เราเชื่อว่าในสังคมสมัยนี้ได้มีการเปิดรับสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น และ หลาย ๆ อย่างที่เคยเป็นที่ไม่ยอมรับของกลุ่มคนต่าง ๆ ก็เริ่มได้รับการยอมรับ และ มีหลาย ๆ คนที่กล้าจทำในสิ่งเหล่านั้นมากขึ้น และหนึ่งในสิ่งที่สังคมเริ่มเปิดกว้างและทำการยอมรับมากขึ้นนั่นก็คือ ศิลปะอีกหนึ่งแขนง อย่าง การสักนั่นเอง
โดยปัจจุบันนั้นการสักไม่ใช่ตัวแทนหรือสัญลักษณ์ของพวกวัยรุ่นที่ไม่เอาโลก หรือนักเลงที่ชอบก่อคดีไปทั่วอีกต่อไปแล้ว เพราะว่าในปัจจุบันรอยสักต่าง ๆ ก็ไม่ต่างอะไรกับแฟชั่นเสื้อผ้า รองเท้า ที่สามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของคน ๆ นั้นได้มากขึ้น และเพราะการได้รับการยอมรับที่มากขึ้นนี้เองที่มันทำให้บรรดาร้านักนั้นเกิดขึ้นกันอย่างมากมาย และในวันนี้เราจะขอพาทุก ๆ ไปพบกับเรื่องราวที่น่าสนใจในวงการสักที่หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยรู้มาก่อนก็เป็นได้ แถมความลับเหล่านั้นยังเป็นความลับที่เรารวบรวมมาจากบรรดาช่างสักระดับมืออาชีพที่มีรางวัลการันตีมาแล้วอีกด้วย ซึ่งความลับเหล่านั้นจะมีอะไรบ้าง เอาเป็นว่าอย่ารอช้า เราไปเริ่มต้นกันเลยดีกว่า
ความลับของการสักอันดับแรกที่บรราดาเหล่าช่างสักระดับมากฝีมือหลาย ๆ คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันนั่นก็คือ ลายสักแนว
Realistic และ Portrait โดยทุก ๆ คนไม่ว่าจะเป็นเก๋าที่มีประสบการณ์อยู่บนสังเวียนการสักต่างเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ต้องสงสัยเลยว่า การสักแบบ Realistic และ Portrait มันเป็นอะไรที่สักยากมาก ๆ โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ช่างกัวงวลใจมากที่สุดนั่นก็คือ
บรรรดาเหล่าช่างจะต้องทำให้ผลงานเหล่านั้นออกมาเหมือนต้นแบบมากที่สุด ทั้งการสักรูปคน สัตว์ หรือ สิ่งของ หนำซ้ำ
การสักแบบ Realistic และ Portrait นั้นจำเป็นที่จะต้องเน้นเรื่องอารมณ์ รวมถึง แสง เงา ของผลงานนั้นใหมีความเสมือนจริง
จึงทำให้บรรดาเหล่าช่างสักที่จะสามารถสักแนว Realistic และ Portrait ได้อย่างชำนาญนั้นต้องมีฝีมือมาก ๆ รวมถึงชั่วโมงบินในการสักที่ค่อนข้างสูง และ อย่างที่เราเคยบอกเอาไว้ว่า หากใครที่คิดอยากจะสักแนวนี้ สิ่งที่ตามมาของการสักแนว Realistic และ Portrait นั่นก็คือราคาที่สูง เนื่องจากความชำนาญของช่างนั่นเอง
