ส่วนทำเลของร้านนั้นก็ถือได้ว่าเป็นทำเลทองที่เดินทางค่อนข้างง่าย เพราะร้านตั้งอยู่ในถนนข้าวสาร
ส่วนใครที่อยากจะมาสักกับร้านนี้คุณสามารถที่จะเดิน walk-in เข้าไปในร้านได้เช่นกัน โดยราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ1500 บาท แต่ทั้งนี้มันก็ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของชิ้นงานที่คุณต้องการ ซึ่งใครที่อยากรู้ว่ารอยสักที่คุณอยากได้นั้นจะมีราคาประมาณเท่าไหร่ คุณก็สามารถที่จะส่งแบบไปให้ทางร้านเพื่อประเมินราคา และ ระบุไซซ์ออกมาคร่าว ๆ ก่อนได้ นอกจากนั้นแล้วคุณสามารถที่จะเข้าไปชมภาพผลงานต่าง ๆ ของร้านได้ผ่านทาง Facebook และ IG ที่รวบรวมผลงานเท่ ๆ เอาไว้มากมาย ส่วนเวลาทำการของร้านนั้นจะเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 12.00 น. ไปจนถึง 22.00 น.
และนี่ก็คือการแนะนำร้านสักในกรุงเทพที่ใครอยากได้รอยสักดี ๆ ต้องไปโดน แต่ทว่าร้านสักที่เราอยากแนะนำให้คุณไปลองยังไม่หมดเพียงเท่านี้เอาไว้เดี๋ยวครั้งหน้าเราจะพาทุก ๆ ไปรู้จักกับร้านสักอื่น ๆ ในกรุงเทพกันอีก