สำหรับใครที่อ่านบทความต่าง ๆ ผ่านทางเว็บไซต์เราอยู่เป็นประจำแล้วละก็ เราเชื่อว่าคุณน่าจะรู้แล้วว่าในปัจจุบันนั้นเรื่องราวของรอยสักนั้นมีการพัฒนามาจากแต่ก่อนมาก โดยมันได้เปลี่ยนแปลงจากเครื่องหมายของคนไม่ดี กลายเป็นแฟชั่นที่ใครหลาย ๆ คนอยากมีอยู่บนร่างกาย นอกจากนั้นแล้วเทคนิคต่าง ๆ ก็มีการพัฒนาขึ้นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการใช้สีต่าง ๆ มาเป็นเส้นโครงร่าง หรือ การใช้สีพิเศษเพื่อทำให้ลวดลายต่าง ๆ ให้สามารถเรืองแสงได้เวลาที่โดนไฟแบล็กไลต์
ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการทำสีให้เรืองแสงได้เป็นอะไรที่สุดยอดมาก ๆ แล้ว และมันก็อาจจะเป็นขั้นสุดของการพัฒนา
รอยสักแล้วก็ว่าได้ แต่ทว่าถ้าคุณกำลังคิดแบบนั้นอยู่ เราบอกเลยว่าคุณคิดผิด เพราะในปัจจุบันเรื่องราวของรอยสักได้ถูกยกระดับเหนือขึ้นไปอีกขั้น โดยรอยสักที่ได้ถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้นนั้นมันมีชื่อว่า SOUNDWAVE TATTOOS รอยสักที่สามารถบันทึกเสียงแห่งความทรงจำ ได้นั่นเอง
มันคงดีไม่ใชน้อยเลยใช่ไหมล่ะถ้าเราสามารถบันทึกเสียงต่าง ๆ ที่เรารักเอาไว้ได้ เพราะเราเชื่อว่าหลาย ๆ คนเองก็ต้องการที่จะบันทึกเสียงที่ทำให้คุณมีความสุขได้ผ่านทางไฟล์สำหรับการบันทึกเสียงต่าง ๆ แต่ในหลาย ๆ ครั้งมันก็มีเหตุที่ทำให้ไฟล์เหล่านั้นไม่สามารถเปิดออกมาใช้ได้อีก หรือ บางทีก็มีคนเผลอลบไฟล์เสียงเหล่านั้นออกไป ดังนั้นมันคงดีกว่าแน่ถ้าเสียงที่คุณอยากจะไปบันทึกเอาไว้ตลอดกาลได้เปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบของรอยสักที่ไม่ทางลบเลือน
ทำความรู้จักกับ SOUNDWAVE TATTOOS
โดยเจ้า SOUNDWAVE TATTOOS นั้นจะเปลี่ยนลายเส้นจากการสักให้เป็นรูปแบบของคลื่นเสียง และมันจะเปลี่ยนให้ร่างกายเป็นเครื่องบันทึกเสียง ซึ่งแนวคิดนี้นับเป็นศิลปะแขนงใหม่ที่สามารถเปลี่ยนเสียงให้กลายเป็นศิลปะบนร่างกายได้
โดยการสักแบบนี้มันได้เปลี่ยนมิติแห่งการสักไปอย่างสิ้นเชิง เพราะว่ามันเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่ความทรงจำของคุณด้วยการผสมรวมระหว่างแนวคิดของศิลปะและเทคโนโลยี แถมเจ้ารอยสัก SOUNDWAVE TATTOOS ยังค่อนข้างได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากนอกจากตัวของผู้สักจะได้รับลายเส้นที่สวยงามแล้ว พวกเขาก็ยังสามารถที่จะบันทึกความทรงจำในรูปแบบเสียงแบบต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น เสียงเพลง , เสียงของสัตว์เลี้ยง คำพูดต่าง ๆ และ เสียงของคนที่เรารัก
Nate Siggard ผู้คิดค้น SOUNDWAVE TATTOOS
