หากพูดถึงสมัยก่อนแล้วรอยสักที่มักจะปรากฏอยู่ตามหน้าประวัติศาสตร์ต่าง ๆ นั้นแม้ว่าจะมีลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ และ ความเฉพาะแตกต่างกันไปตามแต่พื้นที่ของแต่ละประเทศ แต่ทว่าลวดลายเหล่านั้นที่ปรากฏขึ้นในประวัติศาสตร์กลับมีสิ่งสิ่ง หนึ่งที่เป็นจุดเชื่อมโยงเหมือนกัน โดยสิ่งนั้นก็ สี นั่นเอง เพราะว่าในสมัยก่อนนั้นยังไม่ได้สีสังเคราะห์ต่าง ๆ ทำให้รอยสักที่เรามักจะพบเห็นนั้นจะเป็นสีดำนั่นเอง แต่ทว่าเมื่อวิทยาการมนุษย์นั้นก้าวหน้าขึ้นรอยสักต่าง ๆ จึงได้เริ่มมีสีสันมากขึ้น จนทำให้เกิดการเล่นลวดลายต่าง ๆ ซึ่งในครั้งนี้เราจะขอพาทุก ๆ คนไปกับ Kajsa Franzén ช่างสักหญิงกับนิยามการสร้างสีสันอันสดใส ของเธอ ซึ่งเรื่องราวของเธอนั้นจะเป็นมาเป็นไปอย่างเรา เอาเป็นว่าเราไปเริ่มกันเลยดีกว่า
จุดเริ่มต้นของ Kajsa Franzén
Kajsa Franzén เธอเกิดและเติบโตอยู่ในเมืองที่มีชื่อ อูบุด ประเทศสวีเดน ซึ่งในตอนนั้นตัวของเธอได้มีสตูดิโอสำหรับการสักที่มีชื่อว่าRed Rose Tattoo ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2560 แต่หลังจากที่เธอทำงานอยู่ได้สักระยะหนึ่งเธอก็ได้ตัดสินใจย้ายออกจากประเทศสวีเดิน ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังบาหลีเพื่อไปเริ่มต้นการเป็นช่างสักที่นั่น โดยตัวของเธอนั้นมีประสบในวงการสักมาอย่างยาวนานถึง 12 ปี และถ้าหากรวมในช่วงเวลาที่เธอยังเป็นเพียงแค่เด็กฝึกงานด้วย เธอก็มีประสบการณ์ในวงการนี้มาอย่างยาวนานถึง 14 ปีแล้วด้วยกัน
สิ่งที่ทำให้ตัวของ Kajsa Franzén อยากเริ่มเป็นช่างสักนั่นก็เพราะว่า ในตอนนั้นตัวของเธอต้องการที่จะหาเลี้ยงชีพด้วยงานสร้างสรรค์ แต่ในช่วงเวลา 2549 ที่เธอเริ่มมีแรงบันดาลใจนั้นกลับไม่ได้มีช่างสักผู้หญิงมากเท่าไหร่นัก ซึ่งการไม่ค่อยมีช่างสักผู้หญิงนี้เองที่มันเริ่มทำให้ตัวของเธอไม่แน่ใจว่าจะทำได้หรือไม่ แต่ก็โชคดีที่เธอไม่ได้ถอดใจไปเสียก่อน เพราะว่าตัวของเธอนั้นรู้ตัวว่าลึก ๆ แล้วเธอต้องการมันจริง ๆ จนทำให้ในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเข้าสู่วงการสัก และการเข้าสู่วงการนี้นี่เองที่มันทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเพราะว่าตัวของเธอได้กลายเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของการเคลื่อนไหวของศิลปินหญิง แม้ว่าเธอจะต้องผ่านการดูถูกจากบรรดาเหล่าศิลปินชายหลาย ๆ คน
พื้นฐานของ Kajsa Franzén