อีกหนึ่งความลับของการสักนั่นก็คือ การสักบนใบหน้า โดยแม้ว่าสังคมในบ้านเราเองจะได้รับการเปิดกว้าเรื่องรอยสักต่าง ๆ มาพอสมควรแล้วก็ตามที แต่เราก็ต้องยอมรับว่าก็ยังมีบางส่วนที่ไม่ค่อยยอมรับการสักเท่าไหร่นัก และนั่นเองที่ทำให้การสักบริเวณใบหน้านั้นสามารถที่จะส่งผลต่อชีวิตของคน ๆ หนึ่งได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการทำให้ดูขาดความน่าเชื่อถือในหน้าที่การงาน หรือ การไปสมัครงาน นอกจากนั้นแล้วมันยังสร้างความหวาดระแวงให้กับบรรดาเหล่าคนที่ต้องไปร่วมทำธุรกรรมต่าง ๆ ด้วย จึงทำให้มีช่างสักหลาย ๆ ที่จะเลือกปฏิเสธการสักบนใบหน้า และเหล่าช่างสักก็ยังฝากเตือนมากอีกด้วยว่า การจะสักบนใบหน้านั้นต้องคิดให้ดี และ คุณต้องมั่นใจแบบสุด ๆ ก่อนเท่านั้น ถึงเลือกที่จะมาสักในบริเวณนี้
อีกหนึ่งความลับของการสักสำหรับเหล่าช่างดัง ๆ นั่นก็คือ มันจะมีลายสักหนึ่งที่เป็นนิยมชมชอบคนหมู่มาก แต่จริง ๆ แล้วลายสักนั้นมันช่างเป็นสิ่งที่น่าเบื่อสำหรับช่างเสียเหลือเกิน โดยลายสักนั่นก็คือ การสักแนว Tribal ซึ่งถ้าถามว่าทำไมลายสักแบบนี้มันถึงน่าเบื่อสำหรับช่างสักแล้วละก็คำตอบง่าย ๆ ก็คือ การสักแนว Tribal หรือแนวลายชนเผ่าต่าง ๆ นี้มันจำเป็นที่ต้องเน้นไปที่ลวดลายของเส้น ให้มีความคมเข้มของสี แถมบางจุดเองก็ยังต้องใช้ความประณีตค่อนข้างสูง และ คุณลองคิดดูสิว่า วัน ๆ คุณจะต้องจดจ่ออยู่แต่เพียงกับเส้นตรง เส้นโค้งเท่านั้น มันจะไม่ทำให้รู้สึกน่าเบื่อได้อย่างไร
อีกหนึ่งควาลับของการสักที่เราได้ไปสืบเสาะมาจากเหล่าช่างสักนั่นก็คือ หลาย ๆ คนน่าจะเคยมีคำถามว่า ระหว่างผู้ชาย หรือ ผู้หญิง เพศไหนกันแน่ที่จะสามารถทนต่อความเจ็บปวดในการสักได้มากกว่ากัน ซึ่งคำตอบของหลาย ๆ เราก็เชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ชาย แต่ทว่าคำตอบของเหล่าช่างสักนั้นกลับบอกว่าเป็นผู้หญิง เพราะว่า เพศหญิงนั้นเป็นเพศถือได้ว่าเป็นเพศที่สามารถทนต่อความเจ็บปวดได้ส฿ง แถมเพศหญิงยังถือได้ว่าเป็นเพทศที่มีความรักสวย รักงาม จนทำให้ชีวิตนั้นเกี่ยวข้องกับเข็มมากว่าเพศชาย จนทำให้ได้คำพูดจากพวกเธออยู่เสมอ ๆ ว่า ถ้าอยากสวยต้องอดทน
ความลับของการสักที่ช่างสักมักจะเจอเป็นอันดับต่อมานั่นก็คือบรรดาเหตุการณ์ระทึกต่าง ๆ อย่างที่หลาย ๆ คนรู้ว่าการสักนั้นคือการเอาเข็มที่จุ่มน้ำหมึกแทงลงไปบนผิวหนังของร่างกาย และแน่นอนว่าสิ่งที่ตามมานั่นก็คือ ความเจ็บปวดนั่นเอง ซึ่งลูกค้าบางรายนั้นแม้ว่าจะทำใจมาแล้ว แต่เมื่อถึงเวลาจริง ๆ พวกเขาและเธอก็อาจจะเป็นลมไปได้ในขณะที่มีการสักอยู่ แถมบางรายยังถึงขั้นกับเกิดอาการชักเกร็ง ในระหว่างการสักเลยก็มี จึงทำให้ช่างสักหลาย ๆ แนะนำว่าให้คุณลองเตรียมใจให้พร้อม และ ทำใจให้สบาย พักผ่อนเยอะ ก่อนที่จะเริ่มต้นสักนั่นเอง
