หากเราเอ่ยถึงคำว่าแฟชั่นแล้วละก็ เราเชื่อว่าวสิ่งที่หลาย ๆ คนจะต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ นั่นก็คือ บรรดาเหล่าเสื้อผ้า และ เครื่องแต่งการตั้งศีรษะจรดปลายเท้า แต่ทว่าในปัจจุบันกลับมีอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ใช่เสื้อผ้า แต่กลับถูกเรียกว่าเป็นแฟชั่นเช่นเดียวกันสิ่ง ๆ นั้นก็ตือ สิ่งที่เรียกว่ารอยสัก นั่นเอง โดยในปัจจุบันรอยสักนั้นได้ถูกเรียกว่าเป็นอีกหนึ่งศิลปะประเภทหนึ่งที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานมากว่า 2000 ปี และยิ่งนานวันเข้า รอยสักเหล่านั้นก็ถูกพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนทำให้มีลวดลายที่สวยงามเหมือนดังที่เราเห็นในปัจจุบันนี้ และหนึ่งในรอยสักที่ขึ้นชื่อว่ามีความนิยมมากที่สุดทั้งผู้ชาย และ ผู้หญิง มันก็คงจะหนีไม่พ้น รอยสักดอกไม้
ซึ่งสาเหตที่ทำให้รอยสักดอกไม้ดอกไม้นั้นได้รับความนิยมเพราะว่ารอยสักนี้สามารถสักได้ในหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นแบบมินิมอล หรือ การเต็มสีสันต่าง ๆ ลงไปในลวดลาย นอกจากนั้นแล้วยังมีบรรดาเหล่าดอกไม้อีกหลากหลายพรรณที่สามารถเลือกนำมาสักได้ แต่เพราะความหลากหลายของมันนี้เองที่ทำให้หลาย ๆ คนคิดไม่ตกว่าจะเลือกรอยสักดอกไม้รูปแบบไหนดี ดังนั้นในวันนี้เราจึงจะมาขอเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเลือก ด้วยการอธิบายรอยสักดอกไม้เด็ด ๆ โดน ๆ ที่คุณควรจะมีประดับผิวกันดู
เอาละมาเริ่มกันที่รอยสักดอกไม้ชนิดแรกกันเลยดีกว่า โดยดอกไม้แรกที่เราจะมาพูดถึงกันนั่นก็คือ ดอกกุหลาบ นั่นเอง โดยดอกกกุหลาบนั้นถือได้ว่าเป็นดอกไม่สุดคลาสสิกอีกชนิดหนึ่งที่ถูกนำมาทารังสรรค์เป็นรอยสักอยู่บ่อยครั้ง และ มันยังเป็นรอยสักดอกไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ เพราะว่าดอกกุหลาบเหล่านี้สามารที่จะสักแบบเดี่ยว หรือ แบบเป็นช่อรวมกันก็สวยงามไปคนละแบบ
นอกจากนั้นแล้วดอกกุหลาบยังแป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความรัก
อันแสนโรแมนติก และกลายเป็นตัวแทนเห็นความรักในแบบที่หลาย ๆ คนได้รู้กัน แต่แท้จริงแล้ว รอยสักดอกไม้รูปกุหลาบนั้นยังเป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นถึงความสง่างามอีกด้วย
นอกจากนั้นแล้วดอกกุหลาบในเต่ละเฉดสีนั้นยังมีความหมายต่าง ๆ แฝงเอาไว้อยูด้วย เช่นดอกกุหลาบสีเหลืองจะหมายถึงมิตรภาพและการเริ่มต้นใหม่ , ดอกกุหลาบสีชาวจะหมายถึงความซื่อสัตย์ และ ความรักอันบริสทุธิ์ , กุหลาบสีชมพูนั้นจะหมายถึง ความชื่นชม ความอ่อนโยน และ ความสง่างาม , กุหลาบสีฟ้าจะหมายถึง สิ่งที่ยากจำสำเร็จ และ ดอกกุหลาบสีดำจะสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นนิรันดร์ และเพราะความหลากหลายความหมายของแต่ละเฉดสีนี้เอง จึงทำให้รอยสักดอกไม้ชนิดนี้กลายเป็นที่นิยมแบบไม่ต้องสงสัย