ตัวของ Kajsa Franzén เองก็ไม่ได้มีพื้นฐานด้านศิลปะมาตั้งแต่แรกถึงแม้ว่าบรรดารอบตัวของเธอนั้นจะรายล้อมไปด้วยคนที่มีพื้นฐานทางศิลปะมากมายไม่ว่าจะเป็น จิตรกร ครูสอนศิลปะ ประติมากร แต่ถึงเธอจะไม่มีพื้นฐานเท่ากับคนอื่น ๆ แต่คนที่รายล้อมตัวเธอนี่แหละที่กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เธอ
ทางด้านสไตล์ของ Kajsa Franzén มันเป็นอะไรที่ค่อนข้างอธิบายยากเนื่องจาก เธอนั้นไม่ทำงานเพียงแค่รูปแบบเดียว แต่เธอได้บอกว่ารากฐานเดิมของเธอนั้นมาจากการสักแนว Old School เนื่องจากมันเป็นการผสมผสานของสี และ รูปร่าง ที่มีรายละเอียดอันสดใส แถมในบางครั้งตัวของเธอเองก็ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงเรขาคณิต นอกจากนั้นแล้วยังมีการผสมผสานสไตล์ที่เรียกว่า Neo traditional เข้าไปด้วย ซึ่งเพราะการผสมผสานที่ค่อนข้างแปลกแต่รวมออกมาแล้วโดดเด่นแบบสุด ๆ นี่แหละที่ทำให้นิตยสารเกี่ยวกับวงการสักที่ได้ทำการสัมภาษณ์เธอต่างนิยายสไตล์สักของเธอเอาไว้ว่า มันคือ ลายสักโอสคูลแบบนุ่มนวล
แรงบันดาลของ Kajsa Franzén
ส่วนแรงบันดาลใจในรอยสักต่าง ๆ ของตัว Kajsa Franzén ส่วนใหญ่มันจะมาจากธรรมชาติ สัตว์ และ จักรวาล เนื่องจากตัวของเธอนั้นชอบทำกิจกรรมอย่างนั่งสมาธิ และ เล่นโยคะ มันจึงทำให้แรงบันดาลใจของผลงานส่วนใหญ่มาจากภายในตัวเธอเอง แถมลวดลาย และ สีสันที่เราได้เห็นผ่านรอยสักต่าง ๆ นั้น มันยังมาจากสีที่เธอเห็นในตอนที่เธอนั่งสมาธิ นอกจากนั้นตัวของเธอเองก็ยังได้รับแรงบันดาลใจมาจากศิลปินอีกหลากหลายคน
นอกจากนั้นเครื่องมือสำหรับทำการสักก็มีมากมาย และ ช่วยอำนวยความสะดวกสบายมากขึ้น นั่นแหละจึงกลายเป็นเรื่องที่ทำให้ช่างสักหลาย ๆ คนสามารถที่จะเนรมิตผลงานสไตล์ที่ตัวเองชอบได้ แถมในช่วงที่เธออยู่ที่บาหลีนี้ เธอยังได้รู้จักกับบรรดาเหล่าช่างสักแบบดั้งเดิมหลายคน และ นั่นก็ทำเธอรู้สึกชื่นชมวิธีการสักแบบดั้งเดิมเป็นอย่างมาก
สไตล์การสักที่ไม่เหมือนใครของ Kajsa Franzén
สไตล์การสักของ Kajsa Franzén ที่ทำให้ลูกค้าหลาย ๆ คนติดใจนั่นก็คือ เธอนั้นจะเป็นคนที่กำหนดทิศทางของเธอเอง โดยลูกค้าของเธอนั้นจะไม่ได้เห็นการออกแบบลวดลายจากเธอเลยจนกว่ามันจะถึงวันสัก และวิธีการทำงานแบบนี้ของเธอนี่เองจึงทำให้เธอมักจะใช้ความลื่นไหล และ การออกแบบตามแนวคิด รวมถึงการเลือกสีตามอารมณ์ของเธอ และเพราะการเลือกสีตามอารมณ์ของเธอนี่แหละจึงทำให้เธอมักจะเลือกใช้สีสันที่มีความคมชัดทั้งรูปแบบ และ รายละเอียด ซึ่งสิ่งเหล่านั้นมันมาจากหลาย ๆ อย่างที่อยู่ภาย
ในจิตของเธอ
อดีตที่ค่อนข้างเลวร้ายต่อวงการสักของ Kajsa Franzén