โดยเจ้านวัตกรรมอย่าง Soundwave Tattoos ถูกคิดและเริ่มต้นมาจากช่างสักชาวอเมริกันที่มีชื่อว่า Nate Siggard โดยเขาคนนี้ได้รับแรงบันดาลของรอยสักแบบนี้มาจากเพื่อนคนหนึ่งของเขาที่พยายามสักเนื้อเพลงของศิลปินเอาไว้บนร่างกาย และการทำแบบนี้นี่เองที่ทำให้ตัวของเขาคิดว่า ถ้าเกิดรอยสักของเพื่อนเขาสามารถเล่นเป็นเสียงได้ก็คงดี
และหลังจากที่ได้ไอเดียแบบนี้มามันเลยทำให้ตัวของ Nate Siggard ได้ลองสักคลื่นเสียงลงบนร่างกาย โดยเสียงที่เขาเลือกจะสักลงไปนั้นเป็นเสียงของ ภรรยา และ ลูกสาวของเขา และหลังจากนั้นเขาก็ได้ระดมทีมเพื่อสร้างแอปพลิเคชัน
และ เว็บไซต์ขึ้น โดยเขาได้ตั้งชื่อทั้งแอป และ เว็บไซต์ว่า The Skin Motion ซึ่งจุดประสงค์ของแอป และ เว็บไซต์นั้นก็คือการทำให้รอยสักสามารถเล่นเสียงออกมาได้นั่นเอง
และหลังจากที่เขาทดลองอยู่สักพัก ความสำเร็จของ Soundwave Tattoos ก็ได้รับการตอบรับ และประสบความสำเร็จอย่างมาก จนทำให้ในที่สุดตัวของ Nate Siggard ก็ได้ตัดสินใจเผยแพร่วัฒนธรรมรอยสักรูปแบบนี้ผ่านสื่อทางอินเทอร์เน็ตจนทำให้มันค่อย ๆ เริ่มได้รับความสนใจจากบรรดาคนรักรอยสัก
อยากได้รอยสัก SOUNDWAVE TATTOOS ต้องทำยังไง
ซึ่งถ้าใครที่อยากจะมี Soundwave Tattoos คุณก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ 3 ขั้นตอน โดยขั้นแรกนั่นก็คือการสร้างคลื่นเสียงขึ้นมา โดยคุณสามารถที่จะอัปโหลดไฟล์เสียงที่คุณต้องการสร้างลวดลายบนร่างกายเข้าไปในเว็บไซต์ หรือ
แอปพลิเคชัน THE SKIN MOTION และจากนั้นไฟล์เสียงที่คุณอัปโหลดเข้าไปนั้นจะถูกแปลงออกมาเป็นรอยสัก
โดยรอยสักเหล่านั้นจะมาจากบรรดาเหล่าช่างสักที่ได้รับการฝึกฝน และ อบรมเกี่ยวกับการทำคลื่นเสียงเหล่านี้เป็นรอยสักด้วยวิธีที่ถูกต้อง และหลังจากที่คุณได้รอยสักนั้นมากแล้ว คุณก็สามารถเปิดใช้งานเสียงเหล่านั้นผ่านทางแอปพลิเคชันด้วยราคา 39.99 ดอลลาร์ในปีแรก และหลังจากนั้นถ้าคุณยังอยากได้ยินเสียงจากรอยสักนั้นต่อ คุณจะต้องเสียเงินเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 9.99 ต่อปี ซึ่งเราว่ามันค่อนข้างคุ้มค่ามาก ๆ กับความทรงจำที่ไม่สามารถเลือนหายไปไหนได้
ข้อเสียของ Soundwave Tattoos
และอย่างที่เราได้บอกไปข้างต้นว่ารอยสักชนิดนี้มันเป็นการผสมผสานของเรื่องราวของศิลปะ และ เทคโนโลยี มันจึงทำให้จริง ๆ รอยสักชนิดนี้เองก็มีข้อเสียเช่นกัน เพราะว่าการที่จะสัก Soundwave Tattoos เราจำเป็นที่จะต้องมีแอปพลิเคชัน The Skin Motion ก่อน