รอยสักดอกไม้ชนิดต่อมานั่นก็คือ รอยสักรูปดอกทานตะวัน โดยดอกทานตะวันนี้ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งดอกไม้คลลาสิกที่มักจะถูกนำมาแต่งแต้มบนร่างกายอยู่บ่อย ๆ เพราะว่าลวดลายของดอกทานตะวันนั้นมีความเฉพาะตัวไม่แพ้กับดอกกุหลาบเลยเช่นกัน แถมสีของดอกทานตะวันกถือได้ว่ามีความสดใส และ ยังคอยหันไปในทิศทางของแสงโดยเสมอ ซึ่งเพราะการหันไปตามทิศทางของแสงนี้เองจึงทำให้ ดอกทานตะวัน นั้นมีความหมายสุดโรแมนติกเกี่ยวกับความรักนั่นก็คือ ไม่ว่าเธอจะไปในทิศทางใดก็ตาม ตัวของผู้สักก็จะเป็นเหมือนกับดอกทานตะวันที่คอยหันมองไปทางคนที่เธอรักเสมอ
ส่วนความหมายรูปแบบของดอกทานตะวันนั้นยังสามารถตีความออกมาได้เป็น ความสุข ความสดใส ความฉลาด รวมถึงอายุที่ยืนยาว ซึ่งความหมายเหล่านี่ก็มาจากพฤติกรรม และลักษณะอันโดดเด่นของดอกทานตะวัน และเพราความหมายดี ๆ แบบนี้นี่เองที่ทำให้คนส่วนใหญ่นิยมอมีรอยสักดอกไม้ชนิดนี้อยู่บนร่างกาย
รอยสักดอกไม้ชนิดต่อมานั่นก็คือ รอยสักรูปดอกเดซี่
โดยดอกไม้ยอดฮิตอีกดอกหนึ่งนอกจาก 2 อันแรกที่เราได้กล่าวไปข้างต้นแล้ว ดอกเดซี่ ก็ถือได้ว่าเป็นอีกดอกไม้หนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งจุดเด่นของดอกไม้ชนิดนี้นั่นก็คือกลีบสีขาวและเกสรข้างในที่เป็นสีเหลืองนั่นเอง โดยพฤติกรรมของดอกไม้ชนิดนี้จะบานเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น และ จะหุบลงเมื่อพระอาทิตย์ตก จนทำให้ในอดีตดอกไม้อย่า ดอกเดซี่นั้นมีฉายาว่า Day’s Eye หรือแปลเป็นภาษาไทยว่า ตาของวัน และหลังจากนั้นคำนี้ก็ค่อย ๆ ถูกกร่อนคำลงมาเรื่อง ๆ จนกลายเป็นตำว่า Daisy
ซึ่งความหมายของ เดซี่ นั้นจะถูกตีความออกมาตามสีของกลีบดอกไม้ เช่น สีฟ้า จะเป็นการสื่อถึงอารมณ์ที่อ่อนไหว , สีแดงจะสื่อถึง ความกล้าหาญ , สีขาวซึ่งเป็นสีเบสิกของดอกไม้ชนิดนี้จะสื่อถึงความไร้เดียงสา ส่วนสีเหลือ จะสือถึงความฉลาด และ กำลังใจ ซึ่งแน่นอนว่าเพราะสีแต่ละชนิดที่ให้ความหมายแตกต่างกันนี่เอง จึงทำให้เจ้าดอกเดซี่กลายเป็นรอยสักดอกไม้ที่มีคนนิยมสักเพื่อบ่งบอกตัวตน ไม่ต่างกับ 2 ดอกไม้แรกที่เราแนะนำไปเลย
รอยสักดอกไม้ชนิดต่อมานั่นก็คือ รอยสักรูปดอกลาเวนเดอร์
โดยดอกลาเวนเดอร์นั้นเป็นดอกไม้สีม่วงที่เราเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเห็นในรอยสักในรูปแบบของความมินิมอลซะส่วนใหญ่ โดยทางยานั้นดอกลาเวนเดอร์นั้นยังมีสรรพคุณในการช่วยให้เกิดความผ่อนคลาย และ ด้วยสรรพคุณทางยานี้เองจึงทำให้ ดอกลาเวนเดอร์นั้นกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสกุข
นอกจากนั้นแล้ว ดอกลาเวนเดอร์ ยังมีอีกหนึ่งความหมายสุดโรแมนติกอีกอย่างหนึ่งนั่นก็คือ ความรัก ความทุ่มเท และ ความบริสุทธิ์ รวมถึงในอดีตยังมีความเชื่อว่าดอกลาเวนเดอร์นั้นยังเป็นดอกไม้ที่ส่งเสริมด้านความรู้ และ สติปัญญารวมถึงความจำอีกด้วย และเพราะเหตุผลดังกล่านี้เองจึงทำให้หลาย ๆ คนเลือกที่จะมีรอยสักดอกไม้ดอกไม้ชนิดนี้ไว้บนร่างกายเพื่อเป็นการบ่งบอกถึงแรงบันดาลใจในเรื่องต่าง ๆ ตามดอกไม้ชนิดนี้
รอยสักดอกไม้ชนิดต่อมานั่นก็คือ รอยสักรูปดอกบัว
โดยดอกบัวนั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งดอกไม้ที่ค่อนข้างจะคุ้นหน้า คุ้นตากับคนไทยเป็นอย่างมาก เพราะว่ามันคือดอกไม้อีกชนิดหนึ่งที่เรามักจะนำมันมาถวายพระ และ เป็นอีกดอกไม้หนึ่งที่อยู่ประจำหิ้งพระเช่นกัน ซึ่งแม้ว่ามันจะดูธรรมะ ธรรมโม ไปเสียหน่อย แต่ว่าดอกบัวก็เป็นอีกหนึ่งดอกไม้ชนิดหนึ่งที่ถูกนำไปเป็นรอยสัก เนื่องจากลักษณะของดอกบัวนั้นมีความสมดุล และ ยังสามารถนำเข้าไปผสมผสานกับความคิดต่าง ๆ ออกมาได้มากมาย
โดยรอยสักดอกไม้รูปดอกบัวนั้นจะสามารถสื่อความหมายได้ถึง ความทุ่มเท ความสมบูรณ์ หรือพัฒนการด้านจิตใจ และ วิญญาณ แถมเฉดสีของดอกบัวก็ยังมีความหมายแฝงอันลึกซึ้งซึ่งสามารถสื่อถึงความสง่างาม และ ความสงบสุขอีกด้วย
ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วรอยสักดอกไม้รูปดอกบัวมักจะถูกนำมาสักบริเวณกลางลำตัว เนื่องจากรอยสักนี้สามารถที่จะดีไซน์บาลานซ์ให้เกิดความสมมาตรโดยไม่เอนเอียงไปทางใด ทางใดหนึ่งนั่นเอง
รอยสักดอกไม้ชนิดต่อมานั่นก็คือ รอยสักรูปดอกคามิลเลีย
โดยดอกคามิเลียนั้นถือได้ว่าเป็นดอกไม้ที่อยู่ในโซนยุโรปซึ่งเป็นเมืองหนาว โดยกลีบดอกของมันจะมีลักษณะอัดแน่นกันจนดูเหมือนกับกระโปรงของเหล่าหญิงสาว ซึ่งแม้ว่าตัวดอกไม้อย่าง
คามิลเลียนั้นจะมีความงดงามก็ตามที แต่ทว่าจริง ๆ แล้วดอกคามิลเนียนั้นเป็นดอกไม้ในตระกูลของชา แต่ด้วยสีสันที่สดใสของมันไม่ว่าจะเป็นสีขาว สีชมพู หรือสีแดง จึงทำให้ดอกไม้เหล่านี้มีเสน่ห์คนทำหลาย ๆ หยิบเอาสีสรรเหล่านั้นมาเป็นรอยสักดอกไม้บนร่างกายของตัวเอง
ส่วนความหมายของดอกคามิลเนียนั่นจะสื่อถึงความปรารถนา ความละเอียดอ่อน และ ความซื่อสัตย์ และก็ยังเหมือนกับดอกไม้หลาย ๆ ดอกที่แต่ละสีต่างก็มีความหมายแตกต่างกันไป เช่น สีแดงนั้นจะมีความหมายถึงความรัก และ ความปรารถนา , สีชมพูหมายถึงความ คิดถึง และ สีขาวนั้นจะสื่อถึงความอันบริสุทธ์ ซึ่งเพราะความหมายและลักษณะดอกที่สวยงามของมันจึงทำให้ดอกคามิลนี้นี้กลายเป็นรอยสักดอกไม้อีกอันหนึ่งที่คนนิยมกันนั่นเอง
แต่ว่าเรื่องราวและความหมายของรอยสักดอกไม้ดี ๆ ที่เราจะมาแนะนำกันยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ เดี๋ยวเอาไว้ครั้งหน้าเราจะพาทุก ๆ ไปรู้จักกับเรื่องราวของรอยสักดอกไม้ดีกัน ๆ อีก ซึ่งจะมีดอกไม้อะไรอีกบ้าง คุณต้องติดตามเว็บไซต์ของเรากันไว้ให้ดี ๆ