ความลับของการสักอันต่อมานั่นก็คือ เรื่องของราคา ซึ่งแน่นอนแหละว่าหลาย ๆ คนที่อยากจะเริ่มต้นมีลวดลายอยู่บนร่างกายของตัวเองนั้นมีควาฝันที่อยากได้ลายสักสวย ๆ กันทั้งนั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่รู้ราคาว่าเป็นอย่างไร โดยการสักนั้นจะมีราคาไม่ตายตัว ซึ่งมันจะขึ้นอยู่กับมาตรฐานของช่างแต่ละคน รวมถึงประเภทของลวดลาย ขนาด รวมไปถึงความละเอียดของชิ้นงานนั้น ๆ อีกด้วย ซึ่งถ้าคุณเลือกสักกับช่างสักที่มีชื่อเสียง ราคาการสักก็มักจะแพงตามไปด้วย แต่ก็ใช่ว่าการเลือกราคาแพง ๆ ในการสักนั้นจะทำให้คุณสามารถพึงพอใจได้เสมอไปนะ
ความลับต่อมาของการสักนั่นก็คือ ส่วนที่เจ็บที่สุด ซึ่งแน่นอนแหละว่าหลาย ๆ คนมันจะถามกันว่าการสักบริเวณไหนที่สามารถจะสร้างความเจ็บปวดให้กับเราได้มากที่สุด ซึ่งบรรดาเหล่าช่างสักต่างก็ลงความเห็นกันว่า การสักบริเวณแถวสีข้างนั้นถือได้ว่าเจ็บที่สุด เนื่องจากบริเวณนั้นมีเนื้อค่อนข้างน้อย และ ใกล้กระดูกซี่โครงเป็นอย่างมาก จึงทำให้ผู้สักมักจะรู้สึกสั่นสะท้านไปถึงกระดูก แต่อย่างไรก็ตามทั้งหมดมนี้มันก็ยังขึ้นอยู่กับความทนของแต่ละคน ส่วนสำหรับใครที่อยากจะเริ่มต้นสัก แต่ยังกลัวการสักอยู่แล้วละก็ จุดที่จะทำให้คุณเจ็บน้อยที่สุดนั้นก็คือ บริเวณต้นแขน
ความลับต่อมาของการสักนั่นก็คือ ความคงทน ซึ่งหลาย ๆ คนเชื่อว่าการสักบริเวณที่หลัง หรือ ท้องแขน นั้นจะเป็นการสักที่รอยสักสามารถติดอยู่นาน และ สวยคงทนได้ไปตลอดการ แต่ทว่าจริง ๆ ความเชื่อนั้นกลับไม่ได้ถูกต้องไปสักทีเดียว เพราะช่างสักที่มีประสบการณ์ และ มีความเป็นมืออาชีพ ต่อให้พวกเขาสักที่บริเวณไหนก็ตาม พวกเขาก็สามารถที่จะทำให้รอยสักนั้นมันสมบูรณ์คงทนอยู่ได้ตลอดกาล อีกทั้งสภาพผิวหนังของแต่ละคนก็เป็นปัจจัยหนึ่งด้วยที่จำให้รอยสักนั้นอยู่ได้นานขนาดไหน
อีกความลับต่อมาของการสักนั่นก็คือ การสักให้กับบรรดาเหล่านักเรียน โดยช่างสักหลาย ๆ คนเลือกที่จะปฏิเสธการสักให้กับเด็กที่มีอายุยังไม่ถึง 18 ปี เนื่องจากตามกฎระเบียบของโรงเรียนต่าง ๆ นั้นมีข้อห้ามเอาไว้ ซึ่งตัวช่างสักส่วนใหญ่จะให้เวลากับบรรดาเหล่านักเรียนที่ยังอยากสักไปพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อน แล้วค่อยกลับมาสัก และเหล่าช่างสักมักจะเน้นย้ำอยู่เสมอ ๆ ว่า
การสักนั้นจะทำให้รอยสักนั้นอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ซึ่งบางทีมันอาจส่งผลต่อครอบครัว และ หน้าที่การงานในอนาคตที่เหล่านักเรียนเหล่านั้นยังไม่รู้อีกด้วย