Kajsa Franzén ได้แสดงความคิดเห็นถึงทิศทางของเธอในวงการสักที่ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2549 ซึ่งในตอนนี้มีศิลปินสักที่เป็นผู้หญิงไม่มากนักในเมืองที่เธอเกิดทั้ง ๆ ที่มันเป็นเมืองใหญ่อันดับที่ 2 ของประเทศ โดยในตอนนั้นมีช่างสักผู้หญิง
4 – 5 ในจำนวนผู้ชายทั้งหมด 80 คน จนกระทั้งตัวของเธอก็ได้รู้จักกับช่างสักหญิงคนหนึ่งเข้า ซึ่งสิ่งที่เธอได้รับจากการพูดคุยกับช่างสักหญิงคนนั้นก็คือ การเป็นเด็กผู้หญิงในธุรกิจการสักนั้น คุณจะต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งมั่นคง และยังต้องทำงานหนักกว่าคนอื่นเป็น 10 เท่า
ซึ่งตัวของ Kajsa Franzén ก็ไม่ได้มองว่าเวอร์เกินจริงแต่อย่างใด เพราะทันทีที่เธอก้าวเท้าเข้ามาสู่วงการสัก เธอก็ต้องพบว่าหลาย ๆ ครั้งว่าตัวเธอไม่ดีพอที่จะอยู่ในวงการนี้ แถมยังมีการรังแกด้วยการหลอกให้เธอดูแย่ หรือ คำดูถูกมากมาย
ซึ่งครั้งหนึ่งเธอก็เคยถูกกลั่นแกล้ง โดยในตอนนั้นเธอเคยทำงานอยู่คนเดียวในร้าน และระหว่างที่อาจารย์สักของเธอไม่สบาย ปรากฏว่าดันมีเพื่อร่วมงานของเธอแนะนำให้เธอใช้หมึกสักสีดำชนิดหนึ่งเพื่อใช้สำหรับการเดินเส้น แต่ปรากฏว่าเมื่อเธอลองทำตามกลับกลายเป็นว่าสีดำนั้นมันติดผิวหนังเร็วมาก จนทำให้เธอตื่นตระหนก และกลายเป็นฝันร้ายของเธอในทันที
จังหวะนั้นเอง เพื่อนที่แนะนำเธอเอาไว้ก็เข้ามาขโมยลูกค้าทันที พร้อมกับบอกว่าตัวของเธอไม่เก่งพอ
นอกจากนั้นตัวของ Kajsa Franzén ยังเคยถูกช่างสักชายคนหนึ่งแสดงความเห็นผ่านทาง Facebook ของเธอว่า ฝีมือของเธอนั้นยังไม่ถึงขั้นพอ และ ควรจะหยุดเส้นทางการสักเอาไว้เท่านี้
ประสบการณ์เลวร้ายสอนให้ Kajsa Franzén แข็งแกร่งขึ้น
ประสบการณ์อันเลวร้ายดังกล่าวนี้เองที่มันได้นำพาให้ตัวของ Kajsa Franzén ตัดสินใจมาเปิดร้านที่มีชื่อว่า
Red Rose Tattoo ซึ่งร้านนี้เป็นร้านของศิลปินหญิง และ แห่งแรกในสวีเดน โดยเธอต้องการแสดงออกถึงพื้นที่ของผู้หญิงที่ไม่ได้มีเรื่องตลกทางเพศ และ ไม่ได้ต้องการให้ศิลปินชายมายั่วยุลูกค้าผู้หญิง นอกจากนั้นเธอยังต้องการให้บรรยากาศของร้านออกมาเป็นแบบสบาย ๆ แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้เรียนรู้ปัญหาว่าสิ่งนั้นมันไม่ได้ติดอยู่แค่ศิลปินชายเท่านั้น เพราะหลังจากที่เธอเปิดร้านมาหลายปี เธอก็ถูกเพื่อนร่วมงานของเธอหักหลัง แต่ถึงจะเจอเรื่องนั้นก็ตาม ตัวของเธอเองก็ยังคงมองว่าเธอยังมีเพื่อนศิลปินหญิงอีกหลาย ๆ คนที่มีทัศนคติที่ดีต่อกัน และ ยังปฏิบัติกันด้วยความเคารพอยู่ และทัศนคติต่าง ๆ เหล่านี้นี่เองที่มันยังหล่อหลอมให้กลายมาเป็น Kajsa Franzén ช่างสักหญิงกับนิยามการสร้างสีสันอันสดใส จนถึงทุกวันนี้นี่เอง