แต่ก็ใช่ว่าถ้าคุณต้องการรอยสักรูปแบบนี้ คุณจะสักได้เพียงแต่คลื่นเสียงเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วเจ้ารูปแบบคลื่นเสียเหล่านี้ คุณยังสามารถที่จะนำไปให้ช่างสักช่วยสร้างสรรค์ลวดลายรูปแบบต่าง ๆ ได้เช่นกัน เพราะในทันทีที่เสียงที่คุณต้องการถูกบันทึกลงไปฐานข้อมูลแล้ว คุณก็เพียงแค่เปิดแอปแล้วสแกนไปยังรอยสักเท่านั้น โดยหลักการทำงานของมันหากคุณนึกไม่ออก เราขอแนะนำให้คุณลองนึกถึงเวลาที่คุณไปสแกนบาร์โค้ดในการซื้อของต่าง ๆ
และอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าเสียงเหล่านี้จะอยู่กับคุณไปตลอดกาลนั่นก็คือ ตัวของผู้ก่อตั้งอย่าง Nate Siggard และทีมงานจะมีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรกับผู้ที่สัก เพื่อเป็นการรับประกันว่าเจ้าแอปที่เขาก่อตั้งขึ้นมานั้นจะอยู่ไปอีกนาน และจะยังคงมีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยถ้าเกิดวันใดก็ตามที่แอปนี้หายออกไปจากโลก ตัวของเขาก็พร้อมที่จะจ่ายค่าชดเชยให้กับผู้ที่มีรอยสักชนิดตามสัญญาที่ได้ระบุเอาไว้อีกด้วย
Soundwave Tattoos กับเรื่องราวเชิงจิตวิทยา
และเมื่อศิลปะอย่างรอยสักนั้นเป็นอีกหนึ่งศิลปะที่เกี่ยวข้องกับความทรงจำของผู้สัก แถมเจ้า SOUNDWAVE TATTOO เองก็ยังเพิ่มเรื่องราวของความทรงจำในรูปแบบเชิงเข้าไปอีก ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งเหล่านี้ย่อมมีผลทางจิตวิทยาอยู่แล้ว ซึ่งรอยสักประเภทนี้นอกจากจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงตัวตนของผู้สักแล้ว ในทางเชิงจิตวิทยาแล้วรอยสักในรูปแบบเสียงนี้ยังถูกจัดให้เป็นพฤติกรรมทางจิตเวชรูปแบบหนึ่ง
และนั่นเองจึงทำให้รอยสักคลื่นเสียงนี้ก็มีผลทางจิตใจเช่นกัน แต่ทว่ามันจะอยู่ในทิศทางไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับคนมอง เพราะอย่างที่เราได้กล่าวเอาไว้ข้างต้นแล้วว่า จุดประสงค์หลักของไอเดียรอยสักแบบนี้ มันเหมือนก็เหมือนกับการสร้างให้รอยสักเป็นลิ้นชักของความทรงจำที่ทำให้ผู้สักนักสามารถที่จะจับต้องได้มากขึ้น และ ยังเป็นเครื่องเตือนใจที่มาพร้อมกับเสียง
และแน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่เสียงของคนที่คุณรักที่มีชีวิตอยู่เท่านั้น แต่มันยังรวมถึงเสียงของคนที่คุณรักซึ่งเสียชีวิตไปแล้วอีกด้วย
ซึ่งบางทีแล้วเสียงเหล่านี้มันก็สามารถที่จะทำให้หลาย ๆ คนได้เริ่มต้นวันได้อย่างมีความหมาย รวมถึงในวันใดที่คุณมีสภาพจิตใจย่ำแย่ การที่คุณมีรอยสักคลื่นเสียงก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกมีกำลังใจการเผชิญหน้าชีวิตมากขึ้น แต่บางทีแล้วมันก็อาจจะทำให้คุณสภาพย่ำแย่ได้เช่นกัน เพราะคุณอาจจะคิดถึงเจ้าของเสียที่จากไปแล้วก็เป็นได้ แต่ยังไงแล้วก็ตามเราก็อยากให้คุณลองเช็คความพร้อมของสภาพจิตใจคุณดีเสียก่อนที่คุณจะเริ่มมีเจ้า SOUNDWAVE TATTOOS รอยสักที่สามารถบันทึกเสียงแห่งความทรงจำ
.